กระแสรถยนต์อเนกประสงค์ของเมืองไทยยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าคุณจะชอบรุ่นไหน รักใครชอบค่ายรถไหน ก็ขอให้มีความสุขกับการขับขี่รถ SUV ในทุกเส้นทางละกันนะครับ ทว่าอีกหนึ่งรถอเนกประสงค์ที่หลายๆ คนติดตามกันมาว่าจะมาเมืองไทยหรือไม่ ซึ่งไม่ว่าจะมาเมืองไทยหรือไม่หรืออย่างไร ก็ขอให้อดทนรอ เชื่อว่าต้องมีลุ้นข่าวดี แต่ไม่เป็นไร วันนี้เราจึงขอนำเสนอการรีวิว รถยนต์อเนกประสงค์ Toyota Rush 2018 รถอเนกประสงค์ หรือที่หลายท่านเรียกว่ารถรถ MPV รถ SUV เพื่อเป็นน้ำจิ้มกันสักหน่อย เพราะที่ต่างประเทศ คือ อินโดนีเซียได้มีการเปิดตัว Toyota Rush 2018 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อปลายปี 2017 ที่ผ่านมา เรียกว่า ได้รับความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่หยิบยก Toyota Rush 2018 ขึ้นมา เพราะกระแสคอรักรถเชื่อว่า มันจะเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ Mitsubishi Xpander ที่ก็มีการคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในประเทศไทยแน่นอนเช่นกัน เรียกได้ว่า ถ้าหาก Toyota Rush 2018 และ Mitsubishi Xpander เปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันในประเทศไทย คงจะปลุกกระแสรถ 5 ประตู 7 ที่นั่งนี้ ให้พุ่งสูงขึ้นอีกเป็นทวีคูณอย่างแน่นอน
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของ Toyota Rush 2018 มีการออกแบบที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยทีเดียว เริ่มด้วยไฟหน้า LED พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า กระจังหน้าโครเมี่ยมให้ความหรูหรา ส่วนไฟท้ายแบบ LED เช่นกัน ในขณะที่มีการติดตั้งการ์ดใต้กันชนหน้า-หลัง และคิ้วกันกระแทกด้านข้าง ร และหลังคาเป็นแบบ Built-in จบที่ช่วงล่าง เป็นล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่กิ๊ก
รูปลักษณ์ของ แฟนๆ ชาวไทย คงต้องรอลุ้นข่าวดีไปก่อน ในปี 2018 นี้
รูปลักษณ์ภายนอกของ Toyota Rush 2018
ภายในห้องโดยสาร Toyota Rush 2018 มีการเล่นสี mood and tone โดยคุมโทนดำ เดินตะเข็บด้วยด้ายแดง เสริมอารมณ์สปอร์ตเต็มขั้นพร้อม เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะนั่งหุ้มหนังด้วยผ้าสีดำ พวงมาลัยหุ้มหนัง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว โดยมีลำโพง 8 ตำแหน่ง และใช้ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปุ่ม Push Start Button ในส่วนระบบกุญแจเป็น Smart Keyless Entry พร้อมมาตราวัดเรืองแสงแบบ Combination Meter และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแสดงผลบนจอดิจิตอล ช่องจ่ายไฟ 12V ทุกแถวที่นั่ง
ภายในของ >> รีวิว All-New Toyota Fortuner โฉมใหม่
ในส่วนอุปกรณ์เสริมด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ของ Toyota Rush 2018 นั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนความปลอดภับให้กับผู้ขับขี่เป็นอย่างสูง ได้แก่ อุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน คือ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบ VSC, ABS, EBD, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA และระบบสัญญาณไฟเบรกฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน เป็นต้น
ระบบความปลอดภัย Toyota Rush 2018 ได้แก่
ระบบเบรก ABS / EBD / BA
ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน HSA
ระบบเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว VSC
ไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย 7 ตำแหน่ง
ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
กล้องมองภาพขณะถอยจอด
คุณสมบัติของ Toyota Rush 2018
ด้านขุมพลัง Toyota Rush 2018 ถูกติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2NR แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร DOHC Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 104 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 136 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และขับเคลื่อนล้อหลัง
ขุมพลัง Toyota Rush 2018
Toyota Rush 2018 รุ่นใหม่นี้ เคาะราคาจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นที่ IDR. 239.900.000 – 261.300.000 หรือราวๆ 576,000 – 627,000 บาท (ไม่รวมภาษีของเมืองไทย) โดย Toyota Rush 2018 ที่เปิดตัวทำตลาดแล้วนั้น จะมีด้วยกัน 4 รุ่นย่อยให้เลือกได้แก่
1.5 G 5M/T
1.5 G 4A/T
1.5 TRD Sportivo 5M/T
1.5 TRD Sportivo 4A/T
Toyota Rush 2018 สี White
Toyota Rush 2018 สี Silver Mica Metallic
Toyota Rush 2018 สี Red Mica Metallic
Toyota Rush 2018 สี Bordeaux Mica
บทสรุป จริงๆ แล้ว ปัจจุบันประเทศไทย ที่พบเห็นโดยส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สไตล์ครอสโอเวอร์ทำตลาดมากนัก จึงเป็นมุมมองที่คนไทยพอจะได้ลุ้น เพราะปัจจุบัน รถกลุ่มนี้ ก็เห็นจะมีเพียง Honda Br-V เท่านั้นที่ทำตลาดอยู่ หรือจะเพิ่มอีกหนึ่งคู่แข่ง ก็น่าจะเป็น Mitsubishi Xpander ที่เตรียมขายในเมืองไทยภายในปีนี้ (แนวโน้มมาเมืองไทยแน่)
คงต้องรอดูกันว่า เมื่อถึงเวลาเปิดตัว Toyota Rush 2018 ในประเทศไทยแล้วจะได้รับความนิยมอย่างมากเหมือนเช่นที่อินโดนีเซียมากน้อยแค่ไหนหรือไม่ แล้วคุณล่ะ!? คิดเห็นอย่างไรกับเจ้า รถ MPV หรือ รถอเนกประสงค์ Toyota Rush 2018 คันนี้ แสดงความคิดเห็น หรือ Comment มาพูดคุยกับเราได้ตามกรอบความคิดเห็นด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ
ดูเพิ่มเติม