ซื้อ Toyota Fortuner มือสองรุ่นไหนดี แล้วต้องตรวจดูอะไรบ้าง ต้องดู!

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 9 ต.ค 2561
แชร์ 2

เตรียมซื้อรถ Toyota Fortuner มือสอง แต่ยังไม่รู้ว่าซื้อรุ่นไหนจะคุ้มค่าที่สุด ต้องดูบทความนี้ ที่ไม่เพียงแต่จะบอกว่าซื้อรถ Toyota Fortuner มือสองรุ่นอะไร แต่จะมาบอกวิธีการตรวจเช็คอุปปกรณ์สำคัญที่ห้ามพลาด

Toyota Fortuner รถอเนกประสงค์ยอดนิยมอันดับ 1

Toyota Fortuner รถอเนกประสงค์ยอดนิยมอันดับ 1

Toyota Fortuner ถือเป็นรถ PPV ที่มีความนิยมอย่างมาก และถือว่าเป็นเบอร์ 1 ในรถกลุ่ม PPV อีกด้วย และสำหรับคนที่กำลังมองหารถ Toyota Fortuner มือสอง แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นอะไรดี วันนี้ Chobrod จะมาแนะนำรุ่นรถ Toyota Fortuner พร้อมการตรวจเช็คก่อนตัดสินใจซื้อ

Toyota Fortuner โฉมปี 2012 ที่ได้รับความนิยมด้วยราคาที่ถูก และสมรรถนะที่ดี

Toyota Fortuner โฉมปี 2012 ที่ได้รับความนิยมด้วยราคาที่ถูก และสมรรถนะที่ดี

สำหรับรุ่นปีแรกที่จะแนะนำก็คือ Toyota Fortuner รุ่นปี 2012 รุ่นนี้ประกอบด้วย 3 เครื่องยนต์ด้วยกัน โดยเครื่องยนต์แบบแรกคือ 1KD-FTV (I/C) 3,000 ซีซี Diesel Common Rail, Direct Injection 16 วาล์ว VN Turbo, Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,400-3,200 รอบ/นาทีเครื่องยนต์แบบที่ 2 2KD-FTV (I/C) 2,500 ซีซี Diesel Common Rail, Direct Injection 16 วาล์ว VN Turbo, Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า (106 กิโลวัตต์) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที และเครื่องยนต์แบบที่ 3 2TR-FE 2,700 ซีซี VVT-i DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 160 แรงม้า (118 กิโลวัตต์) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 241 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที สะดวกสบายเหนือระดับ ด้วยห้องโดยสารที่เงียบ และช่วงล่างอันเหนือชั้นด้วย ระบบช่วงล่าง TOP Platform (Toyota Outstanding Performance) แข็งแกร่งเพื่อการขับขี่ในทุกสภาพถนน, โครงสร้างแชสซีส์แข็งแกร่ง ระบบกันสะเทือนแบบคอยล์สปริง ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง โครงสร้างตัวถังด้านข้างแบบชิ้นเดียว, ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ Double Wishbone พร้อมคอยล์สปริง ช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ดี และมีความนุ่มนวลในการขับขี่ คอยล์สปริงช่วยให้การขับขี่ที่นุ่มนวล พร้อมเหล็กกันโคลงช่วยลดการโคลงตัวขณะเข้าโค้ง และเพิ่มความสะดวกสบายขณะขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น, ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ 4-Link พร้อมคอยล์สปริงแข็งแรง พร้อมเหล็กกันโคลงหลังช่วยเพิ่มความปลอดภัย มั่นคง ให้ความรู้สึกนุ่มนวลในการขับขี่

ระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งแบบป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ(Active Safety) และปกป้องหลังการเกิดอุบัติเหตุ(Passive Safety) โดยระบบ Active Safety เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)/ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)/ระบบกระจายแรงเบรค EBD (Electronic Brake-force Distribution) และระบบเสริมแรงเบรค BA (Brake Assist) (ในรุ่น 3.0V) ระบบเบรค ABS (Anti-lock Braking System) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค วาล์วตัดน้ำมันเชื้อเพลิงอัตโนมัติ ไล่ฝ้ากระจกหลัง เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง(เฉพาะรุ่น 2.5G) กุญแจรีโมท Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS และระบบ Passive Safety เพื่อช่วยลดการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA คานรับแรงกระแทกในประตูทุกบาน วัสดุช่วยกระจายแรงกระแทก ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า ด้านคนขับและผู้โดยสาร Dual SRS Airbag (ในรุ่น 3.0V และ 2.7V) และเฉพาะด้านคนขับ (ในรุ่น 2.5G) เข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด ทั้ง 3 แถวที่นั่ง ปรับระดับสูง-ต่ำได้ แป้นเบรกนิรภัย พวงมาลัยแบบยุบตัวได้

โดยรุ่นที่แนะนำคือ 3.0V 4WD TRD Sportivo A/T: เครื่องยนต์ 1KD-FTV 4Cylinders 16Valve DOHC VN Turbo และ 3.0V 4WD A/T: เครื่องยนต์ 1KD-FTV 4Cylinders 16Valve DOHC VN Turbo ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท

ดูเพิ่มเติม
>> 
เปลี่ยนไปแค่ไหน Toyota Fortuner ตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบัน​
>> เม้าท์มอยกันกับ “Toyota Fortuner 2019”​

Toyota Fortuner ปี 2013 อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยม ด้วยดีไซน์ใหม่ และช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม

Toyota Fortuner ปี 2013 อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยม ด้วยดีไซน์ใหม่ และช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม

Toyota Fortuner รุ่นปี 2013 ถือเป็นรุ่นที่ได้รับการพัฒนาทั้งภายนอก และภายใน ด้วยคอนเซ็ปต์ Above and Beyond เพิ่มความหรูหราตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงด้านท้าย สะดวกสบายไปกับห้องโดยสารที่เงียบ พร้อมช่วงล่างระดับ TOP Platform อันเหนือชั้น กันชนด้านหน้าและหลังถูกดีไซน์ใหม่ โคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ ทางด้านภายในนั้นมีดีไซน์โดดเด่น มากับพวงมาลัยแบบ Multifunction แผงคอนโซลหน้าและกลางถูกดีไซน์ใหม่ มีการปรับเปลี่ยนรุ่น 2.5G 5A/T เป็น 2.5V 5A/T เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และยังคงรักษาจุดเด่นของความเป็นสปอร์ตไว้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายนอกด้วยชุดแต่งที่ออกแบบให้ทันสมัย ภายในสวยงามลงตัว พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน โดยเฉพาะรุ่น 3.0V A/T TRD Sportivo ที่เรียกได้ว่าคุ้มค่า เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์มือสองไว้ใช้งาน

โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ระบบอัจฉริยะไดมอนด์เทค ซึ่งเป็นเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันของ Toyota ด้วยระบบไดมอนด์เทค ในเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล มีระบบการเรียนรู้ การฉีดจ่ายน้ำมันแม่นยำสูง และสั่งการทำงานทั้งระบบผ่านกล่องคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ 32 บิท ไม่มีการจ่ายน้ำมันส่วนเกินในทุกรอบเครื่องยนต์ ทุกอณูน้ำมันจึงคุ้มหมดจด ประหยัดน้ำมันสุด ละคงความแรงต่อเนื่องในทุกสภาพการขับขี่ ประกอบด้วย 3 เครื่องยนต์ ได้แก่ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์  เครื่องยนต์ขนาด 2,982 ซีซี ดีโฟร์ดี คอมมอนเรลไดเร็คอินเจคชั่น DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน และระบบอินเตอร์คูลเลอร์ให้กำลังสูงสุด 126 กิโลวัตต์ (171 แรงม้า) ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,200 รอบ /นาที, เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ (เกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา) เครื่องยนต์ขนาด 2,494 ซีซี ดีโฟร์ดี คอมมอนเรลไดเร็คอินเจคชั่น DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน และระบบอินเตอร์คูลเลอร์ให้กำลังสูงสุด 106 กิโลวัตต์ (144 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ /นาที, เครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร ระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-I เครื่องยนต์ขนาด 2,694 ซีซี DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้กำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์ (160 แรงม้า) ที่ 5,200 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 241 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบ /นาที โดยราคามือสองเริ่มต้นที่ 850,000 บาท

Toyota Fortuner รุ่นปี 2015 โฉมใหม่ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

Toyota Fortuner รุ่นปี 2015 โฉมใหม่ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

Toyota Fortuner รุ่นปี 2015 ถือเป็นเจเนอเรชั่นใหม่ของ Toyota Fortuner ที่ถูกออกแบบให้เน้นความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายที่ดูโฉบเฉี่ยวมากกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด ตัวถังถูกออกแบบให้ดูมีมิติ ลูกเล่นมากขึ้น มาพร้อมไฟหน้าแบบ Bi-beam LED ที่สามารถปรับไฟสูง-ต่ำด้วยชุดโคมโปรเจคเตอร์เดียวกัน ติดตั้งไฟ Daytime Running Light แบบ LED มาให้ในตัว ตกแต่งตัวโคมด้วยแถบโครเมียมด้านบน ออกแบบรับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่สีเงิน กันชนหน้าถูกออกแบบให้มีลักษณะ 3 มิติ ด้วยกรอบไฟตัดหมอกโครเมียมทรงสะดุดตา พร้อมตะแกรงดักอากาศสีดำ บริเวณเหนือที่ติดตั้งป้ายทะเบียน ตัวถังด้านข้างถูกออกแบบให้ดูมีเส้นสายนุ่มนวลขึ้นกว่ารุ่นก่อน แต่ยังคงไว้ซึ่งความบึกบึน แข็งแรง ตามสไตล์รถเอสยูวี ด้วยโป่งล้อขนาดใหญ่พร้อมตกแต่งขอบซุ้มล้อด้วยสีดำ ติดตั้งกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวและ Welcome Light เพื่อความปลอดภัยยามค่ำคืน เสาคู่หลังถูกออกแบบให้มีลักษณะสีดำเงา กลมกลืนไปกับแนวประตูท้าย ช่วยเพิ่มความหรูหรา และยังทำให้ตัวรถดูมีขนาดใหญ่มากขึ้น ติดตั้งไฟท้ายแบบ LED ที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะเรียวเล็ก เพิ่มความสปอร์ตไปในตัว มาพร้อมราวหลังคาดีไซน์สปอร์ตและเสาอากาศแบบครีบฉลาม ตัวถังวางอยู่บนล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60 R18

มาพร้อมเครื่องยนต์ GD Efficient Boost ขีดสุดพลังแรงล่าสุด ภายใต้แนวคิด "Efficient Boost" ลดการสูญเสียความร้อน และแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ ให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง Flat Torque พร้อมประหยัดเป็นเยี่ยมในทุกการเดินทาง เงียบ และสั่นสะเทือนน้อยกว่า ตอบรับทุกการขับขี่ในทุกรูปแบบเต็มสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์1GD-FTV (High), 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาทีเครื่องยนต์:2,755 cc., 177 แรงม้า(BHP) มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Full Time ในราคามือสองเริ่มต้นที่ 990,000 บาทสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่ถ้าเปนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะเริ่มต้นที่ 1,199,000 บาท แม้ว่าราคาจะแรงไปสักหน่อย แต่เรื่องความคุ้มค่าขอบอกเลยว่าคุ้มค่ามาก และด้วยรุ่นปีที่ไม่ห่างมากนักก็ยังมั่นใจในความแข็งแรงของช่วงล่างได้เป็นอย่างดี

Toyota Fortuner รถ PPV ที่มั่นใจได้ทั้งในเรื่องของงานดีไซน์ สมรรถนะ และความปลอดภัย

Toyota Fortuner รถ PPV ที่มั่นใจได้ทั้งในเรื่องของงานดีไซน์ สมรรถนะ และความปลอดภัย

ดูเพิ่มเติม
>> 
ส่องรถค่าย Toyota ในงาน Paris Motor Show 2018​
>> ส่องอันดับ 5 รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในค่าย Toyota!​

สุดท้ายนี้การจะเลือก Toyota Fortuner มือสอง สิ่งที่ต้องเช็คก่อนซื้อคือเลขไมล์ และช่วงล่าง เพราะช่วงล่างถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการขับรถ ซึ่งจะสัมพันธ์กับเลขไมล์ อย่าลืมเช็คประวัติการเกิดอุบัติเหตุเพื่อความสมบูรณ์ของตัวรถนะคะ หลังจากนั้นสิ่งที่ต้องเช็คลำดับต่อมาก็คือ ผ้าเบรค และจานเบรค หากยังไม่มีปัญหาก็สามารถใช้ก่อนได้ แต่เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ต้องเปลี่ยนทั้ง 3 อย่างเมื่อครบอายุการใช้งานนะคะ หากไม่มั่นใจก็ขอแนะนำให้เปลี่ยนตั้งแต่ซื้อรถมาได้เลย และอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำ ห้ามลืมเด็ดขาด คือ ควรเปลี่ยนถ่ายของเหลวชุดใหญ่ เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นนะคะ สำหรับบทความครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร อย่างลืมติดตามอ่านได้ที่ Chobrod.com นะคะ

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี