ภายในงาน Geneva Motor Show 2019 ทางค่าย Supercar ตัวแรง Lamborghini ได้ปล่อยเวอร์ชั่นเปิดประทุนของ Huracan Evo ที่เรียกชื่อต่อท้ายว่า “Spyder” สู่สายตาสาธารณะชนเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับขาซิ่งกระเป๋าหนักทั้งหลาย ที่ต้องการเปิดหลังคารับลมโชว์หน้าหล่อ ๆ ในขณะที่กำลังนั่งอยู่บนเจ้ากระทิงเปลี่ยวตัวนี้
เปิดหลังคารับลมแรง ๆ ไปกับ Lamborghini Huracan Evo “Spyder” ใหม่ ที่งาน Geneva Motor Show 2019
หลังจากที่เมื่อช่วงต้นปี “ลัมโบฯ” ได้เปิดตัว Lamborghini Huracan Evo Facelife ออกมาก่อนหน้า ซึ่งเป็น Huracan เวอร์ชั่นปรับโฉมใหม่ที่ทั้งแรงขึ้นและให้เพิ่มมากับฟีเจอร์เด่น ๆ มากมายหลายอย่าง ภายใต้รูปแบบรถ Coupe สปอร์ต 2 ประตูหลังคาธรรมดาเปิดไม่ได้ จากนั้นเพียงไม่นาน การมาถึงของเวอร์ชั่นหลังเปิดได้รับลมวิ่งหล่อ ๆ ก็มาถึงสำหรับ Lamborghini Huracan Evo “Spyder” คันนี้ที่งาน Geneva Motor Show 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
Lamborghini Huracan Evo Spyder มาพร้อมกับสีใหม่ และล้อที่ลายก้านมีมากขึ้น
Lamborghini Huracan Evo Spyder จะมาพร้อมกับหลังคาเปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้า ซึ่งใช้เวลาเพียง 17 วินาทีเท่านั้น ภายใต้เงื่อนไขที่ความเร็วของตัวรถต้องไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมกันนั้นที่ด้านหลังเบาะคนขับยังมีกระจกกั้นที่เลือกเปิด-ปิดได้ด้วย สำหรับใครที่ต้องฟังเสียงเร้า ๆ แบบสนั่นไปทั้งร่างจากเครื่องยนต์ที่พกพาคอกม้ามาเกือบ 700 ตัว
ความแตกต่างของ Lamborghini Huracan Evo Spyder คันนี้กับเวอร์ชั่นธรรมดา Huracan Evo ในเรื่องของดีไซน์จะไม่มีความแตกต่างกันแต่อย่างใด นอกจากส่วนของหลังคาที่เปิดปิดได้แล้วก็จะมาพร้อมกับทางเลือกของสีตัวถังใหม่ที่เป็นสีเขียว “Verde Selvans” และล้อลายใหม่ !ขนาด 20 นิ้ว ที่รัดด้วยยาง Pirelli P Zero
น้ำหนักรวมตัวรถของเวอร์ชั่นเปิดหลังคาจะหนักกว่า ด้วยเหตุผลของอุปกรณ์ที่ใช้ในการเปิดปิดหลังคาที่เปิดเข้ามา
ดูเพิ่มเติม
>> เผยโฉมรถยนต์คอนเซ็ปต์ใหม่ที่งาน Geneva International Motor Show 2019 !!
>> Honda Jazz Ge ความคุ้มค่าในราคาไม่เกิน 500,000 บาท
เรื่องขุมกำลังก็เช่นกันที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 5.2L แบบ V10 “ไม่ง้อเทอร์โบ” ให้กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 640 แรงม้า กับแรงบิดอีกกว่า 600 Nm กับน้ำหนักตัวที่ 1,542 กิโลกรัม หนักกว่า ! ตัวหลังคาปกติ Huracan Evo ที่หนัก 1,422 กิโลกรัม ด้วยผลพวงจากอุปกรณ์ในการช่วยเปิดปิดหลังคานั่นเอง และก็ทำให้เรื่องความแรงของ Huracan Evo Spyder คันนี้มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 3.1 วินาที ซึ่งช้ากว่าเวอร์ชั่นหลังคาปกติ 0.2 วินาที แต่ความเร็วสูงสุดยังทำได้อยู่ที่เท่ากันนั่นคือ 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้สำหรับในรุ่นเปิดประทุนยังได้มีการติดตั้งระบบ Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata (LDVI) เทคโนโลยีในการควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ของรถได้ในทุกแง่มุม อาศัยการช่วยประมวลผลจาก Lamborghini’s Piattaforma Inerziale อีกทั้งยังมีระบบช่วยกระจายแรงบิดขณะเข้าโค้งที่ล้อทั้งสี่ และยังมีการปรับปรุงระบบกันสะเทือน Megnetorheological, ระบบป้องกันการลื่นไถลแบบ Advance และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพิ่มเติม
ส่วนของภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งเพิ่มเติมตามโทนสีตัวถังใหม่ทีไ่ด้มา ตัดขอบที่ตัวเบาะและคอนโซลกลาง แผงประตูข้าง และพรมวางเท้า มีการใช้วัสดุหนังแท้และ Alcantara เป็นหลักในการตกแต่ง พร้อมฟีเจอร์ล้ำ ๆ กับหน้าจอสัมผัสขนาด 8.4 นิ้วที่สั่งการด้วยระบบเคลื่อนไหวด้วยมือได้ Multi-finger gesture control รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay, ระบบนำทาง, วิทยุออนไลน์ มีให้มาครบหมดไม่ต่างกับตัวหลังคาปกติ Huracan Evo อีกทั้งยังมาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ความจุสูงและกล้องแบบ Dual-Camera Telemetry System อีกด้วย
ภายในตกแต่งให้เข้าสีตัวถัง เรื่องความหรูหราและฟีเจอร์หน้าจอสัมผัสยังคงมาครบ !
ส่วนในเรื่องของราคาขายของเจ้ากระทิงดุวิ่งแรงรับลมธรรมชาติคันนี้ ราคารถ Lamborghini Huracan Evo Spyder ที่แสดงภายในงาน Geneva Motor Show 2019 ถูกตั้งราคาไว้อยู่ที่ 202,437 ยูโรหรือราว 7,220,000 บาท แต่พอมาถึงไทยราคาขายเมื่อรวมภาษีต่าง ๆ แล้วจะอยู่ที่เท่าไรคงต้องรอดูกัน ซึ่งอาจต้องรออีกนานเป็นปีก็ได้ เพราะตอนนี้ขนาดเวอร์ชั่นหลังคาปกติยังเพิ่งจะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าเอง กว่าที่แบบเปิดประทุนจะเริ่มได้รับไปขับเล่นกันในยุโรปและกว่าจะมาถึงไทยก็คงจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย ดูรูปรอไปพลาง ๆ ก่อนละกัน
ดูเพิ่มเติม
>> ฤกษ์งามยามดีออกรถในเดือน พฤษภาคม 2562
>> [Geneva 2019] เขย่าโลก Mazda เปิดตัว CX-30 ตัวใหม่ SUV ไซส์เล็ก
แต่หากสนการซื้อขายรถมือสอง, ตลาดรถมือสองเลือกซื้อเลือกชมได้ที่ Chobrod ของเราได้นะครับ
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้