จากคุกกี้สู่เรื่องน่ารู้แท็กซี่ญี่ปุ่น
chobrod พาไปทำความรู้จักกับแท็กซี่ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมากในญี่ปุ่น ถึงขนาดต้องโผล่มาใน MV คุกกี้ต้นฉบับ
Toyota Crown Comfort ใน MV Koisuru Fortune Cookie ของ AKB48
ในขณะที่เพลงคุกกี้เสี่ยงทายของน้องๆ BNK48 สร้างปรากฎการณ์โอตะไปทั่วประเทศ เราต้องไม่ลืมว่าตัวเพลงนั้นมีต้นฉบับจากวงพี่สาว AKB48 ทั้งหมด และในเพลง Koisuru Fortune Cookie ฉบับออริจินอลมีรถที่จอดเด่นเป็นสง่ามาก นั่นก็คือรถแท็กซี่ Toyota Crown Comfort
- แกร็บ เปิดให้บริการ ‘แกร็บเรนท์’ ตอบโจทย์ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางหลายจุดหมายและเดย์ทริปข้ามจังหวัด
- รัฐบาลเตรียมทำแท็กซี่ OK-VIP พร้อมติดเครื่องสแกนคนขับและปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉิน
Toyota Crown Comfort
ญี่ปุ่นไม่ได้มีรถแท็กซี่ที่ใช้รถรุ่นใหม่เหมือนหลายประเทศ Toyota Crown Comfort เป็นรุ่นย่อยของ Toyota Crown 1995 ส่วนอีกคันคือ Nissan Cedric 1987 รถทั้งสองยังมีการผลิตหลังจากนั้นต่อเนื่องแต่ปรับแค่ไฟหน้าเท่านั้น ลักษณะรถเหมือนกับรถยุคก่อนหน้านี้ประมาณต้นยุค 80 ด้วยตัวถังที่เรียบกับดูเหมือนกล่อง และนักขับแท็กซี่ญี่ปุ่นชื่นชอบรถขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้ผู้ผลิตไม่กล้าเข้าไปก้าวก่ายกับรถที่มันดีแล้วอยู่แล้ว Crown Comfort เป็นที่นิยมกว่าจนถูกส่งออกไปฮ่องกงมาแล้ว ฝั่ง Nissan เองก็เคยผลิตรถแท็กซี่รุ่น Crew ตั้งแต่ปี 1993-2009
Nissan Crew
แท็กซี่ส่วนใหญ่จุผู้โดยสารได้ 4 ที่นั่ง (3+1) เวลาสังเกตรถว่างให้มองสัญญาณสีแดงที่ป้ายหน้ารถและหลังคา เมื่อม่ีลูกค้าแล้วไฟจะเป็นสีเขียว (ตรงข้ามกับไทยเลย) ยังมีเอกลักษณ์อื่นๆ อีกสำหรับแท็กซี่ญี่ปุ่น ประตูผู้โดยสารด้านหลัง ลูกค้าเปิดได้ด้วยไฟฟ้า และไม่ต้องปิดเพราะคนขับควบคุมได้ตั้งแต่ต้นยันปลายทาง
แท็กซี่ทั้งสามรุ่นไม่ใช่รถซีดานที่หรูที่สุด แต่ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ตัวคนขับนั้นสุภาพมาก มักจะใส่เสื้อเชิ้ตที่เนี้ยบสุดๆ และผูกเนคไท แล้วยังใส่หมวกกับถุงมือขาวด้วย (อาจไม่สอดคล้องกับใน MV) เบาะในรถก็เป็นเอกลักษณ์เหมือนกัน ใช้เบาะลินินขาวห่อหุ้มด้วยเชือกร้อย ทำให้ประสบการณ์การใช้แท็กซี่ในญี่ปุ่นดูพิเศษมากขึ้น
ที่ต่างจากเมืองส่วนใหญ่ในโลกคือ แท็กซี่ญี่ปุ่นไม่รับทิป ลูกค้าควรจ่ายจำนวนตามมิเตอร์บอก ค่ายบริการทั้งหมดถูกครอบคลุมให้ราคายุติธรรมแล้ว
ระบบชื่อและเลขในถนนของญี่ปุ่นเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนที่ไม่เข้าใจ และแท็กซี่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่พูดอังกฤษไม่ได้ ลูกค้าควรหาตัวช่วยจากโรงแรมที่พักอาศัยหรือคนที่ญี่ปุ่นได้เพื่อบอกจุดหมายปลายทาง หรืออาจต้องถึงขั้นจดใส่กระดาษเอาเลย แผนที่และการสะกดเป็นภาษาอังกฤษอาจแก้ไขปัญหาได้
แท็กซี่มีค่าเดินทางที่แพงที่สุดเหมือนหลายที่ในโลก ที่นี่เริ่มต้นที่ 600-700 เยนในระยะ 2 กม. แรกและจะเพิ่มขึ้นประมาณ 100 เยนทุกๆ 500 เมตร และจะขยับอีกเมื่อตัวรถนิ่งเป็นเวลานาน พอตกเย็น ค่าแท็กซี่จะแพงขึ้นอีก 20-30%
Nissan Cedric
ดูเพิ่มเติม
