หายสงสัยกันได้เเล้วนะ กับความแตกต่างของ Ford Ranger กับ Ford Ranger Raptor

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 1 ต.ค 2561
แชร์ 0

กระบะขนาดกลางในไทยอย่าง Ford Ranger ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เมื่อมีรุ่นใหม่มาอย่าง Ford Ranger Raptor จะมีอะไรที่แตกต่างและใหม่ไปกว่าเดิม งานนี้ต้องตามมาดูกันค่ะ!

ความแตกต่างของ Ford Ranger กับ Ford Ranger Raptor

ความแตกต่างของ Ford Ranger กับ Ford Ranger Raptor

หลายๆคนที่เป็นสาวกรถกระบะอย่าง Ford Ranger คงจะได้ยินกิตติศัพท์อันเลื่องชื่อว่าเป็นรถกระบะสุดแกร่ง แต่เมื่อมี Ranger Raptor เข้ามา อาจจะทำให้สงสัยว่า มันต่างกันอย่างไร วันนี้ Chobrod.com จะมาสรุปให้ฟังกันว่าเจ้ากระบะทั้งสองรุ่นที่มีชื่อเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือ Raptor จะเหมือนหรือต่างจากรุ่นเดิมมากหรือน้อยแค่ไหน ไปดูกันเลยย

แชสซีส์ใหม่ ของ Ranger Raptor

แชสซีส์ใหม่ ของ Ranger Raptor

1.แชสซีส์ใหม่ Raptor มาพร้อมแชสซีใหม่ที่ใหญ่กว่า กว้างกว่า รวมทั้งการขยายฐานล้อให้มีความกว้างขึ้น รวมถึงมิติตัวถังขยายขึ้นกว่า Ranger ในทุกมิติทั้วยาวขึ้น สูงขึ้น กว้างขึ้นมากถึง 15 มม. รวมถึง ระยะช่วงล้อหน้า-หลัง และความสูงใต้ท้องรถด้วย ขณะเดียวกัน ยังมาพร้อมมุมไต่ที่ 32.5 องศา มุมคร่อมที่ 24 องศา และมุมจากที่ 24 องศา 

ภายนอกของ Ford Ranger

ภายนอกของ Ford Ranger 

ภายนอกของ Ford Ranger Raptor

ภายนอกของ Ford Ranger Raptor

2.ภายนอกที่ต่างไปจากเดิม Ranger Raptor มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่โดยรับแรงบันดาลใจมาจาก F-150 RAPTOR ชุดกันชนหน้าติดกับเฟรมรถได้รับการออกแบบให้ดูน่าเกรงขาม แผงกันชนหน้ามาพร้อมกับไฟตัดหมอกแบบ LED พร้อมช่องรีดอากาศที่ช่วยลดการต้านลมของตัวรถได้ แก้มข้างรถผลิตขึ้นจากวัสดุคอมโพสิท ทนทานต่อการบุบและรอยขีดข่วน ทั้งยังถูกตีโป่งขยายออกเพื่อรองรับระยะยุบตัวของโช้กอัพที่เพิ่มมากขึ้น และยางออฟโรดขนาดใหญ่ ส่วนรุ่น Ranger ปกติโป่งซุ้มล้อจะไม่กว้างมาก กระจังหน้าและกันชนหน้า-หลังไม่เหมือนกัน แต่ก็มีอะไหล่บางชิ้นส่วนที่ใช้กันได้ เช่น กระจกมองข้าง มือจับประตู บานประตู

ภายในของ Ford Ranger

ภายในของ Ford Ranger 

ภายในของ Ford Ranger Raptor

ภายในของ Ford Ranger Raptor

3.การตกแต่งของห้องโดยสาร จะเห็นว่าภายในอาจไม่แตกต่างกันในเรื่องของรูปทรงและดีไซน์ แต่จะมีบางจุดที่เสริมเพิ่มให้ดูเป็นรุ่นพิเศษสำหรับ "Raptor" โดยเฉพาะการปักโลโก้บนพนักพิงและเบาะคู่หน้าทรงกึ่งบักเก็ตซีต แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ฝั่ง Raptor เบาะคุณภาพดีกว่า มีความกว้างที่มากกว่าเดิม  ด้ายที่เดินสีตามตัวรถดีกว่าเดิม

ระบบช่วงล่างใหม่ของ Raptor

ระบบช่วงล่างใหม่ของ Raptor

4.ระบบช่วงล่างใหม่ Raptor เป็นดิสเบรคแบบ 4 ล้อ ไม่ใช้แหนบ แต่เป็นระบบ Watt link ที่ใช้กันในรถตระกูล Volvo,Land rover (ซึ่งจะมาพร้อมค่าซ่อมที่แพงกว่า) แต่ถ้าแลกมากับความนุ่มนวลกว่าแบบคานเดิม เพราะการกระแทกจะอิสระกว่า ก็ถือว่าคุ้มใช่ไหมล่ะคะ

ดูเพิ่มเติม
>> 
เจ๋งสุดๆ ....Ford Ranger Raptor กลายเป็นรถกู้ภัยในสนามแข่ง Supercars Champinship
>> 9 เหตุผลที่ "รถกระบะ" ได้รับความนิยมในประเทศไทย

Ranger 200 แรงม้า

Ranger 200 แรงม้า

Ranger Raptor 213 แรงม้า

Ranger Raptor 213 แรงม้า

5.ระบบเครื่องแรง ที่ Raptor มีเครื่องยนต์ที่แรงกว่า มีเทอร์โบคู่ 213 แรงม้า 500 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ในขณะที่ Ranger ธรรมดามี 200 แรงม้า 470 นิวตันเมตร มาในเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด

 

โหมดการขับขี่ของ Ford Ranger

โหมดการขับขี่ของ Ford Ranger

โหมดการขับขี่ของ Ford Ranger Rapter

โหมดการขับขี่ของ Ford Ranger Rapter

6.โหมดการขับขี่ที่มากกว่า โดย Ranger Raptor มีโหมดการควบคุมที่เหนือกว่าถึง 6 แบบ มีทั้ง โหมดปกติ - เน้นความสบาย นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน, โหมดสปอร์ต - ตอบโจทย์ผู้ที่มีใจรักการขับขี่ทางเรียบ เน้นการเปลี่ยนเกียร์เร็วและฉับไวในขณะที่รอบเครื่องสูง, โหมดหญ้า/กรวดหิน/หิมะ – ออกแบบมาให้ขับขี่บนทางออฟโรดที่มีพื้นผิวลื่นและเป็นหลุมบ่อ,โหมดโคลน/ทราย - ระบบจะปรับการตอบสนองของระบบควบคุมการลื่นไถลให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่มีความลึกและสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างพื้นทรายและโคลน ด้วยการใช้เกียร์ต่ำที่มีแรงบิดสูง, โหมดหิน - ใช้เมื่อขับขี่บนพื้นผิวในเขตภูเขาที่ลาดชัน ต้องใช้ความเร็วต่ำ และเน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้าๆ, โหมดบาฮา - ระบบจะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการขับขี่ ออฟโรดด้วยความเร็วสูงเสมือนนักแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาอันเลื่องชื่อ สำหรับรุ่นปกตินั้นมีเพียง 3 โหมดคือ 2H  4 H และ 4L

ความแตกต่างของ Ford Ranger กับ Ford Ranger Raptor

ความแตกต่างของ Ford Ranger กับ Ford Ranger Raptor

โดยสรุปแล้วสิ่งที่เปลี่ยนไปก็จะเป็นการพัฒนาและปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนใหญ่จะเป็นข้อดีเรื่องสมรรถนะและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด แต่นั่นก็แลกมาด้วยราคาที่สูงตอนซื้อ และการซ่อมที่ต้องอาศัยคนที่ชำนาญในการซ่อมเท่านั้น นั่นก็คือ ถ้าเสียต้องเอาเข้าศูนย์อย่างเดียว เพราะอะไหล่ไม่มีตามท้องตลาดทั่วไป แต่ซื้อไปไม่ผิดหวังแน่นอนเรื่องสมรรถนะและความปลอดภัย รวมถึงใช้สอยด้าน Off road เรียกได้ว่าคุ้มแน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่เงินในกระเป๋าของคุณบวกกับความชอบ ถ้าใจชอบรุ่นไหนไม่ว่าจะ Ranger ตัวเก่าหรือ Ranger Raptor ตัวใหม่ จะรออะไรล่ะ จัดเลย!

Chobrod ขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย 

ดูเพิ่มเติม
>> 
9 รถใหม่ปี 2019 ที่น่าสมการรอคอย
>> 7 กระบะ “บ้าพลัง” แรงที่สุดของยุคที่คุณอาจยังไม่รู้จัก

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี