ถ้าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ในตอนนี้ยังไม่หายภายในเดือนกันยายน 2563 นี้ ส.อ.ท. คาดไว้ว่าต้องมีตลาดรถยนต์ต้องเดือดร้อนในเรื่องเศรษฐกิจ
>> ทิศทางตลาดรถยนต์ในไทยหลังโควิด-19
>> คนแจ้งรับ คนโดนจับเสีย ขนส่งฯ เตือนรถดัดแปลงไฟหน้า-ไฟท้าย ผิดกฎหมายปรับแน่
อุตสาหกรรมยานยนต์ประเทศไทยวิกฤตหนัก
ปัญหาพิษเศรษฐกิจที่มีผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ถือว่ามีความรุนแรงกับตลาดรถในเมืองไทยเป็นอย่างมาก พร้อมก่อนหน้านี้ สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้แถลงว่า จากสถานการณ์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคมนี้ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด ทำให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ทำให้ยอดผลิต ยอดขายและยอดส่งออก ลดลงทั้งระบบ จึงประเมินว่า หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้จนถึงเดือนกันยายน 2563 คาดว่าจะกระทบการจ้างงานคนในอุตสาหกรรมยานยนต์แน่นอน
ยอดผลิตและจำหน่ายตกจากปีที่แล้วเกือบ 50%
“เราได้ประเมินว่าจะต้องปรับลดเป้าลงอีกจากเดิมที่คาดการณ์ว่าปีนี้จะมียอดผลิตประมาณ 2 ล้านคัน เพื่อการส่งออก 1 ล้านคัน และขายในประเทศ 1 ล้านคัน แต่มาถึงตอนนี้คาดว่าหากโควิด-19 ยืดเยื้อถึงเดือนมิถุนายน จะปรับลดเป้าผลิตลดลง 30% หรือเหลือ 1.4 ล้านคัน และหากปัญหายังต่อเนื่องถึงเดือนกันยายนจะปรับลดเป้าผลิตลง 50% หรือเหลือ 1 ล้านคัน ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นอาจกระทบต่อการเลิกจ้างคนในอุตาหกรรมยานยนต์ที่มีจำนวนมากกว่า 7.5 แสนคน พูดได้ว่า สถานการณ์โควิด-19 ครั้งนี้หนักกว่าสถานการณ์ต้มยำกุ้งปี 2540 เพราะครั้งนี้กระทบทั่วโลก”
นอกจากนี้มีวิธีแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนวิกฤตในช่วงนี้ ซึ่ง ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธาน ส.อ.ท. ได้เผยว่า “ขณะนี้ลูกค้ายังไม่มีอารมณ์ซื้อรถ ในส่วนของการจ้างงานก็พยายามเลี้ยงคนไว้ แต่อาจมีการปรับลดเงินเดือนบ้าง คาดว่าเดือนมิถุนายน อุตสาหกรรมยานยนต์จะเริ่มกลับมา แต่จะต้องมีการกระตุ้นตลาดเพื่อให้กำลังซื้อฟื้นคืนมา และระบบเศรษฐกิจดำเนินต่อไปได้ อยู่ระหว่างหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป”
สุรพงษ์ กล่าวว่า ทางรัฐบาลควรจะต้องเข้าช่วยในเรื่องของการ กระตุ้นให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อในส่วนของรถยนต์ และ จักรยานยนต์ อาจจะต้องมีการลดภาษี หรือ จัดแคมเปญ เพื่อดึงดูดผู้ซื้อนั่นเอง
ประเภท |
มีนาคม 2562 |
ลดลงจากปีก่อน (%) |
ยอดผลิตรถยนต์ |
194,563 คัน |
26.16% |
ยอดขายรถยนต์ |
60,105 คัน |
41.74% |
ยอดส่งออกรถยนต์ |
89,795 คัน |
23.71% |
ยอดขายรถกระบะ |
27,215 คัน |
39.49% |
ยอดผลิตจักรยานยนต์ |
146,812 คัน |
18.47% |
สรุป
ถ้าหากดูจากตารางแล้วจะเห็นว่ายอดขายรถยนต์นั้นตกถึง 41.74% เรียกได้ว่าเกือบครึ่งเลยทีเดียว ในเมื่อรถนั้นขายไม่ได้ ก็ต้องส่งผลกระทบแบบโดมิโน่ ตั้งแต่ พนักงาน Supplier ดิลเลอร์ ต่างต้องเจ็บตัวไปตาม ๆ กัน และมีอีกหนึ่งส่วนนั้นก็คือ ยอดขายของรถกระบะที่จะบ่งบอกถึงสภาพเศรษฐกิจหลักของไทยได้ เช่นกัน เพราะยอดจำหน่ายเมื่อเทียบกันในเดือนมีนาคมของปีที่แล้ว ตกลงเกือบ 40%