หากเราคิดอยากได้ “รถยนต์กระบะ” สักคัน แต่เงินในกระเป๋า หรือในบัญชีธนาคาร อาจไม่เพียงพอจะไปโชว์รูมแล้วถอยคันใหม่ป้ายแดงออกมา เพราะกำลังทรัพย์ มันมีพอกับ “กระบะมือสอง” เท่านั้น ก็ต้องควรรู้สักนิดว่า ก่อนจะไปเต๊นท์รถยนต์มือสอง หรือจะไปส่องหากระบะเก่าของเขา แต่ใหม่ของเรา ต้องมีเทคนิคสังเกตตัวรถยนต์ในส่วนไหนบ้าง
Chobrod ขอนำเสนอเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่อาจจะเป็นความรู้ให้กับผู้ที่เล็งรถกระบะมือสอง เพื่อเติมเต็มความรู้เอาไว้ไปเลือกหารถยนต์คู่ใจของตัวเองกัน กับ 9 วิธีส่องหา กระบะมือสองเอาไว้ใช้งาน ว่าแล้วก็ไปเริ่มกันเลย
ส่องภายนอก
1.ตัวถังรถ สำคัญมากนะครับในส่วนนี้ และมันทำให้หลายคนต้องละเลยทีเดียว วิธีสังเกตอาจจะยากแต่ก็ยังมีวิธีง่ายๆ หาเพื่อน หรือญาติที่ใช้รถกระบะที่เราเล็งเอาไว้ แล้วพาเขาไปดูด้วยกันเลย เพราะด้วยความคุ้นเคยของผู้ที่เคยใช้งานรถยนต์รุ่นนั้นเป็นประจำ จะช่วยให้สังเกตความผิดปกติได้ง่ายขึ้น
2.เปิดฝากระโปรง ดูเครื่องยนต์ อาจจะยากเกินไปที่จะดูว่าเครื่องยนต์มันสมบูรณ์มากแค่ไหน ถึงจุดนี้เราอาจจะพอสังเกตความ “ฟิต” ของเครื่องยนต์ในเบื้องต้นได้ครับ ด้วยการเช็คจุดที่อาจมีของเหลวรั่วซึมในจุดใดหรือไม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นนำ้มันเครื่อง หม้อน้ำ ฯลฯ ที่เป็นของเหลวจะเป็นตัวกำหนดได้ว่า กระบะที่คุณกำลังจะซื้อนั้น จะได้มาขับ หรือมาซ่อมต่อ
ของเหลวต้องไม่รั่วซึม
3.ช่วงล่าง อาจจะต้องขอแรงเต๊นท์รถยนต์ หรือเจ้าของรถกระบะที่ต้องการขายช่วยยกขึ้นเพื่อให้ดูว่าใต้ท้องของเจ้ากระบะมีความสมบูรณ์หรือไม่ และต้องดูทุกจุดทีเดียวครับ ทั้งโช็คอัพที่ยังสามารถรับแรงกระแทกได้ดีหรือไม่ ล้ออะไหล่ (บางรุ่น) ที่อยู่ใต้ท้องรถยนต์มีการง่ายต่อการขันออกเพื่อใช้งานในกรณีฉุกเฉินหรือไม่ รวมถึงสภาพโดยรวมยิ่งต้องบรรทุกสิ่งของด้วยแล้วต้องให้ความสำคัญ เพราะมันหมายถึงความปลอดภัยขณะที่ใช้งาน
4.ท้ายรถกระบะ ต้อง “เปิด-ปิด” ฝาท้ายให้แน่ใจครับว่าอยู่ในสภาพที่ดีและใช้งานได้ตามปกติ ไม่มีอาการหลวม หรือสั่นคลอนล็อกไม่อยู่ เพราะขับๆ ไปใช้งานไป เผื่อบรรทุกของไปด้วย หากฝาท้ายเปิดเองอย่างอัตโนมัติก็อาจทำให้สิ่งของหล่นลงมาเกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน และมันยิ่งทำให้เจ้าของรถกระบะคันโก้ยุ่งยากเข้าไปอีก
ดูเพิ่มเติม
>> กระบะ TOYOTA ยอดขายแซง ISUZU โค้งสุดท้ายปลายปี
>> FORD RANGER มือสอง “เก่าของเขา ใหม่ของเรา” ยังครองใจ
ส่องไปเลย ช่วงล่างกระบะมือสอง จุดนี้ต้องปลอดภัย
ไปดูภายใน
5.ระบบไฟฟ้า เปิดประตูเข้าไปนั่งในที่นั่งด้านคนขับ ทุกอย่างในแผงคอนโซลข้างหน้าก็ต้องใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ระบบแอร์ทำงานดีหรือไม่ วิทยุเครื่องเสียงเป็นอย่างไร ระบบไฟส่องสว่างนำทางยังพร้อมสมบูรณ์ดีหรือเปล่า จุดนี้ก็รวมถึงเบาะที่นั่งด้วยนะครับ ว่าชำรุดหรือไม่
6.สตาร์ทรถ เดินเครื่องยนต์ ฟังเสียงรบกวนที่ผิดปกติครับ ปิดกระจกทุกด้านแล้วฟังว่าระบบการเก็บเสียงป้องกันเสียงจากภายนอกมีสภาพเป็นอย่างไร จากนั้นก็หมุนพวงมาลัยไปมาดูความ “ลื่น” ว่ามันคล่องตัวดีอยู่หรือไม่ ตรวจสอบระบบเกียร์ว่ามีอะไรผิดปกติ ซึ่งเกียร์นี่สำคัญนะครับ เพราะเป็นส่วนที่มีราคาแพงที่สุดของเจ้ารถกระบะทีเดียว
ระบบไฟฟ้าภายในต้องใช้งานได้สมบูรณ์
ทดสอบจุดสำคัญ
7.ทดลองขับ ข้อนี้สำคัญครับ เพราะคุณจะตัดสินใจซื้อไม่ได้เด็ดขาดหากไม่ได้ลองขับดูด้วยตัวเองเสียก่อน การทดสอบให้สังเกตจุดสำคัญคือระบบเกียร์ครับ ว่าใช้งานได้ดีหรือไม่ ส่วนเกียร์สำคัญอย่างไรก็ให้กลับไปดูที่ข้อ 6.นะครับ นอกจากนี้ ให้ทดสอบว่าขณะใช้งานมุมมองต่างๆมีอะไรผิดปกติหรือไม่ รวมถึงระบบไฟฟ้าขณะใช้งานก็ต้องอยู่ในสภาพที่ดีและพึงพอใจด้วยครับ
กระบะมือสอง ต้องทดลองขับก่อนตัดสินใจ
8.ขับเสร็จ ให้เช็คต่อ ส่วนนี้ต้องดูจุดรั่วซึมของของเหลวต่างๆ ว่าหลังจากการทดลองขับแล้วมีอะไรที่รั่วซึมหรือไม่
สิ่งสำคัญ เอกสาร
9.เอกสารประจำรถกระบะสำคัญมากครับ คู่มือการใช้งาน สมุดทะเบียน สมุดที่บันทึกประวัติการรับบริการเป็นอย่างไร
ใช้ประโยชน์เพื่ออะไร ตามใจต้องการได้เลย
ทั้งหมดคงพอเป็นประโยชน์ได้ไม่มาก็น้อยนะครับ สำหรับใครก็ตามที่เตรียมมองหารถยนต์กระบะมือสองมาใช้งาน ทั้งสัญจรตามปกติ ซื้อมาแต่ง หรือซื้อมาใช้งานบรรทุกของเป็นอาชีพ แต่ฝากอีกทริปแนะนำครับ หากไม่แน่ใจ ก็ขอให้พาช่างหรือผู้เชี่ยวชาญไปดูรถยนต์ที่เต๊นท์ก็ได้ และเสียเงินเป็นค่าความรู้เพียงแค่เล็กน้อยไม่มากนัก แต่ก็ยังได้ความอุ่นใจกลับมา และยังช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วย
ดูเพิ่มเติม
>> 50 ปี กับความเป็นมาของรถกระบะยอดนิยม Toyota Hilux
>> คุณรู้ยัง 5 รถกระบะยอดนิยม ขวัญใจคนไทย!!!
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้เเละคราวหน้าเรื่องอะไรติดตามไปพร้อมกันเลยนะครับ
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี