Aston Martin DBS 59 สปอร์ตรุ่นพิเศษรำลึกถึงแชมป์เลอม็องส์
หนึ่งเหตุการณ์ดีที่สุดของ Aston Martin Lagonda ในการฉายภาพประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตคือแรงบันดาลใจล่าสุดของ Q by Aston Martin
Aston Martin DBS 59
แรงบันดาลใจจากการเข้าป้ายอันดับ 1-2 ที่เลอม็องส์ 24 ชม. 1959 ในรถ DBR1 Aston Martin สาขาเคมบริดจ์ได้รับมอบหมายให้ผลิตชุดรถสะสมสุดพิเศษ DBS Superleggeras 24 คัน คันละชั่วโมงของการแข่งขัน endurance ระดับตำนาน Aston Martin DBS 59 แต่ละคันมีจุดเด่นดีไซน์จัดทำเฉพาะ, ห้องโดยสารภายในทำมือ และองค์ประกอบลายเส้นกราฟฟิกจาก DBR1 กับการแข่งขันที่พิชิตได้อย่างโด่งดังโดยตรง
DBS 59 กับต้นแบบ DBR1
ตัวค่ายคุ้นเคยกับความสำเร็จในการแข่งขัน endurance ที่ทรหดสุดในโลก ล่าสุดคือได้แชมป์ GTE ปีที่แล้วในรถ V8 Vantage (เบอร์ 97 ขับโดย แดร์เริน เทอร์เนอร์, จอน อดัม และ ดานี่ เซฮา) ชัยชนะอันดับรวมในเลอม็องส์ 24 ชม. 1959 เป็นส่วนหนึ่งของตำนานในมอเตอร์สปอร์ต การดวลวลงล้อที่ดุเดือดกับทีมโรงงานของ Ferrari กับ Porsche รวมถึง Ecurie Ecosse Jaguars เหล่า David Brown Racing Aston Martin DBR1 ฝ่าฟันอย่างองอาจก่อนจะคว้าอันดับ 1-2 ด้วยการแสดงออกที่สุดยอดในเรื่องความเร็ว, ความทนทาน และทีมเวิร์ค
ตั้งแต่ที่เซอร์ สเตอร์ลิง มอสส์ หนึ่งในนักแข่ง Aston Martin ชุดแชมป์ World Sportscar Championship 1959 บรรยายว่าเป็น “รถรุ่นที่สำคัญที่สุดที่ Aston Martin เคยผลิต” DBR1 สมควรเป็นรถระดับตำนาน มีการผลิตแค่ห้าคันจากปี 1956-59 ทำให้เป็น Aston Martin ที่หายากที่สุดรุ่นหนึ่ง เมื่อคันสุดท้ายถูกประมูลออกไป (ที่มอนเตอเรย์ 2017) ตัวรถสร้างค่าตัวเป็นสถิติโลกในฐานะรถบริติชที่มีมูลค่าสูงสุดในราคา 17.5 ล้านพาวด์ (22.5 ล้านเหรียญ)
- Aston Martin เลือกบ้านให้แบรนด์ EV หรู Lagonda ปักหลักในเวลส์
- Aston Martin V12 Vantage V600 รุ่นลิมิเต็ดเริ่มทำการผลิตแล้ว
ด้วยสี Aston Martin Racing Green ที่สวยไร้กาลเวลาจนจดจำได้ทันที Aston Martin DBS 59 ใช้คาร์บอนไฟเบอร์สีเงามากขึ้น โดยเฉพาะที่หลังคา, ขนาบหลังคา และบานเกล็ดที่ฝากระโปรง การผสมสีหนังอย่างคลาสสิกระหว่าง Obsidian Black กับ Chestnut Tan (สีเกาลัด) ในห้องโดยสารทั้งคัน รวมกับหนังผ้าทอจากวัสดุเบาะของ DBR1 เพื่อตกแต่งเบาะหลังกับมือจับประตูของ Aston Martin DBS 59 รายละเอียดสีทองแดงคอยตกแต่งอย่างมีชั้นเชิงรอบๆ รถ ล้อมรอบด้วยกระจังหน้า, ตรา Superleggera บนฝากระโปรง, ตรา Aston Martin ท้ายรถ และตรา Q ที่กันชน ทั้งหมดนี้ถูกลงสีด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมจาก Q by Aston Martin ประกอบด้วย ช่องเก็บหมวกกันน็อคหนังอานในช่องเก็บของท้ายรถเพื่อวางหมวกกันชน, ชุดแข่ง และถุงมือชุดพิเศษของ DBS 59 กับโลโก้รุ่น DBS 59 ที่ทำเย็บเฉพาะในพนักพักศีรษะ ตรา DBS 59 แต่ละอันสังเกตได้จากวงกลมสีขาวข้างขนาบ โดยแต่ละคันจะลงเลข 1-24 สีดำเอาไว้ เครื่องประดับอื่นๆ มีชุดแข่งสีน้ำเงินสไตล์โบราณพร้อมโลโก้ Aston Martin DBS 59, ถุงมือแข่งจำลองแขวนตกแต่งจากชุดที่ใส่โดยผู้ชนะเลอม็องส์ แคโรลล์ เชลบี้, หมวกกันน็อคจำลองจากปี 1959, ชุดกระเป๋าสัมภาระจัดทำเฉพาะให้เข้ากับสีในห้องโดยสาร, ผ้าคลุมรถจัดทำเฉพาะสี Aston Martin Racing Green ลงวงสีขาวกับเลขของแต่ละคัน
เลข 5 หมายถึงรถคันที่ 5 ที่ผลิตออกมา
มรดกทางพันธุกรรมที่น่าภูมิใจของ DBR1 เห็นได้ชัดใน DBS Superleggera 2018 ตระกูลรถที่เร็วแรงที่สุดจากรถระดับรางวัลทั้งหมดของ Aston Martin รถซุปเปอร์ GT 715 แรงม้า 211 ไมล์/ชม. เป็นการผสมผสานที่มีแรงบันดาลใจระหว่างสมรรถนะที่อลังการและสไตล์อันสมบูรณ์แบบ จากการรับผิดชอบของ Q by Aston Martin: Commission ทำให้เป็นรถที่น่าจับจองจริงๆ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบความสำคัญที่ยังมีอยู่ของชัยชนะจาก DBR1 กับสมรรถนะและการควบคุมร่วมสมัยที่ไม่มีใครเทียมของ DBS Superleggera
ไซม่อน สปรูล รองประธานและ CMO ของ Aston Martin พูดถึง Aston Martin DBS 59 ว่า “เมื่อ Aston Martin Cambridge ต้องการผลิต DBS Superleggeras รุ่นจำนวนจำกัดที่ได้แรงบันดาลใจจากชัยชนะที่โด่งดังของ DBR1 เรารู้ว่าต้องมีอะไรพิเศษแน่นอน สีสันเมทัลลิกที่นุ่มนวลของสี Aston Martin Racing Green นั้นมีคลาสและงดงามอย่างไร้กาลเวลา ส่วนที่ผมชอบใน DBS 59 คือเบาะหลังที่มีผ้าทอจากวัสดุในเบาะ DBR1 แต่ยังมีสัมผัสอีกมากมายที่จะดึงดูดและทำให้ชื่นชอบได้”
Source: Aston Martin
ติดตามความเคลื่อนไหวตลาดรถไทยและต่างประเทศได้ทาง chobrod.com
