BMW เติมเต็มตลาดครอสโอเวอร์มากขึ้นในตระกูล X โมเดล ซึ่งก่อนหน้า ตั้งแต่ X1-X6 มีเป็นรหัส X2 ที่ยังขาดไป และการมาของ BMW X2 นั้นจะไปซ้ำกับพื้นที่ X1 หรือเปล่า และด้วยขนาดที่ใกล้เคียง นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ผู้ซื้อต้องมีการนำสองรุ่นนี้มาเปรียบเทียบก่อนอย่างแน่นอน และการตัดสินใจสุดท้ายควรจะไปอยู่ที่คันไหนระหว่าง BMW X2 กับ BMW X1 Chobrod จะพาไปดูรายละเอียดกัน
เปรียบเทียบ BMW X2 กับ BMW X1 เหมือนกันต่างที่อารมณ์
ความสดใหม่จากการเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานเมื่อต้นปี 2018 ในไทย อาจจะเป็นข้อได้เปรียบหนึ่งที่ทำให้ BMW X2 ดูน่าสนใจนิดๆ กับรุ่นย่อยที่เปิดโต้งๆ มาเพียงรุ่นเดียว อีกทั่งยังเป็นรถนำเข้าแบบ CBU จึงทำให้รถรุ่นนี้มีราคาแพงขึ้นมาอีกหน่อย น่าจะพอรู้เป้าหมายของ BMW ประเทศไทย ว่าไม่ได้หวังสูงให้ยอดขายถล่ แต่เป็นรุ่นที่ “ของมันต้อง” ของเหล่า “Bimmer”สาวก BMW
ส่วนในฝั่งของ BMW X1 ที่ทำตลาดมาเป็นเจ็นที่สองแล้ว กับโฉมรหัส F84 ก็มีความเปลี่ยนแปลงจากเจ็นก่อนหน้าไม่น้อย เชื้อสายของความเป็นรถ BMW ชัดเจนขึ้น แม้แค่มองผ่านที่ด้านหน้า เหมือนกับนำรุ่นที่ใหญ่กว่าอย่างรุ่น X3, X5 มาย่อส่วน มอบเสน่ห์แห่งมนต์ขลังของรถจากค่ายใบพัดฟ้าขาวได้มากขึ้นกว่าเดิม
>>> อ้างถึง: ราคา bmw
ราคาต่างกันพอสมควร แม้ขนาดตัวรถจะอยู่ในคลาสใกล้เคียงหรือแทบจะเป็นคลาสเดียวกัน แต่ด้วยที่ BMW X2 พ่วงท้ายมาด้วยคำว่าเป็นรถนำเข้า ไม่ได้ประกอบในประเทศ ก็มีทั้งแง่ดีและเสีย แง่ดีก็คือความภูมิใจ มั่นใจขึ้นเล็กๆ ของผู้ซื้อ ที่เป็นรถนำเข้า ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว งานประกอบของทั้งสองเกรดทั้งแบบนำเข้า และประกอบในไทยตอนนี้ ก็แทบไม่แตกต่างกันแล้วในเรื่องคุณภาพ
X2 และ X1 คันไหนที่ตรงกับกับความต้องการของคุณ?
ส่วนข้อเสียน่ะหรอ? ก็คือความต่างของราคา ที่แม้เรื่องประกอบนอกประกอบในจะไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้ราคาต่างกันมากขนาดนี้ แต่กับรถขนาดเดียวกันที่ราคาห่างกันเกือบสี่แสนก็น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อได้ไม่น้อย
BMW X2
จากภายนอกที่ใกล้เคียง และขนาดตัวรถที่ชื่อรุ่นอาจจะทำให้คุณเข้าใจผิดว่า X2 นั้นใหญ่กว่า X1 ซึ่งเมื่อมองตามมิติจริงๆ BMW X2 คือครอสโอเวอร์จาก BMW ที่เล็กที่สุด ความโดดเด่นที่ด้านหน้ากับกระจังทรงไตคู่ดีไซน์ใหม่ ฐานกว้างกว่าที่จะมาเป็นจุดเริ่มต้นในโมเดลจาก BMW รุ่นหน้าต่อไป ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Day time running รับกันกับกระจังได้เป็นอย่างดี พร้อมกันชนทรงบึกบึน มีสีเงิน Frozen Grey ตัดขอบหนาที่ช่องดักลมด้านล่าง ขนาบข้างด้วยไฟตัดหมอกทรงกลม เติมเต็มและลงตัวกับการนำสีเงินเดียวกับกันชน มาตกแต่งที่รอบคันรถ ต่อเนื่องจากซุ้มล้อหน้า ด้านข้างบริเวณประตู จรดที่ดิฟฟิวเซอร์หลัง ไม่ใช่แค่พรีเมี่ยมแต่คือความสปอร์ตที่ไม่เคยมีในรถ BMW และที่เป็นที่กล่าวถึงของรุ่นนี้คือโลโก BMW บริเวณเสา C ทั้งสองฝั่งที่ทาง BMW นำมาติดไว้เพิ่มกิมมิค แฝงความคลาสสิคในรถยุคเก่ามาให้ ซึ่งน่าจะถูกใจสาวกค่ายนี้กันไม่น้อย หลังคากระจก Panorama, ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า และล้ออัลลอย T-spoke ขนาด 19 นิ้วรัดด้วยยางแบบรันแฟลต
ดูเพิ่มเติม:
>> ราคา bmw x1
>> เปิดตัวอย่างเป็นทางการ BMW X2 2018 ใหม่ พร้อมวางขายต้นปี่หน้า
X2 รูปทรงโดยรวม สปอร์ต เร้าใจกว่า X1 จนเปลี่ยนไปอีกอารมณ์ เอาใจวัยรุ่นโดยเฉพาะ
BMW X1
เด่นที่สุดคือเรื่องกระจังหน้าที่มากับดีไซน์คล้ายรถในตระกูล Series 7 ซึ่งโฉมนี้เป็นเจ็นที่สองแล้วของ X1 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2015 และการเปลี่ยนแปลงภายใต้เงื่อนไขของรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่มาจาก BMW ก็เริ่มชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย เรื่องสมรรถนะอาจไม่สำคัญเท่าพื้นที่ใช้สอยภายใน แต่จิตวิญญาณของ BMW ต้องอยู่ครบ กันชนหน้าที่รูปทรงเปลี่ยนจากรุ่นปกติ คล้ายกับรถสปอร์ตในตระกูล M ที่เพิ่มความสปอร์ตมาให้มากกว่า ฝากระโปรงหลังเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าเช่นกัน และในรุ่น sDrive20d M Sport นี้ความพิเศษคือ จะมาพร้อมกับ ชุดแต่งดีไซน์แบบ M Sport รอบคัน, ราวหลังคาสีดำ, ขอบหน้าต่างสีดำเงา, ล้ออัลลอยของ M ลวดลาย Double-Spoke ขนาด 18 นิ้ว 5 ก้านคู่พร้อมยางแบบ Runflat 225/50 R18
>>> ดูเพิ่มเติม รถ bmw x1 มือสอง
X1 ไม่หวือหวาเท่า X2 และสปอร์ตนิดๆ ด้วยชุดแต่ง M Sport
ด้วยรูปทรงของ X2 ที่มาเน้นในความสปอร์ต ด้วยสัดส่วนตัวรถคล้ายกับคูเป้ยกสูง (ความสูงน้อยกว่า แต่ความกว้างมากกว่า) จึงทำให้เปรียบเทียบได้ยากกับ X1 ที่สำหรับคนที่ยังต้องการอารมณ์เรียบหรู ดูแพง ในแบบรถ SUV ที่ BMW X1 มีให้ ถึงแม้ X1 ในรุ่น M Sport จะมากับกันชนหน้า และชุดแต่งนิดหน่อยที่ให้ความสปอร์ตได้มากขึ้น แต่ด้วยสัดส่วน มิติโดยรวมแล้วนั้น X2 ก็ยังคงมอบความสปอร์ตมาให้ได้มากกว่าอยู่ดี
สำหรับใครที่เลือไม่ถูกในสองรุ่นนี้ คิดง่ายๆ ว่า ถ้าอยากได้ในเรื่องดีไซน์ความสปอร์ต Hot Hatch มิติรถลงตัว ลูกเล่นสดใหม่แฝงด้วยความคลาสสิกนิดๆ สไตล์ BMW ให้มองไปที่ BMW X2 แต่ถ้าชอบสาย SUV เป็นหลัก หลังคาสูงๆ ลุคลุยๆ สปอร์ตนิดๆ ถูกใจทั้งครอบครัว BMW X1 ก็น่าจะเพียงพอโดนใจ แต่สรุปแล้วถ้าให้เลือกสำหรับผู้เขียน ก็ขอจิ้มให้ BMW X2 ได้คะแนนในยกนี้ไป
ภายในของ X2 ที่คล้ายกับ Copy & Paste X1 ออกมา ในเรื่องของรูปทรง แต่เด่นกว่าที่การเลือกใช้วัสดุ และการตกแต่งให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เบาะผ้าลายหกเหลี่ยม พร้อมวัสดุอาคันทาร่า พาให้รู้สึกถึงความสปอร์ตแบบเต็มขั้นราวกับรุ่น M4 เดินตะเข็บเย็บที่เบาะ และแผงแดชบอร์ดด้วยสีเหลือง แต่ไม่ต้องห่วงถ้าต้องการแบบเรียบหรู BMW ก็มีเบาะหนังแท้ Dakota ให้เลือก วัสดุ High-gloss สีดำ, อะลูมิเนียม และลายไม้ Oak Grain สีน้ำตาลด้าน ถูกนำมาผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว กับการตกแต่งของภายใน X2 รอบคัน รวมถึงเทคโนโลยีในการใช้งาน ระบบ iDrive ที่แสดงผลผ่านหน้าจอแบบแยกตั้งขนาด 8.8 นิ้ว ระบบเสียงชั้นเลิศจาก Harman Kardon รองรับ Apple CAR PLAY พร้อม Intelligence Voice Control สั่งการด้วยเสียง
ภายในเร้าใจกว่าด้วยการตกแต่ง โฉบเฉี่ยวเร้าใจ ต่อยอดจากดีไซน์ของ X1
ส่วนทางด้าน X1 ที่ถูก X2 นำไปต่อยอดจนเป็นสปอร์ตแบบเหลือล้น ที่เดิมทีมอบความเรียบหรูไว้จนถึงแล้วขั้นสุด เน้นวัสดุที่เป็นหนังตกแต่งผสานกับวัสดุ วัสดุ High-gloss สีดำ, อะลูมิเนียม สัมผัสของหนัง Dakota มีให้เลือก 2 สี ดำและน้ำตาล ตั้งแต่ แผงประตู, เบาะนั่ง, แผงแดชบอร์ดจนไปถึงคอนโซลกลาง ซึ่งถ้าใคร “พอเพียง” กับความหรูหราระดับยุโรป X1 ก็สามารถมอบให้ได้ครบ แต่ถ้าอยากก้าวขึ้นไปอีกขั้น ถวิลหาความสปอร์ตระดับเทียบในคลาสรุ่น M ไม่ว่าจะเป็น M4, M5 ซึ่งสาวก BMW จริงๆ เท่านั้นที่จะเข้าใจ BMW X2 ตอบโจทย์ได้ดีกว่าในอีกระดับราคา
ภายในของ X1 เรียบง่าย หรูหรามาตรฐานยุโรป ที่ทุกคนในครอบครัวน่าจะแฮปปี้
เลือกง่ายๆ วัยรุ่นหน่อย แต่อยากได้รถ Crossover ที่ภายในอารมณ์เดียวกับรถสปอร์ตขั้นสูง เลือก BMW X2 แต่สำหรับความหรูหรามาตรฐาน(แบบรถยุโรป) ใช้งานครบทุกโจทย์ครอสโอเวอร์ SUV เนื้อดี แค่ BMW X1 ก็เพียงพอแล้ว แต่แน่นอนถ้าให้เลือกสำหรับผู้เขียน ก็ต้องเลือกไปที่ความพิเศษที่ “ยิ่งกว่า” อย่าง BMW X2 เป็นฝ่ายเข้าวิน
BMW X2 รุ่น sDrive20i
X2 มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0L BMW TwinPower Turbo รหัส B48A20 ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 189 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 280 Nm ที่ 1,350 ถึง 4,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic DCT 7 Speed แบบ คลัตซ์คู่ ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD
ไม่สปอร์ตเท่าส่วนอื่นสำหรับในเรื่องเครื่องยนต์ใน X2
BMW X1 sDrive20d
ลงท้ายด้วย “D” X1ในตัวท้อปจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส B47C20 BMW TwinPower Turbo ขนาด 2.0L พร้อมแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 188 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 Nm ที่ 1,750 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 Speed Steptronic Sport เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD
เครื่องยนต์ดีเซลใน X1 ความแรงไม่ยิ่งหย่อนกว่าในรุ่น X2
โหมดการขับขี่เลือกได้ 3 โหมดทั้งสองรุ่น
เทียบน้ำหนัก และสมรรถนะของ BMW X2 รุ่น sDrive20i และ BMW X1 sDrive20d
จากรายละเอียดจะเห็นว่าความแรงที่ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมไปถึงความเร็วสูงสุดที่ทำได้ แทบไม่ต่างกัน รวมไปถึงน้ำหนักตัวรถ ที่ X2 อาจจะเบากว่านิดหน่อย สมรรถนะของทั้งสองรุ่นทั้ง X2, X1 จึงสรุปว่าไม่ต่างกัน แต่ X1 sDrive20d อาจจะมีดีกว่าที่เครื่องยนต์เติมดีเซล ซึ่งประหยัดกว่าเวลาเติมแต่ละที และสำหรับ X2 ทำให้ผิดหวังเล็กๆ ในเรื่องขุมกำลัง ที่เมื่อจะขายความเป็นสปอร์ต Hot Hatch ที่ทรงมาได้ตั้งแต่ภายนอกยันภายในแล้ว แต่เรื่องความแรงกลับไม่ได้มอบความรู้สึกแตกต่างกับรถที่ขายความเรียบหรูเป็นหลักอย่าง X1 สักเท่าไร แม้ราคาจะถูกกว่าแต่เรื่องเครื่องยนต์ความแรง สมรรถนะไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่าเลย ยกนี้จึงต้องยกให้ BMW X1 sDrive20d เป็นฝ่ายเข้าวินไป
ดูดีทั้งคู่ ต่างกันที่รายละเอียด ที่จะบอกกับคุณได้ว่ารุ่นไหนเหมาะกับความต้องการของคุณ
เมื่อ BMW X1 คือครอสโอเวอร์ SUV ที่ให้อารมณ์ของความ “รักครอบครัว” เสียมากกว่า จากรูปทรงของภายนอก รวมไปถึงการตกแต่งที่ภายใน ที่ทำออกมาสำหรับทุกคนในครอบครัวนั่งต้องรัก ฟิน มีความสุข ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดง จวบไปจนผู้ใหญ่ในบ้าน ก็จะ “ปลื้ม” กับความเรียบร้อยหรูหราภายในและภายนอก ด้วยมาตรฐานของ BMW มอบมาให้ X1 เพียงพอแล้วสำหรับคำว่า “รถครอบครัว” ดูภูมิฐาน หรูหรา และคุณไม่ได้นั่งคนเดียวบ่อยครั้งนัก ต้องฟังความพอใจของสมาชิกทั้งหลายที่ร่วมทางอยู่เป็นนิจ
และความจริงที่ว่าการมาใหม่ของ BMW X2 คือการเติมเต็มโหมดสปอร์ต (ไม่รวมเรื่องเครื่องยนต์) ของ BMW X1 น่าจะใช้คำนี้ได้ แต่ด้วยดีไซน์ที่ภายนอก ค่อนข้างจะแตกต่าง ชัดเจนในความเป็นครอสโอเวอร์ และสปอร์ตแบบคูเป้มากกว่า X1 ที่เอนเอียงไปในทางสำหรับครอบครัวมากเกิน กลุ่มลูกค้าหลักของ X2 ที่ BMW ตั้งไว้ คือกลุ่มวัยรุ่นเป็นสำคัญ เพื่อเอาใจคนรัก BMW ที่ต้องการรถครอสโอเวอร์ แต่ไม่อยากให้ดูแก่เกินไปเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย รวมถึงประเภท “Young at heart” ที่วัยอายุอาจจะสูง แต่หัวจิตหัวใจไม่แก่ตาม เมื่อได้ขับ X2 ก็จะทำให้ดูหนุ่มขึ้น สาวขึ้นได้อีกเป็นสิบปี
กลุ่มเป้าหมายชัดเจน วัยรุ่นทั้งกายหรือใจ X2 แนวครอบครัวต้อง X1
ในการเปรียบเทียบครั้งนี้สิ่งที่สัมผัสได้จากทั้งสองรุ่น ภาพรวมเหมือนกันแต่แตกต่างที่อารมณ์ คำถามคือ คุณเป็นผู้ซื้อประเภทไหน? ถ้าเรื่องเงื่อนไขของราคาที่ต่างกันเกือบ 4 แสน ไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก เน้นไปที่ความพอใจเป็นประสงค์ ด้วยสเปครายละเอียดของอุปกรณ์แทบไม่ต่างในเรื่องการใช้งาน รวมไปถึงเรื่องสมรรถนะการขับขี่ ดังนั้นเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก และอารมณ์ที่รถแต่ละคันมอบให้จึงเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญ
ในการตัดสินใจเลือกซื้อระหว่างทั้งสองรุ่นนี้ และการออกแบบดีไซน์ใหม่ทั้งหมด (ที่ภายนอก)ใน BMW X2 ก็ทำได้โดนใจกว่า บวกกับความสดใหม่ที่ยังคงแฝงมนต์เสน่ห์ความเป็น BMW เอาไว้ จึงไม่ยากที่จะเลือกว่าระหว่าง BMW X2 กับ BMW X1 สองคันนี้…
BMW X2 คือฝ่ายที่น่าซื้อมากกว่า
*ราคาอย่างเป็นทางการ BMW X2 (F39)
X2 sDrive20i M Sport X ราคา 2,999,000 บาท
*ราคาอย่างเป็นทางการ BMW X1 (F48) รุ่นปี 2018
X1 sDrive18i xLine ราคา 2,259,000 บาท
X1 sDrive18d xLine ราคา 2,359,000 บาท
X1 sDrive20d M Sport ราคา 2,559,000 บาท
*ราคาตรวจสอบเมื่อ เดือน 5/2018
แล้วคุณล ะเป็นลูกค้าที่จะเลือกซื้อรถในแบบไหน จะเลือก BMW X2 ที่เน้นความสปอร์ต โฉบเฉี่ยวเร้าอารมณ์เป็นหลัก หรือจะเป็นแนวครอบครัว แฮปปี้กันทุกคนเวลาที่ได้นั่งอย่าง BMW X1 บอกกับเรา Chobrod ให้รู้หน่อย ใต้คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย
ถ้าคุณสนใจกับรถมือสอง BMV สามารถกดเข้าดูที่นี่
ดูเพิ่มเติม:
>> BMW Concept Z4 ตอกย้ำเอกลักษณ์อันแข็งแกร่งของแบรนด์ BMW
>> 10 ตำนานรถพลัง M ที่ดีที่สุดของ BMW