จะเห็นว่าตั้งแต่ Google ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับมา หลายค่ายรถก็หันมาพัฒนารถยนต์ไร้คนขับกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เรียกได้ว่าไม่มีค่ายไหนยอมค่ายไหนกันเลยทีเดียว
จะเห็นว่าตั้งแต่ Google ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับมา หลายค่ายรถก็หันมาพัฒนารถยนต์ไร้คนขับกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เรียกได้ว่าไม่มีค่ายไหนยอมค่ายไหนกันเลยทีเดียว
รถยนต์ไร้คนขับจาก Google ซึ่งก่อนหน้านี้ไดทำการวิ่งทดสอบบนถนนจริง ที่ความเร็วของตัวรถที่ใช้ทดสอบนั้นจะอยู่ที่ 40 km/h เท่านั้นซึ่งก็ใช้เวลาทดสอบมาราวๆปีกว่าแล้ว และขณะนี้อาจเรียกได้ว่าได้ใบขับขี่แล้วก็ได้ เพราะหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (the National Highway Traffic Safety Administration – NHTSA) ประกาศยอมรับระบบไร้คนขับของ Google ในฐานะผู้ขับขี่เทียบเท่ากับมนุษย์ และสามารถควบคุมรถยนต์ได้จริงแล้ว
รถไร้คนขับ Google
แต่ขณะนี้ Google ต้องการที่จะลดต้นทุนด้วยการถอดอุปกรณ์สำหรับการควบคุมรถ (manual override) อย่างที่เหยียบเบรค, ก้านไฟเลี้ยว หรือแม้แต่ปุ่มเปิดไฟหน้าออก เพื่อเป็นการลดต้นทุน เพราะเห็นว่ารถไร้คนขับมันสามารถทำทุกอย่างได้เองและมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว แต่ทาง NHTSA ไม่ยอมรับและได้วกกลับไปพิจารณาประเด็น ของความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการขับรถระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์อีก ครั้ง ว่าท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์จะสามารถไว้ใจหุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ได้อย่าง 100% หรือไม่
Nissan
รถยนต์ไร้คนขับของ Nissan ซึ่งมีแผนจะจำหน่ายจริงในปี 2020 เป็นรถอัจฉริยะที่ใช้ระบบเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้รถเข้าใจสัญญาณจราจร ป้ายจราจรต่างๆ รวมถึงสามารถแยกแยะคนข้ามถนนได้แม้เวลากลางคืน นอกจากนี้ยังมีกล้อง 360 องศา ที่จับภาพและภายภาพในระดับต่ำและสูง ทำให้รถอัจฉริยะของนิสสันไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนทางตรงแต่ยังสามารถเลี้ยวเปลี่ยนเลนส์ ข้ามสะพาน และหยุดรถได้อย่างปลอดภัย ทาง Nissan เผยว่าอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเซ็นเซอร์ให้ดีกว่านี้เพราะระหว่างทดสอบอยู่นี้ก็ยอมรับว่ามีความผิดพลาดให้เห็นอยู่และจะต้องพัฒนาต่อไปก่อนที่จะป้อนเข้าสู่ตลาดในปี 2020
Baidu
Baidu คู่แข่งของกับ Google การพัฒนารถยนต์ขับขี่อัตโนมัติของ Baidu นั้นใช้รถยนต์ BMW ซีรีย์ 3 GT นำมาดัดแปลงติดกล้อง เรดาร์ เซนเซอร์ โดยใช้เทคโนโลยีแผนที่ highly automated driving (HAD) ที่บันทึกภาพสามมิติบนถนนแบบเรียลไทม์ พร้อมกับประมวลผลผ่านระบบขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งถูกทดสอบบนถนนด้วยระยะทางราวๆ 30 กม. พร้อมกับทดสอบการขับขี่อัตโนมัติด้วยความเร็วสูงสุดถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ระบบดังกล่าวยังสามารถ เปลี่ยนเลน เลี้ยวซ้าย-ขวา กลับรถ บนถนนสาธารณะได้อย่างไร้ปัญหา
รถยนต์ไร้คนขับจากBaidu
นอกจากนี้ทาง Baidu ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ถนนและการจราจรในประเทศประเทศค่อนข้างซับซ้อนและยุ่งเหยิง ด้วยพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนนที่คาดเดาได้ยาก แต่ว่าภายใน 5-10 ปี เทคโนโลยีรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติของ Baidu จะสามารถวิ่งได้ทั่วประเทศ ร้อมกับสามารถใช้ได้กับรถยนต์ส่วนตัว รวมถึงรถขนส่งสารธารณะ
BMW
ค่ายรถ BMW ล่าสุดก็เกทับรถที่พัฒนารถยนต์ไร้คนขับด้วยการเอารถยนต์ BMW M235i ที่ติดตั้งเทคโนโลยีตัวใหม่ Prototype มาดริฟท์รถโชว์แบบไม่ใช้คนขับ ซึ่งดริฟท์เป็นวงกลมแข่งกับนักขับอาชีพที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแชมป์ด้านการด ริฟท์รถกัน เรียกได้ว่าถือไพ่เหนือกว่าค่ายอื่นๆ เลยทีเดียว
Volvo
ทางด้าน Volvo ก็เปิดตัวโปรเจคนำร่องที่มีชื่อว่า “Drive Me รถไร้คนขับสำหรับการขนส่งที่ยั่งยืน” ด้วยการนำรถยนต์ไร้คนขับของวอลโว่จำนวน 100 คัน มาวิ่งโชว์บนถนนจริงๆ ในระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร ในเมืองโกเต็นเบิร์กที่ถือว่าเป็นเมืองที่มีการจราจรที่วุ่นวายของสวีเดน
Audi
ทางด้านค่ายรถออดี้ก็ได้ประกาศความสำเร็จแล้ว ซึ่งรถไร้คนขับที่ออดี้ทดสอบวิ่งบนถนนจริงนั้น ถูกพัฒนาขึ้นจากรุ่น ‘RS7 Sportback’ ซึ่งก่อนหน้านี้ออดี้เคยวิ่งทดสอบบนสนามแข่ง Hockenheim Circuit ประเทศเยอรมนีมาแล้ว และประสบผลสำเร็จ โดยสามารถทำความเร็วได้ถึง 240 กม./ชม. โดยไม่มีมนุษย์ควบคุม อาศัยเพียงสัญญาณ GPS ส่งผ่านระบบไวไฟไปยังตัวรถ นอกจากนั้นยังติดตั้งกล้องหน้ารถแบบ 3 มิติ เพื่อใช้คำนวณทิศทางควบคู่กันไป
Mercedes-Benz
เมอร์เซเดสเบนซ์ (Mercedes-Benz) ก็กำลังทดสอบระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติไร้คนขับในรถยนต์ S-Class โดยระบบอัตโนมัตินี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ในหลากหลายสถานการณ์ เช่น การขับในความเร็วสูง การขับขี่ในเขตเมืองที่มีอุปสรรคหลายอย่าง โดยในการทดสอบระบบนี้จะมีผู้ทดสอบนั่งอยู่ในรถเพื่อคอยสอดส่องความผิดปกติ ที่เกิดขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องลงมือขับเองแต่อย่างใด
Ford
ฟอร์ด (Ford) ก็ประกาศว่าจะทำรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยมีแผนว่าจะค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ และทยอยใส่ในรถยนต์รุ่นใหม่ทุก ๆ ปี โดยในปัจจุบันฟอร์ดได้ใส่ระบบ Park Assist ที่ช่วยจอดรถอัตโนมัติและ Active City Stop มาในรถยนต์ของฟอร์ดเองไปเรียบร้อยแล้ว
และนี่ก็เป็นรถยนต์ไร้คนขับที่มีความเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ ในขณะนี้ ซึ่งก็ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ที่กำลัพัฒนารถยนต์ไร้คนขับแต่ อีกหายค่ายก็กำลังอยู่ระหว่าพัฒนารถยนต์ไร้คนขับอยู่ด้วยเช่นกัน อย่าง Volkswagen Chevrolet กระทั่ง Apple ก็ยังมีแผนที่จะพัฒนารถไร้คนขับที่ใช้พลังงานไฟฟ้า กับเขาด้วย
รถมือสอง สภาพดี ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ที่นี่