Review Ford Focus 2018 USA ฉบับย่อ

27 ม.ค 2561
แชร์ 2
คะแนนของบรรณาธิการ
คะแนนของผู้ใช้
ผู้ใช้ 0 คนได้ให้คะแนน
ดูกราฟราคา

ข้อมูลทั่วไป

Ford Focus เป็นรถคอมแพ็กท์ในกลุ่ม C-Segment ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เริ่มเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 1998 ที่ยุโรปก่อน ต่อด้วยที่อเมริกาเหนือในปี 1999 โดยตั้งใจจะมาแทนที่รุ่น Escort แต่กว่าผู้บริโภคชาวไทยจะได้รู้จักก็ต้องรอจนถึงปี 2011 ซึ่งเป็นโฉมที่สามแล้ว โดยมาแทนที่ Ford Laser Tierra เหมือนส่วนใหญ่ในเอเชีย โดยในไทยรุ่นล่าสุดได้จัดแสดงไปตั้งแต่ช่วงต้นปี 2017 ในงาน Bangkok International Motor Show

Ford Focus WRC 2006
Ford Focus WRC 2006 ขับโดยมาร์คุส เกรินโฮล์ม (ADAC แรลลี่ ด๊อยชลานด์)

Focus มีชื่อเสียงจากการแข่งขันแรลลีชิงแชมป์โลก FIA World Rally Championship โดยใช้ลงแข่งนานถึง 11 ปี ตั้งแต่ปี 1999-2009 ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Ford Fiesta Focus ในนามทีม M-Sport Ford World Rally Team ชนะไป 44 สนาม พร้อมแชมป์โลกสองสมัยจากมาร์คุส เกรินโฮล์ม กับ มิกโก้ ฮิร์โวเน่น ในปี 2006-2007

Ford Focus ST 2018
Ford Focus ST 2018

ภายนอก

รีวิวภายนอกของ Ford Focus 2018

ขนาดของ Ford Focus 2018 ประกอบด้วยความสูง 57-59 นิ้ว ความยาว 171-173 นิ้วในรูปแบบแฮทช์แบ็คและ 178.7 ในรูปแบบซีดาน ฐานล้อยาว 104.3 นิ้ว ในรุ่น Focus ST มีขอบฐานที่ต่ำ ตัวถังแข็งแรง สปอยเลอร์หลังเน้นสมรรถนะ ท่อไอเสียเป็นเอกลักษณ์ ล้อแม็กอลูมิเนียม 18 นิ้วและ Calipers สีแดงติดเบรก ในรุ่น Focus Electric มีกระจังหน้าที่โดดเด่น ให้ล้อแม็กอลูมิเนียม 17 นิ้ว

มุมมองภายนอกของ Ford Focus 2018
มุมมองภายนอกของ Ford Focus 2018
มุมมองภายนอกของ Ford Focus 2018

ภายใน

รีวิวภายในของ Ford Focus 2018

Ford โฆษณาว่าภายในของ Focus 2018 ทั้งน่าดึงดูดและสะดวกสบาย เบาะนั่งตัดเย็บจากหนังมีรอยตะเข็บแบบฝรั่งเศส เบาะหุ้มผ้าพร้อมที่ยึดหัวปรับได้สองทิศทาง เบาะคนขับตัดเย็บจากหนัง เป็นแบบพาวเวอร์ปรับได้แปดทิศทาง พร้อมที่ยึดหัวที่ปรับได้อีกสี่ทิศทาง เบาะนั่งหน้าอุ่น พวงมาลัยหุ้มหนังอุ่น

Ford Focus ST 2018
Ford Focus 2018
ภายในของ Ford Focus 2018

ขณะที่ในรุ่น Focus ST เบาะหน้าอุ่นใช้ของ RECARO เพิ่มกระปุกเกียร์หุ้มหนังและอัลลอย แป้นเหยียบอลูมิเนียม และมีตรา ST สลักอยู่ที่เบาะกับบนพวงมาลัยหุ่มหนัง ส่วนรุ่น ST3 มีการเพิ่มเติมกระจกข้างอุ่น และห้องโดยสารเน้นวัสดุจากคาร์บอนไฟเบอร์

ในรุ่น Focus RS มีวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เป็นส่วนใหญ่ในแผง dashboard, มือจับประตู, และเบรกฉุกเฉิน ให้เบาะอุ่นเย็บหนังแบบสปอร์ตจาก RECARO สอดใส้ด้วยวัสดุจาก Miko-Dinamica พวงมาลัยอุ่นเรียบล่างห่อหนัง แท่นเหยียบประตูแบบเอกลักษณ์ แป้นเหยียบอลูมิเนียม กระปุกเกียร์หุ้มหนังและอัลลอย เพิ่มไฟ ambient ประกอบด้วยไฟเกจแบ็คไลท์สีฟ้าเหนือคอนโซลกลาง คอยแสดงแรงดันเทอร์โบชาร์จ อุณหภูมิและแรงดันน้ำมัน

Ford Focus Electric 2018
ภายในของ Ford Focus Electric 2018

และในรุ่น Focus Electric ใช้เบาะผ้าจากไฟเบอร์ REPREVE ทำจากวัสดุรีไซเคิลทั้งหมด เบาะนั่งไบโอโฟมทำจากถั่วเหลือง เกราะในตัวถัง ขอบล้อ และการประกอบเครื่องกรองอากาศ รีไซเคิลมาจากขวดพลาสติก ขวดแกลลอนนม และอื่นๆ ส่วนแผงมาตรวัดเป็นระบบ EcoGuide ผ่านจอ LCD แสดงรูปแบบการขับแบบ real-time เพื่อพัฒนาพฤติกรรมการขับขี่ที่ดึงประสิทธิภาพของรถได้มากที่สุด สามารถแสดงประวัติการใช้พลังงาน เบรกโค้ช และจอแบบผีเสือ ทำให้สอดส่องผลงานในการขับและจำนวนพลังงานไฟฟ้าที่เหลือขณะขับขี่ได้

Ford Focus 2018
ระบบ SYNC3 ใน Ford Focus 2018

อุปกรณ์อํานวยความสะดวก

Ford นำระบบ SYNC3 ที่เปิดตัวในงาน CES 2018 มาใช้ใน Focus โฉมใหม่นี้ รองรับทั้ง iOS และแอนดรอยด์ ควบคุมสั่งการผ่านสมาร์ทโฟนไม่ว่าเปิดอินเทอร์เน็ต เปิดเพลง โทรศัพท์ ใช้แผนที่ ขอข้อมูลการจราจรผ่าน Siri และ Google Now

ระบบนำทางให้สมาชิก SiriusXM Traffic 5 ปี และ Travel Link Trial ระบบ GPS ทำงานร่วมกับแผนที่สามมิติ และนำทางด้วยเสียงได้ ด้วยระบบ SiriusXM และ Travel Link ทำให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลการจราจร ที่อยู่ปั๊มน้ำมันพร้อมราคาต่อลิตร พยากรณ์อากาศ รายงานผลกีฬา และรอบหนังในแต่ละโรง

Ford Focus 2018
ระบบปรับอากาศใน Ford Focus 2018

นอกจากนี้ยังมีระบบปรับอากาศไฟฟ้าอัตโนมัติแบบพื้นที่คู่ ตั้งระดับความเย็นสบายกับอากาศในเบาะนั่งหน้าได้

การทำงาน

รีวิวเครื่องยนต์ของ Ford Focus 2018

Focus ST เป็นรุ่นสปอร์ตที่เน้นขับสนุก ใช้เครื่องยนต์ 2.0 EcoBoost 252 แรงม้า แรงบิด 270 ปอนด์-ฟุต ระบบพวงมาลัยกำลังไฟฟ้าช่วยเพิ่มการตอบสนองระหว่างเข้าโค้ง ลดอาการสั่นไหวเมื่ออยู่บนทางตรง มีระบบ Torque Vectoring Control ช่วยสร้าง grip ล้อหน้าและเข้าโค้ง ให้จานเบรกหน้าและหลังทรงพลัง

Ford Focus RS 2018
Ford Focus RS 2018

Focus RS เป็นรุ่นที่แรงที่สุดตั้งแต่ที่ Ford เคยผลิต เครื่องยนต์ 2.3 EcoBoost 350 แรงม้า แรงบิด 350 ปอนด์-ฟุต เหยียบจาก 0-62 ไมล์/ชม. ที่เวลา 4.7 วินาที และให้ความเร็วสูงสุด 165 ไมล์/ชม. ระบบขับเคลื่อน Ford Performance All-Wheel Drive เพื่อให้เหมาะแก่การขับขี่ด้วย Dynamic Torque Vectoring

Ford Focus Electric 2018
Ford Focus Electric 2018

Focus Electric ไม่ต้องใช้น้ำมัน ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ สามารถเดินทางได้ในระยะ 115 ไมล์ ความเร็วสูงสุด 84 ไมล์/ชม. แรงบิดตอบสนองได้ทันทีและให้การเร่งที่นุ่มนวล เมื่อนำรถไปชาร์จแบต 30 นาทีตามปั๊มชาร์จทั่วไปจะเดินทางได้อีก 75 ไมล์

ใน Ford Focus 2018 มีระบบมาตรฐานอย่าง AdvanceTrac ESC (Electronic Stability Control) พร้อมเบรก ABS คอยสอดส่องสภาพถนนและปฎิกิริยาของคนขับ ปรบกำลังเครื่องยนต์ แล้วเปิดใช้งานเบรก ABS ให้ล้อทุกวงนิ่งสนิท และระบบ Electric Power-Assisted Steering (EPAS) คอยปรับการควบคุมรถให้เกิดการตอบสนองที่แม่นยำในความเร็วสูง และการควบคุมที่เหมาะสมเมื่อลดความเร็วลง กาารชดเชยแรงดึงกับแรง drift วัดการควบคุมรถของคนขับอย่างต่อเนื่อง ปรับตัวต่อสภาพถนน และช่วยปรับเพื่อการเข้าโค้ง ไม่ว่าจะบนสภาพถนนใดหรือจะมีลมโต้

ขณะที่เทคโนโลยีที่อยู่ในตัวรถมีทั้งกล้องและเซนเซอร์ติดตั้งตามรถ, ระบบเซนเซอร์ย้อนกลับ, ระบบสอดส่องจุดอับพร้อมการแจ้งเตือนจราจรท้ายรถ, ระบบรักษาตัวรถบนเลนถนน, ระบบช่วยจอดรถ, กล้องมองท้ายรถ, ปุ่มสตาร์ทและหยุดรถ, ช่อง USB Smart Charging

Ford Focus 2018 
Ford Focus 2018

รีวิวทั่วไป

Ford Focus 2018 มีให้เลือกทั้งหมด 10 รุ่นได้แก่

  •  FOCUS S SEDAN 17,860 ดอลลาร์ฯ
  •  FOCUS SE SEDAN 19,150 ดอลลาร์ฯ
  •  FOCUS SE HATCH 20,445 ดอลลาร์ฯ
  •  FOCUS SEL SEDAN 21,375 ดอลลาร์ฯ
  •  FOCUS SEL HATCH 21,575 ดอลลาร์ฯ
  •  FOCUS TITANIUM SEDAN 24,175 ดอลลาร์ฯ
  •  FOCUS TITANIUM HATCH 24,375 ดอลลาร์ฯ
  •  FOCUS ST 25,075 ดอลลาร์ฯ
  •  FOCUS ELECTRIC 29,120 ดอลลาร์ฯ
  •  FOCUS RS 41,120 ดอลลาร์ฯ

ในเรื่องภาพรวมของตัวรถ Marty Padgett จาก Car Connection ได้วิจารณ์ไว้ว่า Ford Focus 2018 มีจุดเด่นคือ รุ่น ST นั้นแจ่ม ส่วนรุ่น RS ดุดัน เครื่องยนต์สามสูบประหยัดน้ำมัน รุ่นธรรมดาให้การขับขี่อย่างคุณภาพ แผ่นโลหะน่าดึงดูด และให้ตัวเลือกระดับไฮเอนด์มากมาย แต่จุดด้อยก็มีเช่นกันคือ ความเร็วที่ให้รู้สึกอืดอาด รุ่นฐานมีปุ่มควบคุมวิทยุที่เล็ก เสียงยางเคลื่อนไหวดังมาก ราคาแพงกว่าคู่แข่ง และเทคโนโลยีความปลอดภัยยังดูน้อยเกินไป นอกจากนี้ US News ยังเสริมด้วยว่าพื้นที่ในเบาะหลังนั้นแคบเกินไป

ยิ่งกว่านั้น เทคโนโลยีจำเป็นอย่างไฟ LED หรือระบบเปิดประตูแบบ Smart Key ยังไม่ถูกเพิ่มมาเหมือนกับรุ่นปี 2017 เมื่อนำมาชั่งน้ำหนักแล้ว Ford Focus 2018 นี้ยังไม่ถึงกับเป็นตัวเลือกที่ดีนักโดยเฉพาะในเรื่องห้องโดยสารภายในที่ยังไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้รถที่ไปกับเพื่อนหรือครอบครัว แต่เทคโนโลยีในการขับขี่ที่ฟอร์ดให้มาน่าจะยังตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการรถขับสนุกแต่ราคาไม่สูง อย่างไรก็ดี ราคาที่มีให้เลือกตั้งแต่ 5.7 แสนบาทถึง 1.3 ล้านบาทก็สู้กับรถญี่ปุ่นได้ยากเหมือนกันถ้า Ford จะนำเข้าเข้ามา

สนใจซื้อหรือเช็คราคารถ Ford Focus มือสองได้ที่นี่

เช็ครีวิวรถทั้งหมดได้ที่นี่

แบ่งปันความคิดเห็นของคุณกับเรา

คะแนนของคุณ

ความคิดเห็น

0/1000