ศึกมหากาพย์ยังคงไม่จบง่ายๆ กับ Mazda 2 และ MG3 ที่มีการถกเถียงและถูกกล่าวถึงตีคู่กันมาว่าตัวไหนดีกว่า วันนี้ทาง Chobrod จะพาเพื่อนๆ ไปพิสูจน์กัน
ลองเทียบกันดู ระหว่าง “Mazda 2 2018” กับ “MG3 2018” ตัวไหนน่าเสียเงินซื้อมากกว่ากัน ?
ศึกมหากาพย์ของ Mazda 2 และ MG 3 ยังคงดำเนินการอยู่... จากหลายปาก หลายเสียง หลายคอมเม้นท์ก็ถกเถียงกันอยู่ว่า เอ๊ะ .. ควรตำรุ่นไหนมากกว่ากัน บ้างก็บอกว่า มาสด้าบ้างล่ะ บ้างก็บอกว่าเอ็มจีบ้างล่ะ วันนี้เดี๊ยนจะมาให้เพื่อนๆ ลองเทียบกันดูเลยว่าตัวไหนดีกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตามแต่ การเปรียบเทียบกันในครั้งนี้ ก็เป็นการเปรียบเทียบที่คล้ายกับสมมติฐาน เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจในการซื้อขายได้ง่ายมากขึ้นนะคะ ไม่มีเจตนาดิสเครดิตใครแต่อย่างใด ทั้งนี้เราจะมาเปรียบเทียบตั้งแต่ตัวเครื่องยนต์กันไปเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ดูเพิ่มเติม
Mazda 2 2018
เรามาเริ่มกันที่ Mazda 2 ก่อนเลย ทั้งภายนอกและภายในก็ไม่ได้แตกตามจากรุ่นเดิมๆ เลยล่ะค่ะ แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ สกายแอคทีฟ-วีฮิเคิล ไดนามิกส์ และเทคโนโลยี i-ACTIVSENE ที่ให้การขับขี่นั้นนุ่มนวลและยึกเกาะถนนมากขึ้น ทั้งยังคุมทุกการเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
Mazda 2 2018
โดยนางยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1.3 ลิตร 1,299 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 71.0 x 82.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับน้ำมันสูงสุด E20 คนที่ชอบรถยนต์ซีดานสไตล์สปอร์ต ขับนุ่ม และปลอดภัย ลองเล็งๆ ตัวนี้กันดูเน้อ
>>> ต้องดู! ราคา mazda 2 2020
MG3 2018
มาที่ MG3 ตัวนี้ต้องบอกเลยว่าเขาได้ปรับแต่งแปลงโฉมทุกการดีไซน์ให้ดูใหม่และทันสมัยเข้ากับการตลาดมากยิ่งขึ้นจริงๆ นะจ๊ะ ไม่ว่าจะทั้งภายในและภายนอกเลยล่ะค่ะ ที่นั่ง แผงคอนโซล นางเปลี่ยนใหม่หมดจริงๆ และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในรถ MG นั่นก็คือ หลังคาซันรูฟ ที่เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ซึ่งจะอยู่ใน 2 รุ่นบน (X และ V) เท่านั้น
MG3 2018
ทั้งนี้นางก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ VTi-TECH ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด สามารถปรับเป็น Manual Mode และเครื่องยนต์บล็อกนี้สามารถรองรับน้ำมันทางเลือกได้ถึงระดับ E85
ในด้านการขับขี่ เดี๊ยนรู้สึกว่าเดี๊ยนจะเทใจให้ทาง MG เขามากกว่านะ เพราะจากส่วนตัวที่เคยลอง Mazda 2 มาแล้ว มันเหมือนกับเป็นรถที่เอาไว้ใช้ขับแบบไม่ต้องรีบร้อน แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรนะ เพียงแค่ตัวเครื่องมันค่อนข้างจะอืดไปหน่อย สำหรับเดี๊ยนก็ขอหักคะแนนแค่ตรงนี้ นอกนั้นส่วนอื่นไม่มีอะไรแย่ ยิ่งเรื่องของการประหยัดน้ำมันตัวนี้คุ้มค่ามาก ขับทั่วกรุงเทพน้ำมันก็ลดลงแค่นิดเดียวไม่เสียหาย ชอบตรงประหยัดน้ำมันนี่แหละ ส่วน MG ที่เดี๊ยนปลื้มและเซอร์ไพรส์คือรุ่นนี้ออกมาแบบเปลี่ยนใหม่ไปเลย ขับดีขึ้นกว่าตัวเก่ามากๆ เพราะรุ่นนี้นางใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ดังนั้นมันเลยทำให้การขับขี่รู้สึกได้ฟิลมากกว่าเดิม ขับแล้วดูธรรมชาติสุดๆ มันได้ฟิลลิ่งมากเลยเดี๊ยนชอบตรงนี้ ในเรื่องช่วงล่างหรือการประหยัดน้ำมันก็บอกได้เลยว่าทำออกมาได้ดีมาก หมดห่วงไปได้เลยกับเรื่องเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด รุ่นนี้ไม่มีแน่นอนจ้ะ
Mazda 2 2018
MG3 2018
สรุปคือ ตัว Mazda 2 เดี๊ยนว่ามันเหมาะสำหรับคนที่เพิ่งหัดขับรถและไม่ได้ออกเดินทางไกลมากนัก ขับแค่ในตัวเมืองเดี๊ยนว่ามันได้อยู่ถ้าออกต่างจังหวัดอาจจะมีรำคาญนิดๆ เพราะมันจะออกแนวอืดๆ นิดหน่อย แต่เรื่องการประหยัดน้ำมันต้องบอกเลยว่าคุ้มจริง สายประหยัดมองตัวนี้ไว้เลยไม่แย่ค่ะ ส่วน MG3 เดี๊ยนชอบในการปรับเปลี่ยนและดีไซน์ใหม่ออกมาหมดมันอัพเกรดและดีขึ้นมากจริงๆ โดยการเปลี่ยนมาใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด ให้ฟิลลิ่งที่ดีมากๆ ช่วงล่างก็ปังมากเวอร์ไม่มีปัญหาใดๆ เลยจ้า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ขับเองนะ ว่าชอบตัวไหน ลองไปดูที่ศูนย์บริการและเลือกใช้กันได้เลยจ้า วันนี้เดี๊ยนต้องขอตัวลาไปก่อนพบกันใหม่คอนเทนต์หน้า สวัสดีค่ะ
ดูเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่