อัพเดท อุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 12 – 13 เมษายน 2560
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันอันตราย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2560 ตั้งแต่วันที่ 11 - 17 เม.ย ภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" โดยน.พ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560
อัพเดท อุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 12 – 13 เมษายน 2560
สองวันที่ผ่านมามี
อุบัติเหตุ 995 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 82 ราย และบาดเจ็บ 1,049 ราย และสาเหตุที่ทำให้เกิด
อุบัติเหตุ สูงสุด ได้แก่
เมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ส่วนยานพาหนะที่เกิด
อุบัติเหตุ สูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ช่วงเวลาที่เกิด
อุบัติเหตุ สูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ 51 ครั้ง เสียชีวิตสะสมสูงสุด นครราชสีมา 6 ราย ส่วนจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือจังหวัด เชียงใหม่ 48 ราย
ไปเที่ยวไหนก็ต้องเดินทางอย่างปลอดภัย
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา หากประมาท ยิ่งตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งโดยปกติแล้วทุกๆ ช่วงเทศกาลมักเกิดอุบัติที่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ มีการสูญเสียเกิดขึ้นบ่อยครั้งทั้งชีวิต และทรัพย์สิน บางครั้งไม่ตายทันที ยังต้องมาทนทุกข์ทรมานเพราะพิการ เพื่อป้องกันเรื่องราวร้ายๆ ที่จะเกิดขึ้น เที่ยวอย่างปลอดภัย สบายใจเมื่อไม่เกิดอุบัติเหตุ กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย.... เพราะฉะนั้นนอกจากการกันถ้วนหน้า แล้ว การดูแลสภาพรถและเช็ค ตรวจสอบ ทุกอย่างก่อนเดินทางจึงสำคัญเสมอ มาดูกันดีกว่าว่าวิธีการแก้ไข-ป้องกันอุบัติเหตุ ที่ทุกคนควรรู้มีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ขับขี่หรือผู้เดินถนน ถึงแม้ว่าจะมีความรู้เกี่ยวกับการจราจรแล้ว ก็ควรปฏิบัติตามด้วย
* ต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
* ไม่ขับรถด้วยความประมาท มีความระมัดระวังในการขับรถ
* ไม่ขับรถในขณะที่ร่างกายหย่อนสมรรถภาพ
* ไม่ขับรถในขณะมึนเมาสุรา
* ไม่ขับรถในขณะที่ทานยาประเภทมีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการง่วงซึม เช่น ยาแก้อาการแพ้, ยาแก้ไข้หวัด
การป้องกันอุบัติเหตุจราจรที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
เบรกแตก อย่าตกใจ... วิธีแก้ใช้เกียร์ต่ำในทันที หากจวนตัวมากอาจเปลี่ยนจากเกียร์ 4 มาเป็นเกียร์ 2 เลยก็ได้ ดึงเบรกมือช่วย พร้อมกับประคองพวงมาลัยรถให้อยู่ในบังคับเพื่อหลบหลีกรถอื่นๆ
ยางแตกหรือระเบิด... ต้องรีบเบารถทันที โดยเปลี่ยนเกียร์ลดลงเรื่อยๆ เพื่อให้เครื่องชะลอรถให้ช้าลง ในขณะที่รถยังมีความเร็วสูงอยู่อย่าเหยียบเบรก ต่อเมื่อรถช้าลงมากแล้วค่อยเหยียบเบรกโดยแตะเบาๆ แล้วแอบเข้าข้างทางเพื่อทำการเปลี่ยนยางใหม่
ขับรถขณะฝนตกหรือถนนลื่น...ควรชะลอความเร็วของรถให้ช้าลงกว่าปกติ และทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น (จากปกติ 50 เมตร) เมื่อจะหยุดรถให้เปลี่ยนมาใช้เกียร์ต่ำเพื่อช่วยชะลอรถอย่าเบรคโดยกะทันหันหรือหักพวงมาลัยรถอย่างฉับพลันเพราะอาจทำให้รถปัด หรือหมุนได้
การขับรถขึ้น-ลงเขา หรือเนินสูง...ต้องใช้เกียร์ต่ำแต่เครื่องยนต์จะทำงานหนัก ถ้าเครื่องดับและรถหยุดไหลจากเขา ต้องเหยียบเบรคหรือดึงเบรกมือช่วย ถ้าเป็นรถหนักหรือรถบรรทุกต้องใช้ไม้หนาๆ หนุนล้อทั้ง 4 ล้อไว้เพื่อป้องกันรถไหล
การขับรถลงเขา, ลงเนินสูง และลงสะพานสูงๆ...ความเร็วของรถจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าปกติ อาจเกิดอันตรายได้ง่าย ฉะนั้นการขับรถลงจากเขาหรือเนินสูงๆ หรือลงสะพานสูงๆ ต้องลดเกียร์มาใช้เกียร์ต่ำ หากเครื่องยนต์ดับ ให้เหยียบเบรกให้รถหยุด และดึงเบรกมือหรือใช้ไม้ รองล้อทั้ง 4 ล้อไว้เพื่อป้องกันรถไหล
ทั้งนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาง่ายๆก่อนเดินทางและระหว่างการเดินทางที่จะช่วย
ป้องกันอุบัติเหตุจราจรที่เกิดขึ้น ขอให้ทุกท่านเดินทางอย่างปลอดภัยลัมีความสุขนะคะ
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญ
ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญ
ที่นี่