แท็กซี่ไร้คนขับ "Silent revolution on the road"

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 2 มี.ค 2561
แชร์ 2

"Silent revolution on the road" หรือการปฏิวัติเงียบบนท้องถนน คือ กระแสการเปลี่ยนแปลงจากรถยนต์ธรรมดากำลังค่อยๆปรับเปลี่ยนไปเป็นรถยนต์ไร้คนขับ การปฏิวัติครั้งรวมการขนส่งมวลชนที่จะค่อยๆเปลี่ยนไปด้วย


แท็กซี่ไร้คนขับ "Silent revolution on the road"

"การปฏิวัติเงียบ" บนท้องถนนทั่วโลก นำจากจะโดนโหมโรงด้วยกระแสรถยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด อีกกระแสหนึ่งที่จะตามมาแบบที่เรายังไม่ทันจะตั้งตัวคือรถยนต์ไร้คนขับ การขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ และภายในปี 2025 รถไร้คนขับจะมีจำนวนร้อยละ 2 ทำนายโดย World Economic Forum

หากรัฐบาลเป็นประเทศต่างๆปรับตัวได้ทัน World Economic Forum มองว่าจำนวนรถยนต์ไร้คนขับอาจเพิ่มเป็น 1 ใน 3 ภายในปี 2030 ส่งที่จะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะตามมาคือระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดจะใช้แรงงานมนุษย์น้อยลง และความปลอดภัยและความประหยัดพลังงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงพลังงานสะอาดซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


Waymo

การปรับตัวในครั้งนี้จะเริ่มมาจากเมืองใหญ่ๆ อย่างเช่น กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี รถแท็กซี่หรือรถเมล์ไร้คนขับ จะกลายเป็นทางเลือกในการสัญจรของผู้โดยสารกว่าร้อยละ 60 ของเมือง แม้ว่าตอนนี้เราจะยังไม่เห็นภาพชัด แต่ก็มีหลายบริษัทเริ่มลงทุนและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้มากมายหลายเจ้า อาทิ กูเกิล (Google) ก็ลงทุนในเวย์โม (Waymo) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ทำหน้าที่พัฒนาระบบรถโดยสารไร้คนขับโดยเฉพาะ มีการทดสอบไปแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ล้านไมล์

เดมเลอร์จากเยอรมนีก็ลงทุนใน แอป Mytaxi วางแผนพัฒนาแท็กซี่ไร้คนขับในอีกภายใน 2 ปี ทางด้านอูเบอร์และแกร็บก็ทดลองให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับเช่นกัน World Economic Forum มองว่าเทรนด์รถแท็กซี่ไร้คนขับจะมาเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของรัฐบาลแต่ละประเทศว่าจะออกกฎหมายมารองรับได้เร็วแค่ไหน ส่วนภาคเอกชนจะมีบทบาทในเรื่องการลดต้นทุนทั้งระบบเพื่อการบริการที่มีราคาที่ถูกลงเข้าถึงได้ง่าย

ดูเพิ่มเติม