ไม่ได้พูดลอย ๆ และไม่ได้มาเล่น ๆ เมื่อทางสถิติโลกจดบันทึกเอาไว้อย่างเป็นทางการแล้วกับตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดในโลก ที่ Bugatti Chiron 2019 คว้าไปครองหลังได้รับการทดสอบจากสนามจริง ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 494.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ความไวเป็นเรื่องของปีศาจ และบทบาทของตัวจริงไม่ต้องพูดให้เสียเวลา เพราะความจริงก็คือความจริงดังคำกล่าวอ้างของครูปรีชา ดังเช่น Bugatti Chiron 2019 (บูกัตติ ชิรอน 2019) ที่เพิ่งลงสนามทดสอบความเร็ว เมื่อวันที่ 2 เดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ณ สนามทดสอบ Ehra-Lessien และเพิ่งประกาศออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ ว่า Bugatti Chiron 2019 สามารถทำลายสถิติโลก แซงหน้า Hennessey Venom F5 (เฮนเนสซี่ย์ เวนอม เอฟ 5) ไฮเปอร์คาร์จากเท็กซัส ที่ทางสำนักเคลมเอาไว้ว่านี่จะกลายเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก พร้อมยืนยันว่าพวกเขากำลังจะใกล้เข้าถึงความเป็นจริงแล้วอีกไม่นานนี้
Hennessey Venom F5 ที่ทางสำนักเคลมว่าเร็วที่สุดในโลก ณ ขณะนี้
ก่อนหน้านี้พวกเขาได้กล่าวอ้างเอาไว้ว่า Hennessey Venom F5 จะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 482 กม./ชม. จากการทดสอบและวัดค่าจาดตัวเลขต่าง ๆ ที่แสดงผลออกมาว่าสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้มากกว่า Koenigsegg Agera RS (โคนิกเซกก์ อากีรา) เจ้าของสถิติโลกที่ถูกบันทึกไว้ก่อนหน้านี้ และหวังขึ้นครองบัลลังก์ชิงเป็นที่หนึ่งกับตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดในโลก
แต่แค่คำกล่าวอ้างไม่ได้มีน้ำหนักพอที่จะถูกบันทึกและเอาไว้อ้างอิงได้เท่ากับของจริง ที่ได้รับการทดสอบจริง เพราะล่าสุด Bugatti Chiron ที่เป็นรองอยู่ แอบซุ่มและเสริมกำลังอยู่เงียบ ๆ มาสักพัก ก็สวมนวมลงสนามทดสอบความเร็วอีกครั้งโดย Andy Wallace นักแข่งรถชื่อดัง และผลลัพธ์ทีได้คือ Bugatti Chiron สามารถทำความเร็วได้ถึง 490.484 กม./ชม. ที่ 304.773 รอบต่อนาที ซึ่งการทำลายสถิติได้รับการยืนยันจากทางสมาคมตรวจสอบทางเทคนิคของเยอรมนี ว่าสามารถทำลายสถิติล้มแชมป์เก่าได้จริง และนั่นทำให้ Bugatti Chiron ขึ้นแท่นสวมมงกุฎรับตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดในโลกที่ถูกบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ สมกับที่ใช้เวลาในการพัฒนามาอย่างใจเย็น
ดูเพิ่มเติม
>> 7 เรื่องที่เป็นที่สุด ในประวัติศาสตร์วงการรถยนต์
>> Bugatti Centodieci ซูเปอร์คาร์ 260 ล้านบาท ดีไซน์นี้มี 10 คันบนโลกเท่านั้น
Bugatti Chiron เวอร์ชั่นใหม่นี้ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้การร่วมมือระหว่างทาง Bugatti กับ Dallara ค่ายผู้ผลิตแชสซี และ Michelin บริษัทผลิตยางชื่อดัง โดยใช้เวลาร่วมหกเดือนที่สร้างไฮเปอร์คาร์คันนี้ออกมาให้ได้ในรูปแบบที่ต้องการ โดยเพิ่มความยาวอีก 25 เซนติเมตรจากตัวรถแบบเดิมเพื่อความพริ้วไหวที่มากขึ้นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการลู่ลมและลดแรงต้านอากาศตามหลักอากาศพลศาสตร์
Bugatti Chiron มีการปรับโครงสร้างและภายนอกใหม่ที่จะสร้างความเร็วได้มากขึ้น
หางยาวของรถที่ทำการปรับยังเห็นร่องรอยของการถอดปีกหลังและแอร์เบรกออก พร้อมทำการเปลี่ยนช่วงท้ายด้านหลังให้มีความดิฟฟิวเซอร์ ด้วยการปรับใช้และจัดวางชิ้นส่วนที่ช่วยในการลู่ลมได้ดีขึ้น เสริมความเร็วของรถได้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องมีการใช้ตัวต้านแรงอากาศแบบเดิม พร้อมกับมีการเพิ่มระบบควบคุมระดับความสูงด้วยเลเซอร์เพื่อให้แน่ใจว่าช่วงส่วนล่างและระบบกันสะเทือนที่ถูกปรับจะสามารถควบคุมให้ทำงานได้อย่างปลอดภัยขณะวิ่ง
ช่วงด้านท้ายของ Bugatti Chiron มีการติดตั้งท่อไอเสียคู่แบบแนวตั้ง
นอกจากนี้ยังมีการปรับจุดท่อไอเสียด้านหลังที่ติดตั้งมาเป็นแบบแนวตั้งแบบ Bugatti Centodieci เพื่อช่วยให้การคลายตัวของไอเสียไหลลื่นได้มากที่สุด ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากลมที่ตีต้านและตีกลับที่ด้านท้าย ส่วนเครื่องยนต์อันทรงพลังเป็นเบนซิน W16 ขนาด 8 ลิตร 16 สูบ พร้อมเทอร์โบ 4 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุดมากถึง 1,578 แรงม้าที่ 1,600 รอบต่อนาที และยังใช้ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ 7 จังหวะ คลัตช์คู่ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเดิม
Bugatti Chiron กลายเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ
นอกจากปรับโครงสร้างภายนอกแล้ว Bugatti Chiron ยังมีการปรับเปลี่ยนภายในรถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำหนักของรถที่จะมีผลต่อความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นส่วนของที่นั่งผู้โดยสารที่ถูกถอดออกและใส่ safety cage เข้ามาแทนเพื่อความปลอดภัย และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ปรับมาให้ใช้เป็นคอมระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อลดน้ำหนักภายในตัวรถลง เพิ่มพื้นที่การเคลื่อนไหวของผู้ขับขี่ให้สมดุลและคล่องตัวในการใช้งานมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการปรับใหม่เกือบแทบทั้งคัน เพื่อให้ได้มาซึ่งคำว่าเป็นที่หนึ่งในตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดในโลก
นับจากการประกาศตนว่าเป็นเจ้าแห่งความเร็วตัวจริงของ Bugatti Chiron ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่เหลือ ว่าถ้าหากอยากเป็นที่หนึ่งก็ต้องสร้างสรรค์และพัฒนากันต่อไป และในอนาคตความเร็วของรถสูงสุดที่จะวัดได้อาจมีโอกาสที่จะแตะไปถึงตัวเลขชนิดที่คาดไม่ถึงในตอนนี้ก็เป็นได้ ต้องรอติดตามดูกันต่อไปเพราะการสร้างสถิติโลกเป็นเรื่องที่ท้าทายและไม่มีที่สิ้นสุด
ดูเพิ่มเติม
>> ทดสอบตัวแรง "Porsche Taycan" ด้วยความเร็วทะลุ 200 กม./ชม. ตลอด 24 ชั่วโมง
>> BMW X5 กันกระสุนได้ รุ่นแต่งพิเศษแบบโหดจัด โดนระเบิดก็ไม่ระคาย
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้