ตัวเต็มมาแล้ว! Mazda BT-50 ไมเนอร์เชนจ์ครั้งสุดท้ายที่ออสเตรเลีย

ตัวเต็มมาแล้ว! Mazda BT-50 ไมเนอร์เชนจ์ครั้งสุดท้ายที่ออสเตรเลีย

การไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ที่แปลกตาหลักๆ ก็คงจะเป็นในส่วนด้านหน้า ซึ่ง BT-50 ไมเนอร์เชนจ์ 2018 เวอร์ชั่นแดนจิงโจ้ได้ปรับแต่งที่ส่วนของกระจังให้ออกมาคล้ายกับ Mazda CX-5 ภายใต้นิยามการออกแบบ KODO Design ของ Mazda แล้วเช่นกันที่ส่วนของกันชนหน้า ก็มีการปรับดีไซน์ให้กับเข้ากับกระจังหน้า ส่วนไฟหน้า ตัวถัง และไฟท้ายยังคงไว้ซึ่งรูปแบบเดิมไม่มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด ความสดใหม่แบบเต็มๆ อาจต้องรอเวอร์ชั่นที่ร่วมพัฒนากับ Isuzu ซึ่ง Mazda วางแผนเปิดตัวไว้ปี 2020

กระจังหน้าพร้อมกันชนที่ถูกปรับเปลี่ยนให้เห็นอย่างชัดเจน

ซึ่ง BT-50 ไมเนอร์เชนจ์ 2018 ออสเตรเลียเวอร์ชั่น ถูกแบ่งรุ่นย่อยไว้หลายระดับ ดังต่อไปนี้

• Mazda BT-50 XT Cab Chassis
• Mazda BT-50 XT
• Mazda BT-50 XTR Pickup
• Mazda BT-50 GT (4 ประตู)

ในรุ่นท็อป GT มีเฉพาะรุ่นที่เป็น 4 ประตูเท่านั้น จะมาพร้อมกับโรลบาร์เหล็กสีเงินพร้อมไฟเบรกที่ตัวโรวบาร์ มาพร้อมกับพื้นปูกระบะ และช่องไฟ 12V ที่กระบะท้าย ส่วนภายในห้องโดยสารมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก เพียงแค่ปรับในส่วนของระบบความบันเทิงให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้น หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วพร้อมระบบนำทางในรุ่นท็อป GT และรองลงมาเป็นขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งานของ Apple CarPlay และ Android Auto รวมไปถึงระบบ Cruise Control ก็มีมาให้ในทุกรุ่นย่อย    

ภายในไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักเพียงแค่อัพเดทระบบความบันเทิงให้ทันยุคขึ้นมาหน่อย

ขุมกำลังยังคงใช้ตัวเดิมซึ่งมีมาให้เลือก 2 แบบ ได้แก่เครืองยนต์ดีเซล Di-THUNDER PRO VN TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ขนาด 2.2L ให้กำลังม้าอยู่ที่ 150 แรงม้า แรงบิดอยู่ที่ 375 นิวตัน-เมตร และอีกทางเลือกที่เครื่องยนต์ใหญ่กว่า 3.2L ดีเซล Di-THUNDER PRO VN TURBO 5 สูบ 20 วาล์ว แรงม้าอยู่ที่ 200 ตัว แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 470 นิวตัน-เมตร

>>> ดูเพิ่มเติม รถกระบะมือสอง

ส่วนในเรื่องระบบความปลอดภัย BT-50 เวอร์ชั่นออสเตรเลียจัดหนักจัดเต็มกว่าเวอร์ชั่นไทยตอนนี้อยู่พอสมควร ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS มีมาให้ทุกรุ่น ถุงลมด้านข้างในทุกรุ่นของ Freestyle Cab และ Double Cab ม่านถุงลมด้านข้างในทุกรุ่น Single Cab รวมไปถึงม่านถุงลมนิรภัยรอบคันหน้า-หลังในทุกรุ่น Freestyle Cab และ Double Cab ผสานการทำงานร่วมของระบบความปลอดภัยในยามขับขี่ดังต่อไปนี้

• ระบบเบรก ABS, EBD, BA ทุกรุ่น
• ระบบควบคุมการทรงตัว DSC ทุกรุ่น
• ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS ทุกรุ่น
• ไฟเบรกฉุกเฉิน ESS ทุกรุ่น
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA ทุกรุ่น
• ระบบช่วยลงเขา HDC (เฉพาะในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ)
• ระบบล็อคเฟืองท้าย Locking Rear Differential พร้อมสวิตซ์เปิด-ปิด (ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อทุกตัวถัง)
• ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ RSC ทุกรุ่น
• ระบบควบคุมการทรงตัวเมื่อบรรทุก LAC ทุกรุ่น
• ระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง TSC ทุกรุ่น
• กล้องมองหลังทุกรุ่น

ด้านหลังในรุ่นท็อป GT มาพร้อมกับโรวบาร์สีเงิน พร้อมไฟเบรก

ซึ่งในเรื่องราคาก็เปิดเผยออกมาแล้วเช่นกันสำหรับ BT-50 ไมเนอร์เชนจ์ ออสเตรเลียเวอร์ชั่น โดยราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ 28,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณเกือบ 7 แสนบาท ไปจนถึงรุ่นท็อปสุดที่ราคา 51,990 ดอลลาร์ออสเตรเลียหรือประมาณ 1,244,000 บาทไทย ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีการออกมายืนยันว่าจะเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ของรุ่น BT-50 หรือไม่ เพราะจากงานแสดงรถใหญ่ ครั้งหลังๆ รวมไปถึงยอดขายที่ดูเหมือนว่า Mazda ประเทศไทยจะไม่ค่อยอยากทำตลาดในรถกระบะสักเท่าไรแล้ว ในทางกลับกันตลาดรถเก๋งของ Mazda กลับโตขึ้นๆ ทุกปี หรือเป็นไปได้ที่ Mazda จะรอลุยตลาดกระบะพร้อมกับโมเดลใหม่หมดที่ร่วมทำกับ Isuzu ทีเดียวไปเลยก็เป็นได้

และอย่าลืมบอกกับเรา Chobrod สักหน่อยว่าหน้าตาใหม่ของ Mazda BT-50 ไมเนอร์เชนจ์ออสเตรเลียเวอร์ชั่นคันนี้ ถูกใจคุณมากแค่ไหน ที่ใต้คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย

ดูเพิ่มเติม

>> กระบะ Mazda BT-50 เตรียมไมเนอร์เชนจ์อีกรอบพฤษภาคมนี้ ณ แดนจิงโจ้

>> Mazda จะเปิดตัว Mazda BT-50 ในออสเตรเลียภายในปี 2020