ขณะนี้หลายคนก็กำลังติดตามข่าวเรื่อง ซึ่งก็กำลังเป็นประเด็นที่กำลังพูดถึงอยู่มากในขณะนี้ ต้องบอกก่อนว่านโยบายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2556 ซึ่งบางกลุ่มก็เห็นด้วยและบางกลุ่มก็ไม่ได้เห็นด้วยกับนโนบายนี้
ขณะนี้หลายคนก็กำลังติดตามข่าวเรื่องการออกกฎหมายห้ามรถเก่าเกิน 7 ปีวิ่งในกทม. ซึ่งก็กำลังเป็นประเด็นที่กำลังพูดถึงอยู่มากในขณะนี้ ต้องบอกก่อนว่านโยบายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2556 ซึ่งบางกลุ่มก็เห็นด้วยและบางกลุ่มก็ไม่ได้เห็นด้วยกับนโนบายนี้
ห้ามรถเก่าเกิน 7-10 ปีวิ่งในกทม.
โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีกลยุทธแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยพล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ออกมากล่าวถึงแผนการพัฒนาและแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในเมืองกรุง นั้น โดยมีนโยบายที่หยิบยกมาว่า จะห้ามรถเก่าที่มีอายุการใช้งานเกิด 7 ปี เข้ามาวิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปีหากยังนำมาวิ่งจะต้องเสียภาษีเท่ากับรถใหม่ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีที่จะเลิกการล๊อคล้อไว้แล้วเปลี่ยนเป็นการยกรถไป ที่สน.แทน
นอกจากนี้ยังระบุว่าเป็นการใช้กฎหมายเดิมคือความผิด พ.ร.บ. จราจรมาตรา 57 และ 59 ห้ามจอดในที่ที่ห้ามจอด หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ค่าเคลื่อนย้ายอีก 500 บาท ค่าดูแลรถให้อีก 200 บาทต่อวัน โดยจะเปลี่ยนจากการล็อคล้อเป็นการใช้รถยกเคลื่อนย้ายไปที่สน. โดยทั้งนี้จะต้องประชุมปรึกษาหารือกับกระทรวงการคมนาคมอีกที และจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้อง ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกัน และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้น่าจะเป็นช่วงภายในต้นเดือนพฤศจิกายน หรือเดือนหน้านี้
ส่วนเรื่องของกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้เสนอแนวคิด ให้มีการเสียค่าปรับหากเกิดรถเสียบนถนนซึ่งทำให้เกิดการจราจรติดขัดจะต้องเสียค่าปรับนาทีละ 100 บาทพล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่ายังไม่มีกฏหมายรองรับแต่สามารถนำมาปรับพัฒนาใช้ได้และในอนาคตอาจจะ มีการนำมาปรึกษาหารือเพื่อพัฒนาบังคับใช้หรือนำไปปรับปรุงแก้ไขละบังคับใช้ ในอนคตได้ ทั้งนี้เพื่อจะได้ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ตระหนักถึงการดูแลรถ การเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางด้วย
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ นโยบายนี้จะมีการนำไปใช้จริงอย่างไร หากมีความเคลื่อนไหวใดๆ นั้น ทางเราจะแจ้งข่าวให้เพื่อนๆ ทราบกันครับ
รถมือสองคุณภาพดี ราคาถูก เลือกตามยี่ห้อเลย