ค่ายรถรถฟอร์ด(Ford)ได้ฉลองยกใหญ่ ผลผลิตเครื่องยนต์อีโคบู๊ตท์ครบ 2 ล้านเครื่องแล้ว

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 26 ก.ย 2556
แชร์ 0

สวัสดีค่ะ วันนี้ก็เป็นเรื่องของ
อีโก้คาร์กันน่ะค่ะ กับค่ายรถฟอร์ดที่ถือว่าประสบความสำเร็จอีกขั้นแล้วเมื่อด้วยศักยภาพของทีมงานทำให้ผลิตเครื่องยนต์ครบ 2 ล้านเครื่องทะลุเป้าหมายแล้วก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับค่าย
เป็นอย่างมาก

สวัสดีค่ะ วันนี้ก็เป็นเรื่องของตลาดรถอีโก้คาร์กันน่ะค่ะ กับค่ายรถฟอร์ดที่ถือว่าประสบความสำเร็จอีกขั้นแล้วเมื่อด้วยศักยภาพของทีมงานทำให้ผลิตเครื่องยนต์ครบ 2 ล้านเครื่องทะลุเป้าหมายแล้วก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับค่ายดูเรื่องนี้รถฟอร์ด(Ford)เป็นอย่างมาก

ฉลองฟอร์ด(Ford)ผลิตเครื่องยนต์ครบ 2 ล้าน

การที่ลูกค้าฟอร์ด(Ford)ในตลาดสำคัญๆ ทั่วโลกมีความต้องการรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้บริษัทต้องเร่งผลิต โดยปัจจุบัน ฟอร์ดผลิตเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ได้ประมาณ 100,000 เครื่องต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 65,000 เครื่องต่อวันในปีพ.ศ. 2555

“เครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ให้พละกำลังดีเยี่ยมและยังช่วยลดค่าน้ำมันด้วย จึงนับเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกชื่นชอบอย่างมาก” มร. โจ บาคาจ รองประธานฝ่ายวิศวกรรมระบบส่งกำลังของฟอร์ด กล่าว “เครื่องยนต์อีโคบู๊สต์เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าซึ่งไม่เคยใช่รถฟอร์ดมาก่อนหันมาให้ความสนใจแบรนด์ฟอร์ดเพิ่มขึ้นทุกวัน และโรงงานของเราก็มีความพยายามอย่างมากในการผลิตสินค้าให้ทันต่อความต้องการของตลาด”

ล่าสุด รถฟอร์ด เอสเคป ที่ติดตั้งเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์เครื่องที่ 2 ล้าน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ได้เดินทางออกจากสายการผลิตของฟอร์ด ณ โรงงานประกอบรถยนต์หลุยส์วิลล์ ในรัฐเคนตักกี้ ประเทศสหรัฐ

ทั้งนี้ เทคโนโลยีอีโคบู๊สต์ของฟอร์ด เป็นเทคโนโลยีที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ขนาดเล็กลงเข้ากับระบบเทอร์โบชาร์จ ไดเร็กอินเจ็กชั่น และระบบวาล์วแปรผัน เพื่อมอบสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยมควบคู่กับการประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ของฟอร์ดช่วยประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเครื่องยนต์เบนซินที่มีขนาดใหญ่กว่า

ปัจจุบัน เครื่องยนต์ระดับโลกในตระกูลอีโคบู๊สต์ของฟอร์ดมาพร้อมตัวเลือกหลายขนาด ทั้งแบบ 3 สูบขนาด 1.0 ลิตร แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1.6 ลิตร และ 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตรอันทรงพลังและเปี่ยมประสิทธิภาพ

การเติบโตในเอเชียแปซิฟิก

ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยอดขายรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงถึง 202 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งรวมถึงอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 189 เปอร์เซ็นต์ในประเทศจีน ฟอร์ดวางแผนที่จะนำเสนอรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันนี้ในรถ 20 รุ่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายในช่วงกลางทศวรรษ หรือเพิ่มขึ้นจากปีพ.ศ. 2555 ถึง 5 เท่าตัว

ทั้งนี้ 95 เปอร์เซ็นต์ของผู้ซื้อฟอร์ด คูก้า ในเอเชียแปซิฟิกเลือกรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ 1.6 ลิตร ขณะที่ผู้ซื้อฟอร์ด เอดจ์ 90 เปอร์เซ็นต์ และผู้ซื้อฟอร์ด มอนเดโอ 62 เปอร์เซ็นต์เลือกเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันเช่นเดียวกัน

และในเร็ววั้นนี้ ฟอร์ดจะเริ่มผลิตเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ 1.0 ลิตร ที่โรงงานผลิตเครื่องยนต์ฟอร์ด ฉางอัน ซึ่งก่อสร้างขึ้นด้วยมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท) และเปิดทำการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในเมืองจุงกิง ประเทศจีน

การขยายตัวในยุโรป

ในทวีปยุโรป การที่ผู้บริโภคจำนวนมากต้องการเป็นเจ้าของเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ขนาด 1.0 ลิตร เจ้าของรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมระดับนานาชาติประจำปีพ.ศ. 2555 และ 2556 ส่งผลให้ฟอร์ดเพิ่มปริมาณการผลิตเครื่องยนต์ในโรงงานที่เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี อีกเท่าตัว ส่งผลให้โรงงานดังกล่าวมีปริมาณการผลิตเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์มากกว่า 1,000 เครื่องต่อวัน

ปัจจุบันเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ 1.0 ลิตร ติดตั้งอยู่ในรถฟอร์ด 5 รุ่นที่วางจำหน่ายในทวีปยุโรป และจะเพิ่มขึ้นเป็น 11 รุ่นภายในปีพ.ศ. 2557 โดยเครื่องยนต์แบบ 3 สูบของฟอร์ดนับว่าเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ ในปีพ.ศ. 2556 โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 43 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรถบี-แมกซ์ 32 เปอร์เซ็นต์ของโฟกัส 26 เปอร์เซ็นต์ของเฟียสต้า และ 24 เปอร์เซ็นต์ของซี-แมกซ์ และแกรนด์ ซี-แมกซ์

เครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ยังช่วยเพิ่มความต้องการรถรุ่นอื่นๆ ทั้งเฟียสต้า เอสที (อีโคบู๊สต์ 1.6 ลิตร) และโฟกัส เอสที (อีโคบู๊สต์ 2.0 ลิตร) ขณะที่ผู้ซื้อฟอร์ด คูก้า ซึ่งมักจะเลือกรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ได้หันมาเลือกรถรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ 1.6 ลิตรแทนถึง 18 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวม ขณะที่ข้อมูลของฟอร์ดเปิดเผยว่าลูกค้าชาวยุโรปรู้สึกคุ้นเคยกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์มากขึ้นราว 40 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเมื่อปีพ.ศ. 2554

ทั้งนี้ โรงงานผลิตเครื่องยนต์ในเมืองโคโลญจน์ได้เริ่มผลิตเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ 1.0 ลิตร เพื่อจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือแล้ว และในช่วงปลายปีพ.ศ. 2556 ฟอร์ดจะเริ่มวางจำหน่ายเฟียสต้า ใหม่ รุ่นปี 2014 ซึ่งจะเป็นรถรุ่นแรกในสหรัฐที่ติดตั้งเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ 1.0 ลิตร โดยบริษัทคาดว่านอกจากรถตระกูลไฮบริดแล้ว เฟียสต้า ใหม่ จะได้รับการรับรองว่าเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุดที่วางจำหน่ายในสหรัฐ

ความนิยมและความต้องการที่เพิ่มขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ

ในทวีปอเมริกาเหนือ ข้อมูลภายในของฟอร์ดระบุว่า เครื่องยนต์อีโคบู๊สต์เป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการยอมรับด้านความประหยัดน้ำมันมากที่สุดในมุมมองของผู้บริโภคในปัจจุบัน นอกจากนี้ ผู้บริโภคที่รู้จักเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ยังมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อรถฟอร์ดมากขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับคนที่ไม่รู้จักเทคโนโลยีดังกล่าว

ความนิยมที่ผู้บริโภคมีต่อเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ในทวีปอเมริกาเหนือ สะท้อนให้เห็นได้จากการเลือกซื้อรถรุ่นหลักๆ ดังนี้

ในปีนี้ รถฟอร์ดรุ่นต่างๆ กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ที่วางจำหน่ายอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ล้วนเป็นรถที่ติดตั้งเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ อัตราส่วนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ในปีพ.ศ. 2558 และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ขนาด 2.0 ลิตรที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ฟอร์ดจึงได้ลงทุนอีกราว 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6 พันล้านบาท) เพื่อผลิตเครื่องยนต์รุ่นนี้ที่โรงงานในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ โดยจะเริ่มดำเนินการผลิตในปีพ.ศ. 2557

***หมายเหตุ

ปริมาณการผลิตเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ของฟอร์ดทั่วโลกโดยรวม นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกโรงงานเครื่องยนต์ปริมาณการผลิต (เครื่อง)โคโลญจน์ / ไครโอวา1.0 ลิตร284,000บริดเจนด์ / ไครโอวา1.5 ลิตร /1.6 ลิตร549,000วาเลนเซีย2.0 ลิตร532,000คลีฟแลนด์3.5 ลิตร635,000รวม2,000,000

ยังไงทางเราก็ยินดีกับทางค่ายฟอร์ดด้วยน่ะค่ะกับผลผลิตที่ได้ตามเป้าหมายอย่างรวดเร็วและก็น่าจะลุล่วงไปจนถึงยอดขายในตลาดอีโค้คาร์ที่ถล่มทลาย