เผยโฉมกันไปเรียบร้อยแล้วภายในงาน Detroit Auto Show 2019 สำหรับกระบะรุ่นใหญ่ “ที่ใหญ่จริง ๆ” กับ New RAM 2500 และ 3500 Heavy Duty 2019 ที่ “มหึมา”ยิ่งกว่า All NEW RAM 1500 กระบะ Full Size ซึ่งเปิดตัวกันไปก่อนหน้านี้ กับเป้าหมายของรุ่นเพื่อเป็นกระบะสำหรับลากจูงโดยเฉพาะ จะลากรถบ้าน หรือลากเรือ ยังไงก็ไม่หวั่น เมื่อมากับเครื่องยนต์ระดับแรงบิดมหาศาล กว่าพันนิวตันเมตร
New RAM 2500, 3500 Heavy Duty 2019 กระบะยักษ์ที่ใครเห็นก็ต้อง “เกรง”
อย่างที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันว่า “กระบะแกะป่า” หรือว่า RAM นั้นเคยเป็นรถหนึ่งรุ่นจากค่ายของ Dodge แต่ในปัจจุบัน RAM ได้แยกออกมาเป็นเป็นชื่อแบรนด์หลักของตัวเองแล้วเรียบร้อย ซึ่งจะเป็นแบรนด์ที่เน้นในการสร้างกระบะขนาดใหญ่ และรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ โดยทางค่ายเพิ่งได้ทำการแนะนำกระบะรุ่นใหม่ที่ “ใหญ่ยิ่งกว่า” แบบ Full Size Pick-up เป็นรุ่น New RAM 2500 และ 3500 Heavy Duty 2019 ภายในงาน Detroit Auto Show 2019 จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการสร้างรถกระบะที่ใกล้เคียงกับรถบรรทุกมากขึ้น และจะเป็นกระบะที่มากับแรงบิดอลังการกว่า 1,000 lb.ft หรือ 1,356 Nm เลยทีเดียว
และเมื่อมากับจุดประสงค์ชัดเจนขนาดนี้ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับกระบะ RAM ทั้งสองรุ่นที่ว่า ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของเครื่องยนต์ ซึ่งพลังที่จะเข้ามาช่วยย้ายร่างอันใหญ่โตของกระบะทั้งสองรุ่นนี้นั้นมีออกมาให้เลือก 3 แบบ ทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล แรงสุดด้วยเครื่องยนต์ตัวเครื่องยนต์เบนซิน Hemi V8 ขนาด 6.4L ทำกำลังม้าออกมาได้สูงสุดอยู่ที่ 416 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 582 Nm ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 Speed เป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ (Part Time)
New RAM 2500 และ 3500 Heavy Duty 2019 ใหญ่กว่าที่เคยมีมาทั้งตัวรถและเครื่องยนต์
ส่วนในทางเลือกของเครื่องยนต์ดีเซล ก็สุดเหมือนกันในด้านของ “แรงบิด” ตัวเครื่องยนต์ถูกลดน้ำหนักไปกว่า 27 กิโลกรัม จากนวัตกรรมการออกแบบใหม่ เปลี่ยนลูกสูบมาใช้เหล็กหล่อวิธีใหม่ ที่ช่วยในเรื่องความเบาและมีความทนทานมากขึ้น โดยตัวเครื่องยนต์ดีเซลนี้มีออกมาให้เลือกอยู่ 2 เกรด ระดับเริ่มต้นจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล Cummins 6 สูบแถวเรียง ขนาด 6.7L พ่วงเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 375 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,152 Nm และในตัวดุสุดจะเป็นเครื่องยนต์ Cummins 6 สูบแถวเรียง ขนาด 6.7L พ่วงเทอร์โบเช่นกัน แต่ให้กำลังแรงม้าและแรงบิดสูงกว่าอยู่ที่ 406 แรงม้า และแรงบิดอันหฤโหดกว่า 1,356 Nm จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง และ 4 ล้อ (Part Time) ทั้งคู่ ตรงตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ว่า สามารถสร้างแรงบิดของเครื่องยนต์ได้ถึง 1,000 lb.ft หรือ 1,356 Nm สำหรับรุ่น Hight-Power ของตัวรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล และนั่นก็ทำให้กระบะยักษ์ RAM ตัวนี้ รองรับน้ำหนักลากจูงได้สูงสุดกว่า 15,921 กิโลกรัม และบรรทุกน้ำหนักบนกระบะท้ายได้สูงสุดถึง 3,483 กิโลกรัมเลยทีเดียว
ดูเพิ่มเติม
>> 7 สิ่งสำคัญที่สายออฟโรดต้องมีไว้ติดรถ !
>> 10 ข่าวเด่นประจำสัปดาห์วันที่ 14 ม.ค. 2019 - 20 ม.ค. 2019
เครื่องยนต์ดีเซล เน้นแรงบิด โหด ๆ สำหรับเพื่อการลากจูงโดยเฉพาะ
อีกทั้งในเรื่องของตัวรถที่ว่าใหญ่ ๆ นี้ รู้หรือไม่ว่าทางค่ายได้พัฒนาในการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่ดีกว่า สามารถทำน้ำหนักให้เบาลงได้กว่ารุ่นเดิมถึง 65 กิโลกรัม จากอานิสงส์ของการเลือกใช้วัสดุตัวรถรอบคัน รวมทั้งในส่วนของโครงสร้างแชสซีส์ ก็ยังมีการเปลี่ยนมาใช้เหล็กกล้าแบบใหม่ที่เพิ่มความแข็งแกร่งได้มากกว่าเดิมอีกด้วย
ส่วนของระบบกันสะเทือน จะมีการติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบ Articulink ที่ได้รับการปรับจูนเป็นพิเศษมาด้วย ซึ่งทำงานร่วมกับโช๊คอัพจาก Bilstein ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการปรับท้ายรถยกสูง-ต่ำได้ตามต้องการ มีแผ่นกันกระแทกมาให้พร้อม ส่วนเฟืองท้ายให้มาเป็นแบบ Locking Differential ทั้งด้านหน้า-หลัง และมีเหล็กกันโคลงติดตั้งมาให้พิเศษ พร้อมของเล่นสำหรับสายลุยอย่าง วินซ์ไฟฟ้า Warn Zeon-12 รองรับการดึงได้สูงสุดถึง 12,000 ปอนด์ (5,443 กิโลกรัม) ก็ใส่มาให้ครบตั้งแต่ออกจากศูนย์ ส่วนล้อที่ใช้จะเป็นอัลลอยสีดำ ขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยาง Off Road ไซส์ 33 นิ้ว จาก Goodyear Wrangler DuraTrac ครบ ! พร้อมตะลุยทุกทางออฟโรดแบบดุ ๆ
ภายนอกของ ทั้ง 2 รุ่น New RAM 2500 และ 3500 Heavy Duty 2019 ที่นอกจากขนาดตัวรถจะทำออกมาได้ใหญ่ ดูน่าเกรงขามจากมัดกล้ามและความบึกบึนในสไตล์รถกระบะยักษ์สายพันธุ์อเมริกันแล้ว ในเรื่องของรายละเอียดตามจุดหลักต่าง ๆ ของตัวรถ ยังใส่ไว้ในเรื่องความหรูหราน่าขับ จากการตกแต่งของวัสดุประกอบที่เป็นโครเมี่ยมมากมาย อยู่เต็มด้านหน้าและแซมไว้รอบ ๆ คันรถ เมื่อตัดกับความเงาของสีตัวถังยิ่งทำให้ดูดี แต่ถ้าใครที่ไม่เน้นหรู เน้นความดุดันมากกว่า ต้องรุ่นนี้เลยกับ RAM 2500 ที่จะปรับเปลี่ยนจุดที่เป็นโครเมี่ยมมาเป็นสีดำด้านดุ ๆ ทดแทน ทั้งด้านหน้าและรอบคันจะถูกเปลี่ยนอารมณ์ เพื่อที่จะได้เอาใจขาโหดสายออฟโรดอย่างแท้จริงทุกสไตล์
เน้นดุก็จัดเตรียมให้พร้อมสำหรับใครที่ต้องการ กับรุ่น RAM 2500
ที่ใช้การตกแต่งด้วยสีดำด้านเป็นหลัก
ส่วนของภายในห้องโดยสาร จากผลดีที่เรื่องขนาดตัวรถที่ใหญ่มหึมาตั้งแต่ภายนอก จึงทำให้ภายในของ New RAM 2500 และ 3500 Heavy Duty 2019 นี้ “โอ่โถง” ยิ่งกว่ากระบะคันไหน ๆ และก็ใช่ว่าเมื่อเป็นกระบะสายลุยทุกอย่างจะอะไรก็ได้ แต่เรื่องของภายในสำหรับรถรุ่นนี้ถูกออกแบบและประกอบผ่านวัสดุชั้นดี หรูหรา แม้ดีไซน์จะไม่ได้ล้ำ โฉบเฉี่ยว มาแบบเหลี่ยม ๆ ถึก ๆ แต่เมื่อผ่านการตกแต่งด้วยวัสดุเกรดหรู พร้อมด้วยฟีเจอร์ตามสมัยที่ครบครัน เช่น หน้าจอกลางคอนโซลแบบจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ที่แสดงผลการทำงานได้หลายแอพฯ ในเวลาเดียวกัน พร้อมรันการทำงานผ่านชุดซอฟท์แวร์ Uconnect 4 เวอร์ชั่นล่าสุด อีกทั้งยังมาพร้อมกับหลังคา Sunroof เป็นต้น ก็ทำให้กระบะยักษ์รุ่นนี้ น่าเข้าไปนั่งบัญชาการขับเคลื่อนพร้อมลุยมากยิ่งขึ้นอย่างปฎิเสธไม่ได้จริง ๆ
ภายในดีไซน์ไม่ล้ำมาก แต่หรูหราที่การตกแต่งด้วยวัสดุชั้นเลิศ
ที่มาให้พร้อมด้วยเทคโนโลยีมากมาย
เรื่องความปลอดภัยก็ใช่ย่อย เพราะ RAM 2500 และ 3500 Heavy Duty 2019 ต่างให้มาพร้อมด้วยเทคโนโลยีสำหรับการขับขี่ในถนนปกติที่ปลอดภัยที่สุดไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ automatic emergency braking, ระบบควบคุมความเร็ว แบบแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control, กล้องมองภาพรอบคัน 360-degree camera display, กล้องมองภาพกระบะท้าย cargo-view camera, ระบบช่วยเบรกเทรลเลอร์ลากจูงอัตโนมัติ emergency trailer brakes และกล้องมองภาพเสริมสำหรับติดตั้งกับเทรลเลอร์ลากจูง auxiliary exterior camera with custom positioning in and behind trailer
โดยทั้งสองรุ่น RAM 2500 และ 3500 Heavy Duty 2019 จะถูกขึ้นสายการผลิตในโรงงานประเทศเม็กซิโก แต่ราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมา และคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายจริง ช้าที่สุดในปีหน้า 2020 ถ้าเร็วกว่านั้นก็กลางปีนี้ ส่วนในประเทศไทยไม่มีแผนที่จะถูกนำเข้ามาขายแต่อย่างใด
ดูเพิ่มเติม
>> All-New Nissan Sylphy 2019 ใหม่ ! ที่ “Copy & Paste” Altima มาเต็ม ๆ เตรียมเปิดตัวที่จีนก่อนใคร
>> 5 อันดับ รถกระบะมือสองแสนห้าไม่เกินสองแสน
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้