อัพเดทราคา Honda CBR300 มอเตอร์ไซค์ที่เป็นที่สุดแห่งคอนเซ็ปต์ Art of Performance ที่ผสานมัลติฟังก์ชั่นอย่างครบครัน พร้อมราคาล่าสุดรับปี 2563 ที่ 133,000 บาท
นี่คือ “ความร้อนแรงแห่งสายเลือดสปอร์ตตัวจริง” สำหรับ Honda CBR300 รุ่นปี 2019 ที่ออกแบบมาได้โดนใจ ผสานความเท่ ดุดัน และความเป็นงานศิลป์ได้อย่างลงตัว พร้อมลวดลายกราฟิฟตลอดตัวถังใหม่แบบ CBR Signature และโลโก้ ฮอนด้า บนแฟริ่งด้านล่าง ซึ่งต่อยอดมาจากรุ่น CBR1000RR อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยโคมไฟหน้าคู่แบบ Dual Multi Reflector ขนาดใหญ่ สว่างไม่เกรงใจใครในยามราตรี พ่วงด้วยไฟเลี้ยวแบบแยกด้านล่าง ซ้าย และขวา ซึ่งช่วยให้มองเห็นสัญญาณได้อย่างชัดเจนแม้จะอยู่ในระยะไกล หรือในเวลากลางคืนที่ทัศนวิสัยไม่ปลอดโปร่ง
Honda CBR300 ราคา 2563
ราคา Honda CBR300 ในปี 2563 นี้อยู่ที่ 133,000 บาท
(ราคาและตารางผ่อน-ดาวน์ Honda CBR300 รุ่นปี 2019 อาจปรับเปลี่ยนไปตามดอกเบี้ยหรือโปรโมชั่นของทางสถาบันการเงินทั้งหมดเป็นข้อมูลเบื้องต้นใช้อ้างอิงสำหรับผู้ที่สนใจเช่าซื้อ Honda CBR300 รุ่นปี 2019เท่านั้น)
Honda CBR300 มาพร้อมกับ 3 สีดังนี้
CANDY CHROMOSPHERE RED (R-B) แดง-ดำ
STRIKE BLACK (BLK)
MATTE PEARL AGILE BLUE (BUB) น้ำเงิน-ดำ
CANDY CHROMOSPHERE RED (R-B) แดง-ดำ, STRIKE BLACK (BLK), MATTE PEARL AGILE BLUE (BUB) น้ำเงิน-ดำ
ในด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ของ Honda CBR300 2019 นั้นก็ไม่เป็นสองรองใคร เพราะขนเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ ขนาด 286 ซี.ซี. DOHC 4 วาล์วมาเพื่อเตรียมขับขี่ไปพร้อมกับคุณในทุกที่ และระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยมีพละกำลังสูงสุดที่ 30.4 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 27 นิวตัน/เมตร ที่ 7,250 รอบ/นาที พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 จังหวะ
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ ขนาด 286 ซี.ซี. DOHC 4 วาล์ว
ในส่วนของระบบความปลอดภัยในการขับขี่นั้น มีระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic ขนาดแกน 37 มม. ทำงานรวมกับระบบกันสะเทือนหลังแขนเดี่ยวแบบ PRO-LINK สามารถปรับได้ 5 ระดับ เพิ่มความมั่นใจด้วยระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เบรกขนาด 296 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ ยี่ห้อ Nissin ในส่วนระบบเบรกหลังเป็นแบบดิสก์เบรกขนาด 200 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบ 1 ลูกสูบ ยี่ห้อ Nissin พร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS ทั้งล้อหน้า – หลัง
Full LED Lighting System
ไม่เพียงแค่ไฟหน้าทรงกลม แต่ยังเหนือระดับกว่าใครด้วยระบบไฟส่องสว่าง LED รอบคัน
Full LCD Multifunction Meter
สัมผัสหน้าปัดควบคุมระบบมัลติฟังก์ชัน แสดงผลแบบดิจิทัล ฟังก์ชัน Peak Hold ที่ช่วยเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่ พร้อมไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์
Tapered Rubber-Mounted Handlebar แฮนด์บาร์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 28.6 มม. ที่บริเวณตอนกลางออกแบบเป็นรูปทรงเรียวเพื่อการควบคุมที่มั่นคงและปลอดภัยยิ่งขึ้น
Upside-Down Front Suspension and Hubless Floating Disc
โช้กหน้าหัวกลับสีทองเข้มขนาดใหญ่ 41 มม. ขนาดเดียวกับรถระดับบิ๊กไบค์ของฮอนด้า ที่ช่วยเรื่องการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยมทุกสภาพถนน มั่นใจในทุกการเบรก ด้วยดิสก์เบรกหน้าขนาด 296 มม. แบบจานแยกชิ้น เรเดียลเมาท์ 4 พอต คาลิปเปอร์พร้อม ABS G-Sensor ระดับเดียวกับรถในสนามแข่ง
Newly Designed Muffler
ท่อไอเสียที่ถอดแบบมาจากบิ๊กไบค์ระดับท็อปคลาสของฮอนด้า ออกแบบมาในสไตล์ NEO SPORTS CAFÉ พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองอัตราเร่ง และยังให้เสียงเครื่องยนต์ที่ดุดันและทรงพลังเพราะโครงสร้างภายในแบบ 2 ห้อง
Monoshock with 7-Step Preload Adjustment
ไม่ว่าจะการขับขี่แบบไหนก็ลงตัว เพราะโช้กหลังแบบปรับระดับ Preload Adjustment ที่ปรับได้ถึง 7 ระดับ
300 CC Engine with Liquid-Cooled
แรงเต็มพลัง ด้วยเครื่องยนต์ 300 ซีซี ระบบ DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งออกแบบมาให้เข้ากับสรีระอันบึกบึน
แม้จะยังไม่มีโฉมใหม่สำหรับปี 2020 แต่หลายเสียงก็พอคาดการณ์ได้ว่า รุ่น 2020 นั้นน่าจะมีหน้าตาได้แบบสปอร์ตมากขึ้น และยังคงความเป็น Neo Sport Cafe ไว้ดังเดิมตามคอนเซ็ปต์ ซึ่งหากใครที่ยังอดใจรอไม่ไหว ก็สามารถไปดู Honda CBR300 2019 ที่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 133,000 บาทไว้ก่อนได้ เพราะถอยก่อน ขับก่อน เท่ก่อน
อ่านเพิ่มเติม: