รีวิวรถเอสยูวีหรู Mercedes-Benz GLC250d 4MATIC รุ่น AMG Dynamic

บนพื้นฐานรถยนต์หรูของประเทศเยอรมนีอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class W205 ถูกพัฒนาไปเป็น GLC ได้อีกหนึ่งโมเดล รถรุ่นนี้มีขนาดกระชับและกะทัดรัดกว่า ML-Class, GLE Coupe และ GLE
 

ภายนอก

Design ภายนอกของ GLC250d 4MATIC AMG Dynamic ได้ติดตั้งด้วยกันชนหน้า-หลังสไตล์ AMG พร้อมปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียมแบบคู่, บันไดข้างสเตนเลสมีดีไซน์สปอร์ต พร้อมกับล้ออัลลอย Multi-spoke จาก AMG ขนาด 20 นิ้ว และยางขนาด 255/45 R20
  ด้านหน้าถูกติดตั้งด้วยไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System พร้อมกับไฟ Daytime Running Light แบบ LED และได้ติดตั้งระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adative Highbeam Assist) อีกด้วย
นอกจากนั้น ในรุ่น AMG Dynamic ยังติดตั้งหลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และมีม่านกรองแสงยามขับขี่ในเวลากลางวันมาให้ มาพร้อมกุญแจรถแบบ Keyless-GO ทำงานคู่กับปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ส่วนประตูท้ายเป็นแบบไฟฟ้า โดยในรุ่น AMG Dynamic นี้จะมีระบบ Hands-free Access ที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้ใต้กันชน ถ้าผู้ใช้ต้องการเปิดประตูท้าย ก็เพียงแต่แกว่งเท้าใต้กันชน ประตูก็จะค่อยๆเปิดขึ้นอย่างอัตโนมัติ
  ดีไซน์ภายนอกของรุ่น GLC250d AMG Dynamic ถือว่าเป็นเอสยูวีที่ออกแบบได้ลงตัวที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดขณะนี้ ทั้งไฟหน้าที่ได้ออกแบบให้ดูดุดัน สัดส่วนหน้าหลังก็เหมาะเจาะพอดิบพอดี ส่วนไฟท้ายแบบ LED ดูโดดเด่นยามค่ำคืน ยิ่งได้ชุดแต่ง AMG กับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วแล้วด้วยล่ะก็ ทำให้ดูมีเสน่ห์เย้ายวนน่าหลงใหล เมื่อเวลาผ่านไป อาจจะกลายเป็นความคลาสสิกสไตล์เบนซ์ที่น้อยยี่ห้อนักจะเทียบได้

ภายใน
ห้องโดยสารมีเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Artico ผู้ใช้สามารถปรับด้วยไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเมมโมรี่ 3 ตำแหน่ง และที่รองขาสามารถยืดไปข้างหน้าได้ โดยในรุ่น AMG Dynamic ยังปรับพนักพิงศีรษะระบบไฟฟ้าได้ด้วย

เบาะนั่งโดยสารด้านหลังสามารถปรับพับได้ แบบ 1/3 และ 2/3 ส่วนพื้นที่ภายในห้องโดยสารด้านหลังก็ถือว่าเหมาะสมกับขนาดบอดี้ พื้นที่วางขาเหลือพอประมาณ ไม่กว้างมาก แต่ก็ไม่อึดอัด พื้นที่เหนือศีรษะเหลือเฟือตามสไตล์ของรถเอสยูวี แม้ว่าจะเป็นหลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟ ที่ต้องมีกลไลพับเก็บม่านกรองแสงและชุดกระจกก็ตาม แต่อย่างไรก็ดี
 
GLC250d 4MATIC AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องเสียง MB Audio 20 ซึ่งสามารถควบคุมผ่านปุ่มแบบหมุนขนาดใหญ่ รวมถึงแป้นสัมผัส Touchpad ที่รองรับการเขียนด้วยลายมือได้ และขับกำลังเสียงผ่านระบบเซอร์ราวด์จาก Burmester ที่พบได้ในรถเบนซ์หลายรุ่น ซึ่งให้เสียงระดับ hi-end เหมาะสำหรับหูเทพทั้งหลาย โดยไม่ต้องไปติดตั้งอะไรเพิ่มเติมให้วุ่นวาย

สำหรับระบบความปลอดภัยถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานของรถยุโรปสมัยนี้ ติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยมาให้รอบคัน ระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติซึ่งเรียกว่า Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่นจำกัดความเร็ว Speedtronic มีระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention Assist) ระบบเตือนนำรถเข้าศูนย์บริการ ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist พร้อมเซ็นเซอร์ช่วยจอดรอบคัน และมีกล้องแสดงภาพรอบทิศทางมาให้

เครื่องยนต์

ขุมพลังของ GLC250d ทั้งในรุ่น OFF-ROAD และรุ่น AMG Dynamic เป็นบล็อกเดียวกัน นั่นคือ เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบเทอร์โบคู่ มีความจุ 2,143 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-1,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC
 

ในภาพรวม Mercedes-Benz GLC250d AMG Dynamic มีกำลังจากเครื่องยนต์ดีเซลให้เล่นแทบทุกย่านความเร็ว ช่วงล่างให้ความคล่องตัว กระชับ ไม่โยนเหมือนเอสยูวีรุ่นอื่นๆ ขับสนุกประดุจรถเก๋งช่วงล่างเยี่ยมหนึ่งคัน Design ภายนอกหล่อตามสไตล์ AMG แต่ห้องโดยสารภายในอาจจำกัดบ้าง โดยเฉพาะพื้นที่โดยสารด้านหลัง แต่ไม่ถึงกับน่าเป็นห่วงอะไร ลองไปสัมผัสคันจริงน่าจะตอบโจทย์คุณผู้อ่านได้