Autocar มองว่าการที่ Porsche จะยุติการผลิตรถดีเซลชั่วคราวนั้นถือว่าอยู่ในจังหวะที่ดีเมื่อดูจากสถานการณ์ทั้งเรื่องนโยบายและยอดขายของคู่แข่ง
Porsche Cayenne Diesel S
จากการที่จะมีการตัดสินโดยศาลสูงสุดเยอรมันว่ารถเครื่องยนต์ดีเซลที่มีอัตราปล่อยมลภาวะต่ำกว่ามาตรฐาน Euro 6 จะถูกแบนบนท้องถนนหรือไม่ ทั้งคณะบริหารเมืองสตุ๊ทการ์ท (บ้านของ Porsche) และไลป์ซิก (ทีมฟุตบอลตรากระทิงกำลังบินสูงเลย) ต้องการไม่ให้รถดีเซลเก่าถูกใช้ในตัวเมือง ถ้าศาลอนุมัตินโยบายนี้ ผลกระทบที่ตามมาจะยิ่งใหญ่มาก
ย้อนไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว นายใหญ่ของ Porsche กำลังพิจารณาที่จะยุติการผลิตรถเครื่องดีเซลทั้งหมดภายในปีต่อไป การตัดสินใจนี้ไม่ได้มาจากแค่ผลจากศาล เป็นไปได้อาจเกิดจากผลของการทดสอบเศรษฐกิจและมลภาวะระบอบใหม่ (RDE และ WLTP) ที่จะเริ่มใช้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2018 นี้
รถดีเซลยุคเก่าอาจประสบปัญหาเพื่อผ่านการทดสอบในระบบใหม่ ทำให้การเก็บรถดีเซลเข้ากรุนั้นเป็นเรื่องดีกว่า จนกว่ารถดีเซลเครื่องสะอาดมากรุ่นใหม่จะถูกเริ่มใช้ในเครือ VW ถึงตอนนั้น Porsche ค่อยพิจารณาเปิดตัวรถดีเซลออกสู่ตลาดอีกครั้ง
แต่การตัดสินใจของ Porsche ถึงเครื่องดีเซลนั้น ยังอาจมีอิทธิพลจากยอดขายของ Tesla Model S ทุบ Mercedes S-Class ในละแวกยุโรปตะวันตกปีที่แล้ว แน่นอนว่ามีส่วนจากยอดขายของ Tesla ในนอร์เวย์ แต่ก็เป็นระยะเวลาพักหนึ่งแล้วตั้งแต่ที่นักวิจารณ์ประกาศว่า สินค้าพรีเมียมตอนนี้ไม่ได้แยกจากความรักษ์โลก เอาแค่ในอังกฤษ ลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ซื้อรถพรีเมียมแพงสุดๆ ต่างมองไปถึงว่ารถคันนั้นจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
จากที่ Porsche แบไต๋ออกมา อนาคตรถดีเซลในค่ายยังไม่ตายสนิท หลังจากนั้น เครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่รุ่นใหม่จะมีระบบช่วยไฮบริดเบาเพื่อช่วยลดมลภาวะออกไปอีก
แต่แหล่งข่าวในกลุ่มวิศวกรได้บอก Autocar ว่าดีเซลในอนาคตจะมีสมรรถนะที่แย่ลงกว่าเดิม เพราะเมื่ออัตราเร่งสูงจะทำให้เกิดการปล่อยไนตรัสอ็อกไซด์ออกมาจำนวนมาก แล้วจะมีใครจินตนาการได้ว่า Porsche จะมีรถที่อัตราเร่งเป็นมิตรบ้าง?
สนใจซื้อหรือเช็คราคารถ Porsche ได้ที่นี่
อ่านเพิ่มเติม