ธุรกิจรถยนต์ชะลอตัวไม่ได้มีแค่ที่ไทย ล่าสุดจีนเตรียมเพิ่มมาตรการปรับเปลี่ยนโครงสร้างตลาดรถยนต์

เรียกได้ว่าในแต่ละปี สภาวะเศรษฐกิจนั้นมีการแปรผันอยู่ตลอดเวลา ชนิดที่ผู้ประกอบการและประชาชนจะต้องเตรียมรับมือกันอยู่เสมอ อย่างเช่นในประเทศไทยเองสภาวะเศรษฐกิจและอัตราการตกงานก็ส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไม่แพ้กัน อีกทั้งช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนที่มีมากขึ้น ยิ่งทำให้โครงสร้างของสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ในปี 2019 จะมีแนวโน้มที่ดีมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่หลายคนก็คงต้องเตรียมรับมืออยู่เสมอ

การแก้ไขและเพิ่มมาตรการของรัฐบาลจีน

ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศที่เป็นฐานผลิตใหญ่ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างจีน ที่ล่าสุดก็ได้เตรียมเพิ่มมาตรการเพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางการตลาดรถยนต์แล้วเรียบร้อย หลังสภาวะเศรษฐกิจในปี 2019 เริ่มฟื้นตัวและมียอดขายรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างเช่นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง BMW, Volkswagen และ Audi ที่สามารถฟื้นตัวจากการขายรถยนต์ไปรวมแล้วมากกว่า 64,000 คัน หรือราวๆ 5.4% ในช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังรัฐบาลจีนเริ่มปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก

การชะลอตัวของตลาดรถจีนเริ่มมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น

เบื้องต้นนั้น โมเดลของรถที่ผลิตในประเทศจีน โดยเฉพาะในปีนี้มียอดขายเพิ่มขึ้น 3.9% หรือราวๆ 91% เมื่อลองคำนวณแบบรายปี แน่นอนว่าทั้งรถนำเข้าและรถที่ผลิตที่จีนก็ค่อยๆฟื้นตัวหลังจากซบเซามาหลายปี ไม่เพียงแต่แบรนด์ทางยุโรปเท่านั้นที่เริ่มฟื้นตัว แต่รวมไปถึงค่ายรถจากญี่ปุ่นอย่าง Honda ด้วยเช่นเดียวกัน ที่ยอดขายในต้นปีนี้สูงถึง 108.2% หรือราวๆ 136,483 คัน นับเฉพาะในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถือว่าการปรับโครงสร้างที่ค่อนข้างเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ในจีนนั้น ถือเป็นเรื่องที่น่าศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะหลายปีที่ผ่านมาสถานการณ์ต่างๆค่อนข้างมีความตึงเครียด และยอดขายรถก็ติดลบอย่างต่อเนื่องมากกว่า 2 ทศวรรษ แต่ในต้นปี 2019 กลับสามารถพลิกสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและโครงสร้างเพื่อการขยายความเติบโตของตลาดรถยนต์ได้อย่างรวดเร็ว หากเทียบกับประเทศไทยแล้วค่อนข้างแตกต่างกันในส่วนของการปรับเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด เพราะในประเทศไทยจะเติบโตแบบค่อยๆขึ้น ไม่ได้พุ่งพรวดภายในเดือนเดียว ในขณะที่จีนกลับมีการเติบโตแบบพุ่งสูงอย่างเห็นได้ชัดนั่นเอง