เผยหมัดเด็ด Lamborghini Huracan Evo กับขุมพลัง 640 แรงม้า

สำหรับน้องใหม่อย่าง Lamborghini Huracan Evo นั้น ถือว่าค่อนข้างมาแรงแซงทางโค้งจริงๆ โดยเฉพาะดีไซน์และออฟชั่นที่จัดหนักจัดเต็มทั้งภายนอกภายใน แน่นอนว่า Lamborghini เองก็จัดหนักในส่วนของระบบพิเศษอย่างระบบควบคุมการทรงตัวมาด้วย เพื่อให้การขับขี่เป็นไปด้วยประสิทธิภาพที่เหนือระดับและไม่มีที่ติมากที่สุด

สุดยอดสปอร์ตพันธุ์ดุ Lamborghini Huracan Evo

โดยการออกแบบภายนอกของ Lamborghini Huracan Evo มาพร้อมกับความดุดันและสปอร์ตแบบสุดๆ ไล่มาตั้งแต่กันชนหน้ารูปทรงใหม่ ที่มีชายล่างเตี้ยมากกว่าเดิม ช่องดักลมเพิ่มขนาดเพื่อรองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ด้านหลังเพิ่มสปอยเลอร์แบบชิ้นเดียวกับฝาท้าย ใต้ท้องรถถูกออกแบบมาเพื่อให้รีดลมได้อย่างดี แน่นอนว่าส่วนที่ทำให้ตัวรถดูโดดเด่นมากที่สุดก็คือล้อลายพิเศษที่รัดด้วยยาง Pirelli P Zero พร้อมปิดท้ายด้วยตัวถังแบบ Arancio Xanto ที่ได้รับการพ่นสีสูงถึง 4 ชั้น ทำให้มั่นใจได้ว่า Lamborghini Huracan Evo นอกจากจะโดดเด่นบนท้องถนนแล้วยังเสริมให้ใช้งานได้อย่างดีที่สุดเลยก็ว่าได้

รีวิวภายนอก Lamborghini Huracan Evo

การเพิ่มสปอยเลอร์ด้านหลังของตัวรถ

ในส่วนของห้องโดยสาร Lamborghini Huracan Evo นั้น ถูกออกแบบให้ใช้วัสดุหนัง โดยสามารถเลือกวัสดุคาร์บอนหรือโทนสีได้ตามความชอบของตนเอง เรียกได้ว่าชอบสไตล์ไหนก็เลือกเอาแบบนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งหน้าขอแบบ HMI ขนาด 8.4 นิ้ว ที่ตอบสนองการสัมผัสได้อย่างแม่นยำ สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆได้ รวมไปถึงสามรถติดตั้งกล้องหน้า-หลัง เพื่อให้ช่วยเหลือด้านการขับขี่ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มไม่ให้ใครมาโค่นแชมป์ได้ง่ายๆเลยก็ว่าได้

ปิดท้ายด้วยขุมพลังของ Lamborghini Huracan Evo ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแบบ V10 ที่มีขนาด 5.2 ลิตร ให้กำลังมากถึง 640 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงถึง 600 นิวตันเมตร ที่ 6.500 รอบ/นาที สามารถส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ สามารถทำอัตราเร่งที่ 0-100 และ 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในระยะเวลา 2.9 และ 9.0 วินาที และให้ความเร็วสูงสุดที่ 325 Km./hr. เลยทีเดียว

การออกแบบภายในห้องโดยสารและออฟชั่นต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคาจำหน่าย Lamborghini Huracan Evo ก็จะแตกต่างกันไปเมื่อรวมกับภาษีแล้ว อย่างเช่น ในยุโรปจะอยู่ที่ราวๆ 6,736,000 บาท, สหรัฐ อยู่ที่ราวๆ 8,338,000 บาทหรือที่จีนก็ราวๆ 15,565,000 บาท ส่วนที่ไทยยังไม่ได้มีการเคาะราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ส่วนจะนำเข้ามาจำหน่ายหรือไม่นั้นก็คงจะต้องรอลุ้นไปพร้อมๆกัน และทางทีมงาน Chobrod.com จะรีบอัปเดตให้เร็วที่สุด