วันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้แล้วสำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ 2016 Mazda CX-5 Minorchange ซึ่งงานนี้แฟนๆ รถอเนกประสงค์ค่ายซูมซูม คงกำลังตื่นเต้นกันอยู่แน่ๆ และวันนี้เราไม่ได้แวะมาบอกแค่วาจะเปิดตัวพรุ่งนี้ แต่เรางัดเอาสเป็คและข้อมูลของ ไมเนอร์เชนจ์ที่จะเปิดตัวในวันพรุ่งนี้มาดูกันด้วยค่ะ
วันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้แล้วสำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ 2016 Mazda CX-5 Minorchange ซึ่งงานนี้แฟนๆ รถอเนกประสงค์ค่ายซูมซูม คงกำลังตื่นเต้นกันอยู่แน่ๆ และวันนี้เราไม่ได้แวะมาบอกแค่วาจะเปิดตัวพรุ่งนี้ แต่เรางัดเอาสเป็คและข้อมูลของ Mazda CX-5 ไมเนอร์เชนจ์ที่จะเปิดตัวในวันพรุ่งนี้มาดูกันด้วยค่ะ
รูปลักษณ์ภายนอกของ 2016 Mazda CX-5 ไมเนอร์เชนจ์
2016 Mazda CX-5 ไมเนอร์เชนจ์ จะมาพร้อมกับไฟหน้าโปรเจ๊กเตอร์ เลนส์ แบบ LED พร้อมไฟ ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED และ ไฟท้าย LED ทางด้านข้างเป็นกระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าที่มีไฟเลี้ยวอยู่ในตัว ในรุ่น 2.0 ลิตร เครื่องยนต์เบนซิน มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร มาพร้อมกับล้ออัลลอย 19 นิ้ว
โดยสีตัวถังภายนอก จะมีให้เลือกด้วยกัน 5 สี ด้วยกัน ได้แก่
– สีขาว Arctic White
– สีเงิน Aluminum Metalic
– สีเทา Meteor Gray
– สีฟ้า Blue Reflex (ใหม่)
– สีดำ Jet Black (ใหม่)
ภายในห้องโดยสารของ 2016 Mazda CX-5 ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมกับอุปกรณ์ให้ความบันเทิงที่ทันสมัยด้วย เครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 9 ตำแหน่ง ปุ่มควบคุม MZD Connect Center Commander ระบบนำทาง Navigation System หน้าจอสี Center Display ระบบสัมผัส Touchscreen ในส่วนของความสะดวกสบายมี ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control,ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้าซึ่งปรับได้ 8 ทิศทาง,เบาะนั่งคนขับปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support ,มีระบบบันทึกความจำตำแหน่งเบาะคนขับ Memory Seat ส่วนเบาะนั่งนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง
เทคโนโลยีที่จะมาพร้อมกับ 2016 Mazda CX-5 ไมเนอร์เชนจ์ ได้แก่
– เครื่องยนต์เบนซิน รองรับน้ำมันสูงสุด E85
– ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-stop
– สวิตซ์ Sport Mode (เฉพาะรุ่น 2.0 เบนซิน)
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake
ข้อมูลทางด้านขุมพลังของ 2016 Mazda CX-5 ไมเนอร์เชนจ์
2016 Mazda CX-5 ไมเนอร์เชนจ์ จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 บล็อกให้เลือกโดยแบ่งเป็น เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 Skyactiv-G และเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 Skyactiv-D โดยในรุ่นปรับโฉมใหม่นี้ได้ยกเลิกเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตรออกไป โดยคาดว่าจะมีรุ่นย่อยให้ลูกค้าได้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย ได้แก่
-รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Gasoline แบ่งเป็นรุ่น 2.0 C 2WD และ 2.0 S 2WD
-รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล Diesel แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย คือ 2.2 XD 2WD (รุ่นย่อยใหม่) และ 2.2 XDL 4WD เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 Skyactiv-G 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,997 ซีซี กำลังสูงสุด 165 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Skyactiv-Drive พร้อมโหมด + – รองรับน้ำมันสูงสุด E85
-เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 Skyactiv-D 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2,191 ซีซี กำลังสูงสุด 175 แรงม้า (PS) ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Skyactiv-Drive พร้อมโหมด + –
ระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัย Safety Equipment
– กล้องมองภาพขณะถอยจอด
– ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
– เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
ระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัย Safety Equipment
– กล้องมองภาพขณะถอยจอด
– ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
– เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
– i-Stop ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน
– Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
– Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตาขณะถอยหลัง
– Adaptive Front Lighting System (AFS) ระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ
– Smart City Brake Support (SCBS) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ
– Smart City Brake Support – Reverse (SCBS-R) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
– Lane-Keep Assist System (LAS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร
– Lane Daparture Warning System (LDWS) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร
– Adaptive LED Headlamps (ALH) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ
ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ community.headlightmag.com
ชมรถมาสด้า มือสอง ทุกรุ่น ที่นี่ครับ