รถ Hatchback รุ่นไหนดี 2021 ที่ตอบโจทย์คนรักสบาย

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 18 พ.ย 2563
แชร์ 1

หากไม่รู้ว่าจะซื้อรถ Hatchback รุ่นไหนดี เราขอแนะนำรถแฮตช์แบ็กน่าซื้อในปี 2021 ที่ตอบโจทย์คนรักสบายได้อย่างดี

ปัจจุบันเราจะเห็นรถ Hatchback (แฮตช์แบ็ก) หรือรถยนต์ขนาด 5 ประตูเพิ่มมากขึ้นบนท้องถนน เพราะตอบโจทย์คนรักความสะดวกสบายได้อย่างดี ด้วยการออกแบบที่ทำให้ภายในมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ปรับการใช้งานได้หลายรูปแบบ ทั้งยังมีความคล่องตัวสูง ทำให้รถประเภทนี้ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ใช้มากขึ้นนั่นเอง และสำหรับใครที่กำลังมองหารถแฮตช์แบ็กเอาไว้ใช้งานสักคันล่ะก็ เรามีรถ Hatchback น่าซื้อมาแนะนำให้พิจารณาถึง 4 รุ่น  

รถ Hatchback รุ่นไหนดี 2021

1. Nissan Kicks E-Power


Nissan Kicks E-Power

แฮตช์แบ็กคุณภาพดีที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ สำหรับ Nissan Kicks E-Power ยนตรกรรมไฟฟ้าขุมพลัง e-POWER ใหม่ ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร ทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ขนาดเล็ก ความจุ 1.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เพื่อจ่ายไฟให้กับชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน (EM57) ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า และแรงบิด 260 นิวตันเมตร ซึ่งจะไม่สามารถชาร์จไฟได้ และต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น

e-POWER เปิดตัวด้วยราคาจำหน่ายที่เข้าถึงง่าย มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่

  • e-POWER S ราคา 889,000 บาท
  • e-POWER E ราคา 949,000 บาท
  • e-POWER V ราคา 999,000 บาท
  • e-POWER VL ราคา 1,049,000 บาท

สีตัวถังภายนอก Nissan Kicks e-POWER 2020 ประกอบไปด้วย 6 สีดังนี้

  • สีส้ม Monarch Orange 
  • สีแดง Radiant Red 
  • สีดำ Black Star
  • สีเทา Gun Metallic
  • สีเงิน Brilliant Silver
  • สีขาว Storm White

2. Mazda 3 Fastback


Mazda 3 Fastback

ถ้าพูดถึงแฮตช์แบ็กน่าใช้ แน่นอนว่าต้องนึกถึง Mazda 3 คอมแพ็กต์คาร์อีกรุ่นที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ใช้รถ เพราะมีดีไซน์หรูหราน่าใช้สุด ๆ แถมยังขับขี่สนุกด้วยเครื่องยนต์ Skyactive-G ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบ I-Stop ส่งกำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มาพร้อม 3 รุ่นย่อยในราคาเริ่มต้น 9.69 แสนบาท ได้แก่ 

  • 2.0 C Sports ราคา  969,000 บาท 
  • 2.0 S Sports ราคา 1,069,000 บาท
  • 2.0 SP Sports ราคา 1,198,000 บาท

ด้านตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย 

  • สีแดง โซลเรด คริสทัล
  • สีเทา แมชชีน เกรย์
  • สีเทา โพลีเมทัล เกรย์
  • สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล
  • สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์
  • สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช
  • สีดำ เจ็ท แบล็ก

3. Toyota Corolla Cross


Toyota Corolla Cross

บอกเลยว่าปังปุริเย่ สำหรับ Toyota Corolla Cross คอมแพ็กต์เอสยูวีขนาดพอดีเหมาะกับคนเมือง ดีไซน์ภายนอกมีความทันสมัย ภายในยังให้ออปชันมาแบบจัดหนักจัดเต็ม ตอบโจทย์ผู้รักความสะดวกสบายได้อย่างดี มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 รูปแบบ

  • รุ่น Hybrid

เครื่องยนต์ Hybrid 4 สูบแถวเรียงขนาด 1.8 ลิตร DOHC 16 วาล์ว ทำงานประสานกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังสูงสุดที่ 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ส่งกำลังแบบ E-CVT พร้อม Shift Lock

  • รุ่น 1.8 Sport

เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ส่งกำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร 4,000 รอบ/นาที ทำงานประสานกับเกียร์อัตโนมัติ CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock

มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย เริ่มต้น 9.89 แสนบาท ดังนี้ 

  • 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท
  • Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท
  • Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท
  • Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท

สีภายในของ Totoya Corolla CROSS ให้เลือก 2 สีสัน

  • สีแดง Terra Rossa 
  • สีดำ Black

4. Handa Civic Hatchback


Handa Civic Hatchback

ใครที่กำลังมองหารถแฮตช์แบ็กดีไซน์ทันสมัย สมรรถนะดี ให้ออปชันครบครัน ภาพลักษณ์แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ ขอแนะนำ Handa Civic Hatchback คอมแพ็กต์คาร์อีกรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ใช้ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบ ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT มีเพียงหนึ่งรุ่นย่อย คือ 

  • 1.5 Turbo Hatchback RS ราคา 1,229,000 บาท

มาพร้อม 5 สีให้เลือกตามใจชอบ ประกอบด้วย

  • สีเทาโซนิก
  • สีแดงแรลลี่
  • สีขาวแพลทินัม
  • สีเทาโมเดิร์ลสตีล
  • สีดำคริสทัล

รถ Hatchback 2021 ที่แนะนำไปจะมีราคาตั้งแต่หลักแสน (ที่เฉียดล้าน) ไปจนถึงหลักล้าน ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติ และข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณของผู้ใช้รถแต่ละคน 

อ่านเพิ่มเติม