รีวิว all-new TOYOTA COMMUTER รุ่นท็อปสเปคคุ้มค่า
เจาะลึกสเปค Commuter รุ่นท็อป
โครงสร้างใหม่เครื่องยนต์วางด้านหน้า
all-new Toyota Commuter รุ่นใหม่นี้เป็นเจนเนอร์เรชั่นที่ 6 สานต่อความสำเร็จหลังจากที่รุ่นก่อนเคยสร้างเอาไว้ด้วยการครองสัดส่วนถึง 93% ในตลาดรถตู้เพื่อการพาณิชย์ พัฒนามาตั้งแต่ปี 2016 โดยยึดด้าน “คุณภาพ” (Quality) “ความทนทาน” (Durability) “ความน่าเชื่อถือ” (Reliability) อันเป็นโจทย์หลัก เริ่มใช้โครงสร้างแบบ Annular Frame ที่เชื่อมแชสซีส์เข้ากับตัวถังโมโนค็อกเข้าด้วยกัน เพื่อความแข็งแกร่งแบบรถบรรทุก และยังให้การกระจายแรงชนได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ รุ่นใหม่นี้ยังเปลี่ยนวิธีจัดวางเครื่องยนต์ใหม่ มาไว้ด้านหน้า เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการชน เพื่อลดเสียงเครื่องยนต์ในห้องโดยสาร และเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารให้กว้างไปอีก นอกจากด้านหน้าแล้ว รอบคันยังประกอบไปด้วยโครงสร้างแบบวงแหวน (Ring frame) ที่มีความแข็งแรง ลดการสั่นสะเทือนและทำให้ขับขี่สบายยิ่งขึ้น คราวนี้เรามาเจาะสเปคของคอมิวเตอร์รุ่นท็อปสุดกัน ดูว่าในราคา 1,299,000 บาทนี้ จะได้อะไรกันบ้าง
ตัวถังมีความยาวมากถึง 5.9 เมตร
ภายนอก All-new Toyota Commuter ดีไซน์ในสไตล์เหลี่ยมแหลม ให้รถดูเรียบหรูไม่ล้าสมัย สัดส่วนแบบเซมิ-บอนเน็ต (Semi-Bonnet) ย้ายเพลาล้อหน้าออกไปหน้าห้องโดยสาร เป็นการเพิ่มระยะฐานล้อไปในตัว ส่งผลพลอยได้ให้มีความมั่นคงในการขับขี่ และเพิ่มขนาดห้องโดยสารไปในตัว ด้านหน้าสวยหรูด้วยกระจังหน้ามีแถบโครเมียมขนาดใหญ่ 2 แถบแนวนอน เส้นสายเข้ากับไฟหน้าทรงเหลี่ยมแบบโคมมัลติรีเฟลกเตอร์ จุดเด่นอีกอย่างที่ภายนอกคือกระจกมองข้างเพิ่มกระจกมองล้อหลัง ลดจุดอับสายตา และมีกระจกมองฝาท้าย ช่วยให้เห็นหลังรถขณะถอยหลัง สาเหตุที่ต้องมีกระจกช่วยมองมากมายขนาดนี้ เพราะมิติตัวถังยาว 5,915 กว้าง 1,950 และสูง 2,280 มม.ซึ่งใหญ่กว่าเดิมทุกมิติ
ภายในดีไซน์สไตล์เหลี่ยม มีความทันสมัยที่หน้าปัดเรือนไมล์ MID
ตอนหลังเป็นเบาะ 15 ที่นั่ง ที่เว้นทางเดินจนถึงท้ายรถ
>> เข้าดู รถตู้ราคา ได้ที่นี่
ภายใน All-new Toyota Commuter เปิดเข้ามาก็พบว่ามีบันไดที่ขึ้นลงกว้างกว่าเดิม คอนโซลดีไซน์เหลี่ยม ไร้การบุนวมใดๆ และไร้ชุดเครื่องเสียงกับระบบอินโฟเทนเม้นท์ เข้าใจว่าน่าจะเพื่อลดราคาให้ลูกค้าไปติดตั้งเองตามใจชอบ หรืออาจจะแถมให้เป็นโปรโมชั่นในแต่ละศูนย์ ส่วนช่องเก็บของต่างๆ มีมากขึ้นทั้งบนเพดานเหนือคนขับ ที่เก็บของใต้ที่นั่งด้านหน้า และเบาะกลางยังพับลงมาเป็นที่วางแก้วน้ำได้ 2 ขวดใหญ่ แต่จุดเด่นที่ตัวท็อปมีเหนือใคร นั่นคือหน้าปัดสุดแพราวพราว ด้วยจอแสดงผล MID แบบดิจิตอล พร้อมโหมดแสดงการทำงานของระบบ Eco คอยเตือนให้เราขับรถอย่างประหยัดน้ำมัน ซึ่งเน้นย้ำว่าฟังก์ชั่นนี้มีให้เฉพาะในรุ่นท็อปเท่านั้น
เครื่อง 1GD วางยาวขับหลัง
มีการออกแบบช่องดักลมอยู่สูงระดับไฟหน้า ทำให้ลุยน้ำได้สูง
Toyota Commuter โฉมใหม่ ใช้เครื่องยนต์รหัส 1GD-FTV แบบดีเซล เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ มีกำลัง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที กับแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,200 รอบต่อนาที โดยในรุ่นท็อปเท่านั้นที่จะเป้นเกียร์ออดต้ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential shift ให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลและถ่ายกำลังอย่างลื่นไหล ส่วนรุ่นย่อยอื่นๆรองลงไปเป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่วนช่วงล่างทุกรุ่นได้รับสเปคเดียวกันหมดคือ ด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ที่ทนทานซ่อมง่ายและนุ่มนวล ส่วนด้านหลังเป็นแหนบซ้อนที่เพิ่มความยาวขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้มีความนุ่มนวลดีขึ้นกว่ารุ่นเก่า และยังได้รับการออกแบบให้ล้อสามารถหักมุมเลี้ยวได้ถึง 45 องศา ทำให้มีวงเลี้ยวแคบเพียง 6.5 เมตร ซึ่งถือว่าแคบสำหรับรถที่มีฐานล้อยาวถึง 3.8 เมตร ระดับเดียวกับรถลิมูซีน ที่สามารถกลับรถบนถนนสุขุมวิทได้รวดเดียวจบอย่างคล่องแคล่ว
มั่นใจในความปลอดภัย ด้วยดิสค์เบรค 4 ล้อ
มีถุงลมนิรภัยให้ 3 จุดที่ด้านหน้า
โตโยต้าใจดี ไม่มีกั๊กเรื่องความปลอดภัย ด้วยการใส่ทุกฟังก์ชั่นให้ในทุกรุ่น ประกอบด้วยระบบเบรคแบบดิสค์ 4 ล้อ ที่มี ABS กันล้อล็อค และเสริมแรงเบรคด้วย BA ต่อด้วยระบบควบคุมการทรงตัว VSC ที่มีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC คอยช่วยอีกแรง นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยออกตัวบนทางชัน พร้อมเฟืองท้าย LSD หากเลี่ยงการชนไม่ได้จริงๆ ยังมีโครงสร้าง GOA ที่มีคานเหล็กทำหน้าที่คอยซับแรงแทนผู้โดยสาร ทำงานคู่กับถุงลมนิรภัย 3 จุดด้านหน้า และยังมีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง พร้อมค้อนทุบกระจกเป็นมาตรฐานติดรถ เรียกว่าจัดเต็มแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย
ช่วงล่างแหนบ ที่ยาวขึ้น 300 มม. ให้ความนุ่มนวลสุดขีดกว่าที่เคย
All-new Toyota Commuter ตัวถังแบบหลังคาเตี้ยเข้ามาขาย ซึ่งรุ่นหลังคาเตี้ยนี้จะเริ่มจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2562 เป็นต้นไป นับว่าเป็นยอดรถตู้ที่ให้ความคุ้มค่ามาก เพราะราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อยเพียง 60,000 บาท แต่ได้ทั้งโครงสร้างใหม่ เครื่องยนต์ใหม่ ช่วงล่างใหม่ และระบบความปลอดภัยใหม่ เป็นสิ่งที่รุ่นเก่าไม่สามารถอัพเกรดตามได้เลย พร้อมการรับประกัน 3 ปีหรือ 100,000 กม. ทั้งหมดนี้ทำให้รถตู้รุ่นใหม่ของโตโยต้า น่าจะยังครองแชมป์เซกเมนต์นี้ต่อไปอีกยาวนาน พร้อมลงโชว์รูมโตโยต้าให้สัมผัสกันได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนเป็นต้นไป
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้
ราคา Toyota Commuter | ราคา |
---|---|
Toyota Commuter 2.8 diesel A/T | 1,299,000 บาท |
Toyota Commuter 2.8 diesel M/T | 1,269,000 บาท |