ในช่วง 6 เดือนแรกนับจากเดือนกันยายน Toyota ประหยัดเงินได้ $879 ล้าน หรือ 1 แสนล้านเยน วางแผนที่จะใช้เงินออมเพื่อช่วยในกองทุนสนับสนุนการวิจัย และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ
Toyota Research Institute Inc. (TRI) สำนักงานใหญ่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ศูนย์กลางของย่านซิลิคอนวัลเลย์สหรัฐอเมริกา
Bloomberg รายงานว่าในปีนี้ โตโยต้าจะมีการสำรวจระบบส่งกำลังแบบไฟฟ้า และเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ของระบบขับขี่ด้วยตนเอง จะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการวิจัย และพัฒนาระบบครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ โดยจะใช้จ่าย 1.06 ล้านล้านเยน ($ 9.3 พันล้าน) ในช่วง 6 เดือนก่อนหน้านี้ ทางบริษัทสามารถประหยัดค่าใช่จ่ายในทุกๆวินาทีได้มากกว่า $3,300 โดยก่อนหน้านี้ทางค่ายได้กำหนดมาตรการหลายอย่าง รวมทั้งถึงการนำเสนอกระบวนการผลิตใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง
โตโยต้าได้ลงทุนในรถยนต์ระบบไฮบริด แบตเตอรี่แบบโซลิตสเตต (Solid-State Battery) และเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตนเอง
นักวิเคราะห์อย่าง Masataka Kunugimoto ได้แสดงความคิดเห็นว่าค่ายใช้จ่ายในด้านการวิจัย และการพัฒนาระบบ จะทำให้โตโยต้ากลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆต่อไป เขากล่าวว่า “ด้วยการที่โตโยต้าได้ลงทุนในรถยนต์ระบบไฮบริด แบตเตอรี่แบบโซลิตสเตต (Solid-State Battery) และเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตนเอง พร้อมกันนั้นยังมีความกระตือรือร้นเป็นพันธมิตรกับบริษัท อื่น ๆ ทำให้โตโยต้ากระโดดขึ้นมาเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในยุคต่อไป” และในอนาคตเราคงจะได้เห็นรถพลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีใหม่ๆ จากค่ายรถยนต์ที่ถือว่าเป็นค่ายยอดนิยมในบ้านเรา
ทางด้านหัวหน้าฝ่ายการเงินของโตโยต้า Osamu Nagata กล่าวกับผู้สื่อข่าวในช่วงบรรยายสรุปที่กรุงโตเกียวถึงสิ่งสำคัญสำหรับกระบวนการผลิตเพื่อประหยัดเงินในทุกหนทาง “เราไม่เพียงแค่ต้องการพัฒนาเทคโนโลยีเท่านั้น แต่มันยังต้องเป็นในเชิงพาณิชย์อีกด้วย ในการทำแบบนั้น เราจำเป็นต้องเพิ่มค้าใช้จ่ายในด้านการวิจัย และการพัฒนาระบบ นี่จะเป็นภาระค่าใช้จ่ายดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเร่งในการลดต้นทุน”
ดูเพิ่มเติม :
>>Toyota Camry 2017 เผยโฉมชุดแต่ง TRD ใหม่ล่าสุดที่ญี่ปุ่น เคาะราคาชุดรอบคันอยู่ที่ 48,000 บาท
>>Toyota Prius เจเนเรชั่นแรก อยู่กับเรามากว่า 20 ปีแล้ว!