กล้านั่งกันมั้ย? รถยนต์พลังงานอุนจิ!!!
ในขณะที่วงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังคึกคัก แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการทำพลังงานทดแทนมาใช้กับรถเช่นกัน แต่เป็นพลังงานจากอุนจิ!!!
ก่อนที่กระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมาแรงเช่นทุกวันนี้ ย้อนไปเมื่อราวปี 2014 ก็ได้มีการนำพลังงานทดแทนอื่นๆ มาเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันเช่นกัน ซึ่งหากรู้แล้สจะต้องอึ้งกันแน่ๆ เพราะพลังงานที่ว่านั้นคือพลังงานที่มาจาก "อุนจิ"!!!
Bio-Bus รถโดยสารพลังงานอุนจิ
รถ Bio-bus ที่ออกแบบให้เห็นอย่างชัดเจน ว่ามาจากพลังงานอุนจิของคน 5 คน
พร้อมให้บริการจ้า
รถโดยสารคันนี้เป็นโครงการนำร่องโดยบริษัทขนส่ง "First West of England" ซึ่งพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนรถนั้นเป็นพลังงานจากของเสียหลากหลายรูปแบบทั้งอาหาร รวมไปถึงปัสสาวะและอุจจาระของมนุษย์ 5 คน ซึ่งทำให้รถขับไปได้มากกว่า 300 กิโลเมตร บนเส้นทางรับส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองคริบส์คอสเวย์กับเมืองสต๊อควูด ซึ่งใช้ระยะทาง 24 กิโลเมตร
การนำของเสียมาเป็นเชื้อเพลิงนี้เป็นกระบวนการที่เรียกว่า Anaerobic Digestion หรือเทคโนโลยีหมักย่อยแบบไร้อากาศ ทำให้กลายเป็นก๊าซไบโอมีเทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่ารถเครื่องยนต์ดีเซลราว 20 - 30% และลดการเกิดก๊าวไนโตรเจนออกไซด์ได้ถึง 97% อย่างไรก็ตาม เมื่อพลังงานหมดก็ต้องแวะเติมเชื้อเพลิงที่สถานี Bristol Sewage Treatment Works ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองราว 11 กิโลเมตร จึงเหมาะเป็นรถที่ใช้งานระสั้นๆ ระหว่างเมืองเท่านั้น
สถานีเติมเชื้อเพลิงมีเพียงที่เดียว จึงเหมาะกับการเดินทางระหว่างเมืองในระยะสั้นๆ
Bio-Bus ที่ประเทศอื่นๆ
ไม่เพียงประเทศอังกฤษที่นำของเสียมาเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงรถ เพราะเมื่อปี 2017 ทางออสเตรเลียก็ได้เปิดตัวรถยนต์พลังงานอุนจิเช่นกัน แถมยังเพิ่มความน่ารักด้วยการสร้างมาสคอตชื่อ The Stink ที่ใส่ชุดยูนิฟอร์มคล้ายชุดอวกาศ และแปะอีโมจิรูปอุนจิขนาดใหญ่ที่หน้าอก ให้เห็นชัดๆ กันไปเลยว่านี่คือรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังอุนจินะ!
ที่ออสเตรเลีย มาในชื่อ Poo Powered Car
มาสคอต และอีโมจิอุนจิที่เห็นเด่นชัด
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะร้องยี้เมื่อรู้ว่าเป็นรถที่ใช้พลังงานของเสียอย่างอุนจิเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วกระบวนการเปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นเชื้อเพลิงได้นั้น ต้องเป็นพลังงานบริสุทธิ์ถึง 98% ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและปราศจากกลิ่นอย่างแน่นอน และที่สำคัญก็เป็นการใช้พลังงานทดแทน และช่วยลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรได้เป็นอย่างดีเลยนะ
อ่านเพิ่มเติม
