All-new Lexus ES 300h Full Hybrid ออกแบบดีไซนืภายนอกตามหลักอากาศพลศาสตร์ สเน่ห์ดีไซน์ภายนอกสะกดทุกสายตา โฉมหน้าดีไซน์สุดล้ำ มีสมรรถนะที่มีความโดดเด่น สาามารถเลือกเป็นเจ้าของได้ใน 2 รุ่นย่อย ES 300h Luxury ราคา 3,500,000 บาท และ ES 300h Premium ราคา 3,970,000 บาท มีฟังก์ชั่น Drive Mode Select ที่สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ คือ Normal, Eco และ Sport ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว EV Drive Mode ติดตั้งระบบ Regenerative Braking เพื่อเปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการลดวามเร็ว และเบรกให้กลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้า
ภายนอก All-new Lexus ES 300h
องค์ประกอบโดยรวมภายนอก ภายใต้แนวคิด "The Finest of Comfort" เน้นความละเอียดพิถีพิถัน ส่วนของกระจังหน้าและกันชนหน้าออกแบบใหม่ ไฟหน้าใช้ LED Headlamps พร้อม Daytime Running Lights(DRL) สำหรับด้านท้ายดีไซ์ไฟท้ายเป็นรูปตัว L เมื่อรถเบรกกระทันหันมี Active Brake Lmps ช่วยเพิ่มความปลอดภัย มาพร้อมกับระบบควบคุมระยะการจอด (หน้า-หลัง) และระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง ติดตั้งมูนรูฟ(Moon Roof) กระจกรถเป็นแบบกรองแสง (พร้อม UV Cut) กระจกหลังมาพร้อมระบบไล่ฝ้า กระมองข้างและกระจกหลังสามารถลดการสะท้อนแสงเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ล้อแม็ก 18"
ภายใน All-new Lexus ES 300h
การออกแบบของฐานล้อ All-new Lexus ES 300h ที่ยาวขึ้น 45 มม. ส่งผลให้ภายในห้องโดยกว้างขวางโอ่อ่ายิ่งกว่าเดิม เบาะด้านหน้ายาวเพิ่มขึ้น 30 มม. และพื้นที่ด้านหลังช่วงเข่ามีขนาดกว้างขึ้น 60 มม. ช่วยผ่อนคลายและลดความเมื่อยล้าของผู้โดยสาร กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ปลั๊กไฟ 12 โวลท์ พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ และใกล้-ไกลได้ด้วย ตรงเบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้ ไฟแสงสว่างเพิ่มความหรูบริเวณคอนโซลและแผงประตูหน้า Remote Touch Interface (RTI) แผงควบคุมระบบการทำงานต่างๆภายในรถ Rear Seat Controller ระบบควบคุมสั่งการภายในรถง่ายด้วยปลายนิ้วสัมผัส ภายในทั้ง 2 รุ่นตกแต่งหนังแท้
อ็อพชั่น All-new Lexus ES 300h
ระบบช่วยจอดพร้อมจอแสดงภาพด้านหลัง และเซ็นเซอร์กะระยะ รวมถึงระบบเตือนแรงดันลมแรง Tire Pressure Alerat, ไฟเบรกฉุกเฉิน และระบบป้องกันการโจรกรรมแบบ Immobilizer พร้อมสัญญาณเตือนอัตโนมัติ, ระบบช่วยเปลี่ยนเลน พร้อมสัญญาณเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor, ระบบเตือนเมื่อมีรถด้านหล้ง (RCTA), ปุ่ม Start/Stop Engine, ระบบแอร์แถวหลัง, ปรับอากาศอัตโนมัติ (แบบปรับแยกอิสระ ซ้าย-ขวา 3 โซน), พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามารถควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย นอกจากความสะดวกสบายระดับรถสปอร์ตหรูระบบยังมาพร้อมกับความปลอดภัยที่โดดเด่นช่วยเสริมและอำนวยความสะดวกให้การขับขี่ ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ (VSC), ระบบป้องกันการลื่นไถล (TRC), ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบช่วยเบรก (BA) และระบบกระจายแรงเบรกไฟฟ้า (EBD), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist)
ติดตั้งเครื่องยนต์ 2,494 cc, 205 แรงม้า มาในทั้ง 2 รุ่น ประเภทเครื่องยนต์ 2AR-FSE, 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i + มอเตอร์ไฟฟ้า แบบ Full Hybrid ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง พ่วงด้วยเกียร์ออโต้แบบ CVT (ECVT 2 Speed) เผาผลาญเชื้อเพลิงเบนซิน 95 อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 8.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 180 กม./ชม.
Lexus ES 300h 2018
All-new Lexus ES 300h ทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งระบบขับเคลื่อนด้วยขุมพลังลูกผสม เครื่องยนต์เบนซินพิกัด 2.5 ลิตร VVT-i ที่มีกำลัง 160 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิด 213 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที กับมอเตอร์ไฟฟ้าจากเทคโนโลยี Lexus Hybrid Drive ที่มีกำลัง 143 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เป็นรถซีดานสปอร์ตหรูขนาดกลาง
ดูเพิ่มเติม:
>>7 สิ่งต้องรู้เกี่ยวกับ Lexus ES 2018
>>Lexus ES 2018 ใหม่ เตรียมเปิดตัวในงาน Beijing Motor Show
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย