Volkswagen Golf 2020 คอมแพคท์คาร์ 5 ประตูที่ชาวไทยคุ้นหน้าเป็นอย่างดี ล่าสุดได้ทำการเปิดตัวรุ่นใหม่ในเจนเนอเรชั่นที่ 8 พร้อมด้วยเครื่องยนต์ Mild hybrid และ PHEV
Volkswagen Golf 2020 รุ่นใหม่มากับ รูปแบบของรถยนต์ ไฮบริด Mild hybrid ) หลายรุ่นย่อย เสริมด้วยรุ่น plug-in hybrid อีก 2 รุ่น เพื่อรองรับความเข้มงวดของกฏด้านการปลดปล่อยมลพิษในยุโรป ซึ่ง Volkswagen ก็เป็นค่ายนึงที่จริงจังกับการผลิตรถยนต์เพื่อรองรับพลังงานทางเลือกเพือรักษาสิ่งแวดล้อม
สำหรับคอนเซ็ปต์ การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอก ของ Volkswagen Golf 2020 ถือว่าไม่แตกต่างไปจากรุ่นเดิมมากนัก หากไม่สังเกตกันอย่างละเอียด โดยพิกัดของตัวถังรถเทียบกับรุ่นก่อนหน้าตัวรถมากับความยาวรวม 4,284 มม. (+29 มม.) กว้าง 1,789 มม. (-10 มม.) สูง 1,456 มม. (+4 มม.) ตัวถังวางอยู่บนฐานล้อ 2,636 มม. (-1 มม.) ซึ่งแทบจะไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมเลยสักนิด อาจเพราะจุดขายอยู่ที่ ระบบการขับเคลื่อนที่เน้นการอนุรักษ์มากกว่า ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม Volkswagen Golf 2020 ในส่วนของภายในได้รับการปรับโฉมจากรุ่นก่อนแบบใหม่หมดจด ตั้งแต่มาตรวัดหลังวงพวงมาลัยมาในแบบฟูลดิจิทัล ซึ่งโฟล์คฯ จับควบรวมเอาไว้ในกรอบเดียวกับจอแสดงผลส่วนกลาง บริเวณปลายสุดทางด้านขวาของมาตรวัด (พวงมาลัยซ้าย) มีจอแสดงผลชุดระบบไฟส่องสว่างแยกตัวเป็นเอกเทศ การออกแบบโดยรวมเป็นแบบมินิมอลตามยุคสมัยมาตรวัดฟูลดิจิทัลพร้อมจอแสดงผลระบบอินโฟฯ ขนาด 8.25 นิ้ว, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Climatronic ที่มีความล้ำกว่ารุ่นก่อนหน้าพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างจอ Head-up Display จอแสดงผลส่วนกลางขนาด 10 นิ้ว จุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ชุดซาวด์ซิสเต็มของ Harman Kardon
สำหรับขุมพลังของ Golf 2020 ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล จะมากับระบบจ่ายเชื้อเพลิงตรง และเทอร์โบชาร์จ รุ่นเกียร์ธรรมดาเป็นเกียร์ 6 จังหวะรุ่นใหม่ พัฒนาขึ้นมาแบบเฉพาะตัวสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า มุ่งเน้นไปที่การลดมลพิษ (หมายถึงมีส่วนช่วยในการลดมลพิษ) โดยกลุ่มเครื่องยนต์เบนซิน TSI จะมีรุ่น 3 สูบ 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 90 และ 110 แรงม้า (PS) ต่อด้วยรุ่น 4 สูบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 130 และ 150 แรงม้า และมีเกียร์ดูอัลคลัทช์ DSG 7 จังหวะเป็นออปชั่น
เครื่องยนต์ดีเซล TDI มาแบบบล็อคเดียวโดดๆ โฟล์คฯ ระบุว่าเครื่องยนต์บล็อคนี้ออกแบบงานวิศวกรรมใหม่ทั้งหมดตั้งแต่พื้นฐาน ตัวเครื่องยนต์เป็นแบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร เลือกได้ระหว่างเกียร์ธรรมดา, เกียร์อัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MOTION all-wheel drive กำลังสูงสุดมีรุ่นย่อย 115 และ 150 แรงม้า
รุ่นเครื่องยนต์ Mild hybrid โฟล์คฯ หรือเครื่องยนต์ “eTSI” พื้นฐานการทำงานไม่ต่างจากผู้ผลิตแบรนด์อื่นๆ คือมี Belt Starter Generator ที่ออกแบบมาให้ควบรวมกันเป็นหนึ่งเดียว พ่วงเอาไว้กับเครื่องยนต์เบนซิน (มีรุ่นย่อยให้ทั้งรุ่น 1.0 และ 1.5) ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน เทคโนโลยี 48 โวลท์ และมี Converter แปลงกระแสไฟฟ้าแรงสูงจากแบตเตอรี่ไปจ่ายไฟให้ระบบ ช่วยลดการทำงานของเครื่องยนต์ กำลังสูงสุดมีรุ่นย่อย 110, 130 และ 150 แรงม้า
สำหรับรุ่นนี้ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน TSI แบบ 4 สูบ 1.4 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพค ลิเธียม-ไอออน ความจุ (หรือความสามารถในการจ่ายไฟใน 1 ชม.) เท่ากับ 13 กิโลวัทท์-ชม. กำลังสูงสุดแยกเป็นรุ่น 204 และ 245 แรงม้า โหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 60 กม.
Volkswagen Golf 2020 ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยี CAR2X ระบบเทคโนโลยีของ Volkswagen ในทศวรรษใหม่ ในกลุ่ม V2X (Vehicle-to-Everything) ที่สามารถเชื่อมต่อรถเข้ากับฐานข้อมูลต่างๆ เพื่อแจ้งข้อมูลสำคัญให้กับผู้ขับ ผ่านระบบที่โฟล์คฯ เรียกว่า OCU หรือ online connectivity unit ซึ่งรถแต่ละคันที่มีระบบ Car2X จะช่วยกันส่งข้อมูลสภาพการจราจรรอบๆ คันในรัศมีสูงสุด 800 เมตรขึ้นไปบนฐานข้อมูลส่วนกลาง จากนั้นจะส่งข้อมูลกลับไปยังรถคันอื่นๆ เพื่อแจ้งเหตุล่วงหน้าตามแต่ละกรณี เช่น มีอุบัติเหตุอยู่ข้างหน้า, มีน้ำท่วมขังอยู่ข้างหน้า หรืออื่นๆ
โดยตัว OCU จะควบรวมการทำงานเข้ากับ eSIM (ซิมการ์ดแบบอิเลคทรอนิค) หมายความว่าในการให้บริการแต่ละบุคคล ต้องมีการพึ่งพาเครือข่ายของผู้ให้บริการโทรคมนาคมด้วย ดังนั้น แม้ว่าโฟล์คฯ จะติดตั้งระบบ Car2X มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ก็จำเป็นต้องแยกแพคเกจบริการเชื่อมต่อในชื่อ We Connect และ We Connect Plus ออกมาเพื่อให้บริการออนไลน์ใช้งานได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ มีให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ส่วนชุดระบบความปลอดภัยต่างๆ ของ Golf 2020 ยังทำงานร่วมกับ Car2X เช่น ระบบรักษาตำแหน่งรถในเลน หรือระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในยามคับขัน ซึ่งระบบเหล่านี้มีให้สำหรับรถยนต์รุ่นนี้ทุกรุ่น และอุปกรณ์ต่างๆ ตามประเภทของรุ่นย่อย อาทิ ระบบไฟอัจฉริยะรุ่นใหม่ IQ.Light (ชุดไฟ LED Matrix ที่มีระบบการทำงานตามสภาพแวดล้อมในการขับ และทำงานร่วมกับระบบช่วยเหลืออื่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมด้วยระบบช่วยจอด Park Pilot เป็นต้น
สำหรับราคาค่าตัวของ Volkswagen Golf ยังไม่มีการเปิดเผยราคาให้ทราบ แต่จะทางค่าจะทำการตลาดในยุโรปช่วงเดือนสุดท้ายของปลายปีนี้
ดูเพิ่มเติม
>> เปิดตัว Toyota Yaris 2020 กับออปชั่นใหม่ที่เหนือระดับสำหรับซับคอมแพ็คคาร์
>>แนะนำ มิตซูบิชิ ปาเจโร มือสอง สุดคุ้ม กับรุ่นที่น่าซื้อแต่ละช่วงปี
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้