รีวิว Honda Brio อีโคคาร์รุ่นเล็กที่มีพร้อมกับความคุ้มค่า คุ้มราคา
Honda Brio 2018 รถอเนกประสงค์ 5 ประตู มาพร้อมการขับขี่ที่ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีระบบเกียร์ CVT พร้อมระบบ Shifting Control Cornering Gravity ออกแบบมาให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าเกียร์ได้อย่างแม่นยำ และนุ่มนวล มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ให้กำลังสูงสุดมากถึง 90 แรงม้า ในขณะที่ให้ความประหยัดถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร
ในด้านการออกแบบ Honda Brio มีการดีไซน์โครงสร้างตัวถังปรับโฉมใหม่ให้โฉบเฉี่ยวตอบโจทย์กลุ่มนักขับรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความสวยงามแต่แฝงไว้ด้วยความคล่องตัว ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control สำหรับสีตัวถังของ Honda Brio มีมาให้เลือกเพิ่มเติมถึง 3 เฉดสีด้วยกัน ได้แก่ สีเงินลูนาร์ เมทัลลิก Lunar Silver Metallic , สีขาวทาฟเฟต้า Taffeta White และสีดำคริสตัลมุก Crystal Black Pearl ในราคาเริ่มต้นเพียง 495,000 บาท
Honda Brio มาพร้อมกระจังหน้าแบบเงาดำ พร้อมกันชนหน้า และหลังสีเดียวกับรถ
Honda Brio 2018 มีมิติตัวถังความยาว 3,640 มิลิเมตร ความกว้าง 1,680 มิลลิเมตร ความสูง 1,485 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,345 มิลลิเมตร ให้ความจุถังน้ำมันที่ 35 ลิตร น้ำหนักรถรวม 937 กิโลกรัม มาพร้อมกับการดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบเงาดำ พร้อมกันชนหน้า และหลังสีเดียวกับตัวรถ ให้เส้นสายที่เรียบง่าย แต่ยังดูทันสมัย ติดตั้งไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ที่สามารถให้แสงสว่างอย่างเด่นชัด กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวสามารถที่จะปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ และระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว พร้อมยางขนาด 175/65 R14
ด้านข้างมีดีไซน์ที่เรียบง่าย ไม่เน้นความโดดเด่นมากจนเกินไป
ด้านท้ายมาพร้อมกับที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา และไฟท้ายแบบ LED 3 ดวง
ในขณะที่ด้านหลังได้รับการดีไซน์มาอย่างโดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบ LED ที่จัดวางมาในแนวขวาง รับกับฝาปิดท้ายได้อย่างลงตัว พร้อมคาดแถบโครเมียมตรงกลาง เสริมความเข้มด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ติดตั้งสปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ต รวมถึงติดตั้งเทคโนโลยีระบบไล่ฝ้ากระจกหลังที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มีทัศนะวิสัยที่ดียิ่งขึ้น และที่ปัดน้ำฝนด้านหลังแบบหน่วงเวลา
ภายในเน้นการตกแต่งด้วยโทนสีดำแบบเรียบง่าย
ภายในห้องโยสารของ Honda Brio 2018 ตกแต่งโดยเน้นสีดำเป็นหลัก ตัดด้วยสีเงินที่มือจับประตูด้านใน สำหรับเบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับพับได้แบบชิ้นเดียวผสานกับการดีไซน์พื้นที่ห้องโดยสารให้กว้างขวาง สะดวกสบาย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์สร้างความสะดวกสบายผ่านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ได้รับการติดตั้งมาอย่างครบครัน เสริมด้วยการติดตั้งคอนโซลหน้าสีดำเข้มรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สนุกกับการขับขี่ไปตลอดการเดินทาง เพิ่มความเย็นสดชื่นด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ติดตั้งกระจกมองหลังแบบตัดแสงได้ ให้ความสะดวกแก่ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยแผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับพร้อมไฟห้องโดยสาร
ให้ที่วางแก้วมา 5 ตำแหน่ง พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และช่องจ่ายไฟสำรอง
Honda Brio 2018 ให้ความบันเทิงผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์ด้วยเครื่องเสียงจาก 2DIN พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย ติดตั้งช่องเชื่อมต่อ USB รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ ให้เสียงกระหึ่มด้วยลำโพงคู่หน้า และหลัง นอกจากนี้ยังติดตั้งฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย อาทิ ระบบเซ็นทรัลล็อค กุญแจรีโมท ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ One Push Ignition System พร้อมระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ Honda Smart Key System
ติดตั้งพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS สามารถปรับระดับสูง - ต่ำได้
พร้อมติดตั้งพวงมาลัยแบบพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPS) สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ ทำให้ง่ายต่อการควบคุม ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น เสริมด้วยการติดตั้งหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ MID พร้อมมาตรวัดแสดงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด Eco Indicator และกระจกไฟฟ้า 4 บานพร้อมระบบปรับขึ้น-ลง ด้านคนขับ รวมทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยที่วางแก้วน้ำจำนวน 5 ตำแหน่ง พร้อมช่องเก็บของหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า เสริมด้วยการติดตั้งช่องจ่ายไฟสำรองอีกด้วย
ขุมพลังเครื่องยนต์ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า
Honda Brio 2018 มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดลิ้นปีกผีเสื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ DBW ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT (Continuously Variable Transmission) ภายใต้ Earth Dreams Technology ที่ให้ทั้งความแรง ประหยัดพลังงาน และ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมการันตีด้วยการผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อมด้านมลพิษระดับ Euro 4 ตามข้อกำหนดทางเทคนิคมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกจากท่อไอเสียไม่เกิน 120 กรัม/กม.
มาพร้อมระบบส่งกำลังอัตโนมัติเกียร์ CVT พร้อมระบบ Shifting Control of Cornering Gravity
พร้อมระบบ Shifting Control of Cornering Gravity ที่ให้ความปลอดภัยกับผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยตรวจจับแรงเหวี่ยงของรถขณะเข้าโค้ง ช่วงล่างด้านหน้าติดตั้งระบบกันสะเทือนแม็กเฟอร์สันสตรัทอิสระพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังติดตั้งกันสะเทือนทอร์ชั่นบีมแบบ H-Shape ระบบเบรกด้านหน้าดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน ส่วนด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก
โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-Force Control หรือ G-Con เสริมโครงสร้างเหล็กกล้าพิเศษ
ถุงลมนิรภัยด้านคนขับแบบ i-SRS และถุงลมด้านผู้โดยสารด้านหน้าแบบ SRS
มั่นใจไปกับ Honda Brio 2018 ด้วยถุงลมนิรภัยด้านคนขับแบบ i-SRS ถุงลมด้านผู้โดยสารด้านหน้าแบบ SRS พร้อมระบบป้องกันล้อล็อค ABS ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมพวงมาลัยจากการเบรกกะทันหันพร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD เพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยกุญแจแบบ Wave Key เสริมประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการนำระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมให้การปกป้องรถจากการถูกโจรกรรมด้วยสัญญาณกันขโมย เสริมด้วยการติดตั้งสัญญาณเตือนลืมปลดเบรกมือ สัญญาณเตือนลืมกุญแจรวมถึงสัญญาณเตือนการเปิดไฟหน้าค้างไว้ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับพร้อมเสียงเตือน
ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยการออกแบบโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ จี-ฟอร์ซ คอนโทรล (G-Force Control) หรือ (G-Con) เสริมโครงสร้างเหล็กกล้าพิเศษที่ช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทกออกไปตามโครงสร้าง และผ่านมาตรฐานการทดสอบการชนด้านหน้าที่ความเร็ว 64 กม./ชม. การชนด้านข้างที่ความเร็ว 50 กม./ชม. ส่วนด้านท้ายที่ความเร็ว 50 กม./ชม.
สีเงินลูนาร์ เมทัลลิก Lunar Silver Metallic
สีดำคริสตัลมุก Crystal Black Pearl
สีขาวทาฟเฟต้า Taffeta White
เรียกได้ว่าเป็นรุ่นรถยนต์ที่มีความคุ้มค่ามากเลยทีเดียวนะคะสำหรับ Honda Brio 2018 ที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัย และสมรรถนะในการขับขี่ที่คุ้มค่ามากทีเดียว ในราคา 495,000 บาท ที่มาพร้อมกับ 3 สีให้เลือกด้วยกัน คือ สีเงินลูนาร์ เมทัลลิก Lunar Silver Metallic , สีขาวทาฟเฟต้า Taffeta White และสีดำคริสตัลมุก Crystal Black Pearl แม้ว่าอาจจะมีข้อด้อยอยู่บ้างในเรื่องของวัสดุ แต่ด้านอื่นก็ให้มาแบบจัดเต็มเลยทีเดียว แต่หากใครที่เป็นมือใหม่หัดขับ หรือไม่คุ้นชินกับการถอยรถท้ายตัด อย่าลืมไปติดตั้งสัญญาณเตือนขณะถอยหลัง เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายขณะถอยรถชนได้นะคะ
แล้วครั้งหน้าเราจะมารีวิวรถยนต์รุ่นไหนให้เพื่อนๆ ดูอีก อย่าลืมติดตามได้ที่ Chobrod.com นะคะ