ชาวไทยจับตาให้ดี! All-New Nissan Leaf เจเนเรชั่นที่ 2 จะมาขายในไทยร็วๆนี้

All-New Nissan Leaf ในตลาดสหรัฐฯ

ภายนอก All-New Nissan Leaf ในตลาดสหรัฐฯ

สำหรับ All-New Nissan Leaf ซึ่งเป็นรถที่จะนำไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายในงาน  Frankfurt Motor Show 2017 กลางเดือนกันยายนนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่นเดือนตุลาคมนี้ ก่อนจะมาถึงตลาดสหรัฐฯ ยุโรปและแคนาดาในช่วงต้นปี 2018 โดยราคาค่าตัวในสหรัฐฯจะเริ่มต้นที่ 29,990 ดอลลาร์ หรือประมาณ 993,000 บาทไทย

ภายนอก All-New Nissan Leaf  ถือว่ายกระดับจากรุ่นเดิมมากเลยทีเดียว โดยมาพร้อมรูปโฉมที่ดูสวยงามและหรูหรามากยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบยุคใหม่ของ Nissan มากับชุดกระจังหน้าทรง V-Motion ออกแบบฝาปิดที่ชาร์จไฟด้านหน้าใหม่จากเดิมที่ต้องเปิดบริเวณโลโก้รถเปลี่ยนมาไว้เหนือโลโก้แทน เส้นสายด้านข้างมีการใส่ลูกเล่น Floating Roof บริเวณด้านท้าย ส่วนด้านท้ายมากับโคมไฟท้ายทรงใหม่ดูสวยงามมากๆ

ภายในห้องโดยสาร All-New Nissan Leaf ที่สหรัฐฯ

ภายใน All-New Nissan Leaf ที่สหรัฐฯ ดูทันสมัยยิ่งขึ้น

 ภายในห้องโดยสารมีการออกแบบคอนโซลหน้าใหม่ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมกับพวงมาลัย 3 ก้านทรงใหม่ที่ดูคุ้นตา มาตรวัดที่ดูล้ำสมัยมากขึ้น

All-New Nissan Leaf ที่ยุโรป

 และ Nissan Leaf โฉมใหม่จะขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมงและมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ระยะทางวิ่งนั้นหน่วยงานสิ่งแวดล้อมของสหรัฐหรือ EPA ประเมินว่าจะวิ่งได้ราวๆ 150 ไมล์หรือ 240 กิโลเมตร ส่วนฝั่งยุโรปจะประเมินไว้ที่ 378 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC (New European Driving Cycle) และญี่ปุ่นประเมินไว้ที่ 400 กม. ตามมาตรฐาน JC08 

All-New Nissan Leaf เจเนเรชั่นที่ 2 ในยุโรป

>>> ล้ำไปอีก! Nissan Leaf กับระบบจอดรถอัตโนมัติ

ระยะเวลาการชาร์จนั้น เมื่อใช้ปลั๊ก 3 กิโลวัตต์จะใช้เวลา 16 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นปลั๊ก 6 กิโลวัตต์จะใช้เวลา 8 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการชาร์จไฟแบบเร่งด่วนที่สามารถชาร์จได้ 80% ในเวลา 40 นาทีเท่านั้น 

ภายในห้องโดยสาร Nissan Leaf โฉมใหม่ ที่ยุโรป
 

จุดเด่นของ All-New Nissan Leaf  นั้นคือ เทคโนโลยีการขับขี่ ProPILOT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกช่วยการขับขี่อัตโนมัติในช่องทางจราจรเดียว ระบบจะควบคุมระยะห่างระหว่างคันหน้าโดยอัตโนมัติที่ความเร็วระหว่าง 30-100 กม./ชม. และยังสามารถควบคุมการเลี้ยวรถไปตามทาง การรักษารถให้อยู่ในเลน ถ้าจำเป็นต้องหยุด รถก็จะช่วยหยุดโดยอัตโนมัติ และสามารถใช้เท้าแตะคันเร่งเพื่อเริ่มการทำงานของระบบ ProPILOT อีกครั้ง และยังมีระบบช่วยจอดอัตโนมัติโดยใช้เซ็นเซอร์อัลตราโซนิคในการตรวจจับและนำรถเข้าจอดได้

ไม่เพียงเท่านั้น รถคันนี้ยังมีระบบที่เรียกว่า e-Pedal ซึ่งมาเป็นมาตรฐาน โดยเป็นระบบที่สามารถให้ผู้ขับขี่เร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว เบรก หรือทำให้รถหยุดนิ่งโดยใช้แป้นเหยียบเพียงแป้นเดียว

>>> Nissan Leaf 2018 สุดยอด รถยนต์ไฟฟ้า จะเปิดตัวในปีนี้

 ทางด้านระบบความปลอดภัยต่างๆได้ติดตั้งมาครบครัน ได้แก่ ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร Intelligent Lane Intervention, ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกช่องทางLane Departure Warning, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Intelligent Emergency Braking, ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Warning, ระบบรับรู้เครื่องหมายจราจรTraffic Sign Recognition, ระบบเตือนมุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert, กล้องมองภาพรอบคัน Intelligent Around View Monitor

ชาวไทยจะได้สัมผัส All-New Nissan Leaf ในเร็วๆนี้

ที่สำคัญ Leaf โฉมใหม่นี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราจากการยืนยันของผู้บริหาร Nissan ซึ่งถ้ามาจริงๆก็น่าจะทำราคาได้เพราะภาษีของรถ Hybrid / Plug-In Hybrid / EV จะจ่ายภาษีสรรพสามิตในอัตราแค่ 2% เท่านั้น โดยต้องส่งแผนการลงทุนนี้ให้กับ BOI เสียก่อน