เจาะอนาคตยานยนต์ CES 2018 Round-up

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 11 ม.ค 2561
แชร์ 0

chobrod ขอเกาะติดงานแสดงสินค้าอันยิ่งใหญ่ช่วงต้นปีอย่าง CES 2018 จากลาส เบกาส เริ่มต้นด้วยสรุปการเปิดตัวที่น่าสนใจในงานสองวันแรก

Consumer Electronics Show 'CES' เป็นงานจัดแสดงสินค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนที่เกี่ยวข้องที่จัดขึ้นทุกปีในเมืองลาส เบกาส รัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา ในงานนี้มักจะเป็นงานเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เราอาจได้พบเห็นในอนาคต ปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 9-12 มกราคม 2018 เมื่อพูดถึงเทคโนโลยี แน่นอนว่าต้องมีการจัดแสดงของแบรนด์รถยนต์ต่างๆ มาร่วมด้วย chobrod จะคัดเลืิอกข่าวน่าสนใจจากงานนี้ในภาคแรกสำหรับวันที่ 9-10 มกราคม 2018 (รวมของ pre-show วันที่ 8 ด้วย)

Byton SUV
Byton SUV Concept

สตาร์ทอัพเจ้าใหม่เปิดตัว SUV พลังไฟฟ้า

นี่คือบริษัทสตาร์ทอัพชื่อ Byton พวกเขาได้เปิดตัว SUV ขนาดกลางที่คาดว่าจะวางจำหน่ายในราคาประมาณ 45,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.45 ล้านบาท) ด้วยความต้องการของประธานบริษัทที่ให้เข้ารถคันนี้เป็นรถพรีเมียมคันแรกในครัวเรือนที่ราคาจับต้องได้ ลักษณะเด่นมีไฟนอกที่เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์และส่งข้อความแจ้งเตือนรถรอบข้าง, ระบบปลดล็อครถด้วยใบหน้า, กล้องมองข้างใช้แทนกระจกข้าง, ค็อกพิททำจากไม้, dashboard มีจอใหญ่ 50 นิ้ว, ใช้งานฟังก์ชันภายในรถด้วยคำสั่งมือ, รองรับ 5G และระบบสั่งงานด้วยเสียงจาก Amazon Alexa

ตัวรถจะออกมาสองรุ่น แบ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ใช้แบตเตอรี่ 71 กิโลวัตต์/ชม. เดินทางได้ 248.5 ไมล์ และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ใช้แบตเตอรี่ 95 กิโลวัตต์/ชม. เดินทางได้ 323 ไมล์ มีโหมด fast-charge ชาร์จได้ 80% ในเวลาครึ่งชั่วโมง ตัวรถที่ผลิตเสร็จจะออกขายที่จีนภายในสิ้นปี 2019 ตามด้วยยุโรปและสหรัฐฯ ในปี 2020

Toyota e-Palette
Toyota e-Palette Concept

Toyota e-Palette เจ้ากล่องเคลื่อนที่เพื่อการพาณิชย์ในอนาคต

Toyota เปิดตัวรถทรงกล่องขนาดใหญ่อย่าง e-Palette เพื่อใช้ในการส่งสินค้าและขนส่งผู้คนในพื้นที่ใจกลางเมืองซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน Toyota ได้พาร์ทเนอร์เข้าร่วม e-Palette Alliance เป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon, Pizza Hut, Uber, DiDi, และ Mazda (ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของ Toyota ในด้านรถพลังไฟฟ้าด้วย)

Toyota e-Palette เป็นรถไร้คนขับพลังไฟฟ้าเต็มตัว ตัวถังสามารถยืดหยุ่นได้สูง มีให้เลือกสามขนาด แตกต่างที่ความยาวและความจุ ความยาวมีให้เลือกตั้งแต่ 4-7 เมตร (13-23 ฟุต) ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน รุ่นที่นำมาแสดงในงาน CES นี้มีขนาดยาวประมาณ 15.7 ฟุต กว้าง 6.5 ฟุต และสูง 7.4 ฟุต รูปทรงกล่องให้พื้นที่ภายในกว้างขวาง นอกจากขนส่งได้แล้ว Toyota ยังมองไปถึงการเปิดโรงแรมในรถนอน และการเปิดร้านค้าปลีกในรถด้วย การควบคุมจะใช้ระบบไร้คันขับของ Toyota เป็นหลัก แต่รองรับระบบไร้คนขับที่บริษัทพาร์ทเนอร์สร้างขึ้นเช่นกัน

Toyota จะศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้งานเจ้ารถกล่องนี้ในปี 2020 และหวังจะให้บริการรอบโตเกียวในช่วงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปีเดียวกัน


ภาพจำลองการใช้งานของแพลทฟอร์มจาก Ford

Ford ห่วงใยอนาคต สร้างแพลทฟอร์มเชื่อมต่อทั้งรถและคนภายในเมือง

Ford ประกาศสร้างแพลทฟอร์มผ่านระบบคลาวด์เพื่อให้ระบบขนส่งในส่วนๆ ต่างของเมืองขนส่งผู้คนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพขึ้น แพลทฟอร์มนี้จะแบ่งข้อมูลเรียลไทม์ระหว่างรูปแบบขนส่งกับผู้คนที่ใช้บริการ จากรถส่วนตัวสู่คนเดินถนน จักรยาน ขนส่งมวลชน ไฟจราจร และที่จอดรถ

ตัวแพลทฟอร์มเปิดใช้งานการสื่อสารข้อมูลเรียลไทม์เพื่อลดการจราจรติดขัด ทำให้มั่นใจได้ว่ารถรับส่งไร้คนขับไม่ได้เดินทางอยู่เมื่อไม่มีผู้โดยสาร สามารถสร้างจุดรับส่งและจุดลงรถที่ปลอดภัยที่สุดได้ คนเดินถนนสามารถส่งสัญญาณเข้ารถผ่านมือถือได้ ในอนาคต ไฟหยุดจะแจ้งเตือนรถต่างๆ ให้ระวังอุบัติเหตุหรืออันตราย เทคโนโลยียังช่วยรถมลภาวะโดยการให้เมืองต่างๆ ตั้งจุดที่รถต้องเดินทางด้วยโหมดไฟฟ้าเต็มตัว นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันจัดการตัวตน กระบวนการจ่ายเงิน และบริการที่ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง

เพื่อสร้างแพลทฟอร์มนี้ Ford ได้พาร์ทเนอร์มาช่วยในด้านต่างๆ มีบริษัท Autonomic ช่วยในระบบคลาวด์และจำหน่าย Qualcomm ช่วยพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้สัญญาณโทรศัพท์เพื่อเชื่อมต่อระบบขนส่งผ่านสัญญาณไร้สายโดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการ ซึ่งเป็นไปได้ว่าไฟหยุดและแยกต่างๆ จะใช้ระบบ 5G และบริษัท Postmates ช่วยพัฒนาการเข้าถึงสินค้าภายในเมือง ซึ่งบริษัทกำลังทำงานกับ Ford ในการหาวิธีส่งสินค้าผ่านรถไร้คนขับ

Fisker EMotion
Fisker EMotion

Fisker EMotion เปิดตัวแล้ว

แบรนด์ของดีไซเนอร์เฮนริค ฟิสเกอร์เปิดตัวรถสปอร์ตคันใหม่ที่มีชื่อรุ่นเหมือน MG Concept Car มาก ลักษณะรถคร่าวๆ มีไฟหน้าและหลังที่เรียว ใช้ประตูแบบผีเสือ ยาวประมาณ 197 นิ้ว และกว้าง 58 นิ้ว ขนาดใกล้เคียงกับ Tesla Model S ภายในมีเบา่ะ 5 ที่นั่งหุ้มหนังทั้งคัน คอนโซลกลางทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ มีจอหลังขนาด 27 นิ้วให้ผู้โดยสารแถวหลังดูในรุ่นโชเฟอร์ (Chauffeur Edition จริงๆ นะ) ควบคุมประตูได้ผ่านแอปมือถือ ตัวถังอลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ทำให้น้ำหนักเบา แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนจาก LG (ชีวิตดีจริงๆ) เดินทางได้มากกว่า 400 ไมล์ ความเร็วคาดว่าประมาณ 161 ไมล์/ชม. ตัวรถจะเริ่มผลิตภายในปลายปี 2019 สนนราคาเริ่มต้นไม่เกิน 1.3 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ

Waze
แอป Waze ในรถ Ford

Ford บรรจุแอปนำทางใหม่ของระบบ Sync 3 infotainment

Ford ประกาศประยุกต์ใช้แอปการจราจร Waze และระบบนำทางเข้าไปในระบบ Sync 3 infotainment ผู้ใช้สามารถนำมือถือที่โหลดแอป Waze เสียบ USB แล้วใช้งานในรถได้บนจอสัมผัส สามารถใช้งานการนำทางด้วยเสียงและการแจ้งเตือนได้จากในรถ Waze จะอยู่ในระบบ Sync 3 เวอร์ชัน 3.0 ขึ้นไปในรถ Ford ตั้งแต่รุ่นปี 2018 ส่วนในรถรุ่นอื่นให้อัปเดทระบบออนไลน์หรือผ่านมือถือเสียบ USB Waze ยังมีให้ใช้งานผ่านระบบเชื่อมต่อกับมือถือของแอนดรอยด์ ออโต้สำหรับผู้ใช้มือถือแอนดรอยด์

Mercedes MBUX
Mercedes MBUX ระบบ infotainment ใหม่ล่าสุด

เผยโฉมระบบ infotainment ใหม่ของ Mercedes เพื่อรถคันน้อยๆ

Mercedes เปิดตัวระบบ infotainment ใหม่ล่าสุดสำหรับรถคอมแพ็กท์ ซึ่งจะเริ่มใช้ใน A-Class ที่จะออกวางจำหน่ายในฤดูใบไม้ผลิ ในระบบนี้ใช้จอ widescreen มีปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย แต่ที่มีการเปลี่ยนแปลงคือจอหลักสามารถใช้นิ้วสัมผัสส่งการได้แล้วเป็นครั้งแรก แทนที่ปุ่มบนคอนโซล จอค็อคพิทจะมีให้เลือกใช้งาน 3 แบบ ประกอบด้วยชุดเครื่องเสียงและระบบ infotainment มีจอ 7 นิ้วสองจอ, จอ 7 นิ้วจอเดียวกับจอ 10.25 นิ้ว และจอ 10.25 นิ้วสองจอ มีระบบสั่งงานด้วยเสียงพร้อมจดจำสำเนียงภาษาธรรมชาติเพื่อการเรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ เริ่มใช้งานด้วยการพุดว่า "Hey Mercedes" ระบบอัปเดทออนไลน์เพื่อให้การใช้งานดูใหม่อยู่เสมอ สามารถเรียนรู้รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้รถผ่าน AI คุ้นชินกับเสียงผู้ใช้และแนะนำการใช้งานผ่านนิสัยการใช้งานของผู้ใช้ ระบบนำทางเริ่มนำทางทันทีเมื่ออยู่บนเส้นทางที่ผู้ใช้ขับประจำ หรือวิทยุจะหมุนหน้าปัดไปคลื่นๆ นั้นที่ผู้ใช้ชอบฟังในเวลานั้นๆ นอกจากนี้ยังบรรจุระบบ AR กล้องหน้าถ่ายวิดีโอแสดงสภาพแวดล้อมรอบคัน เพื่อช่วยผู้ใช้หาบ้านเลขที่ และด้วยบริการ Mercedes Me ผู้ใช้สามารถล็อครถจากข้างนอกได้ด้วยสมาร์ทโฟน ช่วยค้นหาจุดที่ตนเองจอดรถ และแจ้งเตือนเมื่อมีการปะทะหรือมีการลากจูงออกไป


ดิจิตอลค็อคพิทใหม่ของ Harman Kardon

เปิดตัวดิจิตอลค็อคพิทสุดหรูจาก Harman Kardon

Harman Kardon สุดยอดแบรนด์เครื่องเสียงในเครือซัมซุงเปิดตัวดิจิตอล ค็อคพิทใหม่ล่าสุด สวยงาม อร่ามตา สามารถใช้งานกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ใดก็ได้ ใช้ฐานแพลทฟอร์ม Harman Ignite ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการใช้งานผ่านผู้ช่วยส่วนตัว, โปรไฟล์ขนาดพกพา, ระบบ AR และอื่นๆ สามารถใช้ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์บนจอสี่จอ ใช้งานบริการคิดเงินผ่านสมาร์ทโฟนได้ มีระบบสั่งงานด้วยเสียง สัมผัส มือผ่านระบบซัมซุง Bixby ตัวค็อคพิทสามารถลดขนาดได้เพื่อใช้งานกับรถทุกรุ่น ตอนนี้ Harman และซัมซุงกำลังพัฒนาระบบ 5G ในรถ และเสาอากาศเพื่อการใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์ที่เร็วและไว้ใจได้มากขึ้น

ดูเพิ่มเติม

Motor Trend