ซึ่งชุดระบบส่งกำลังใหม่ล่าสุดนี้ ได้รับการออกแบบให้ใช้กับรถได้หลายรุ่นหลายขนาดเพื่อประหยัดต้นทุนและ เวลาในการพัฒนารถรุ่นใหม่ ๆ โดยประกอบไปด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร หัวฉีดตรง, ระบบไฮบริด (Toyota Hybrid System II หรือ THS II), แบตเตอรี่นิกเกิล-เมทัล ไฮไดรด์ (Nickel-Metal Hydride) แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือเกียร์อัตโนมัติ Direct-Shift ที่มีถึง 8 และ 10 สปีด
TNGA-based Powertrain Units - Inline 4 Cylinder 2.5L Direct Injection Gasoline Engine
ทั้งนี้ชุดเกียร์อัตโนมัติ Direct-Shift ใหม่ เพื่อใช้กับแพลตฟอร์ม TNGA จะมีทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ เกียร์ Direct-Shift 8 สปีด ใช้ให้กับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนเกียร์ Direct Shift 10 สปีด นั้นถูกออกแบบไว้สำหรับระบบขับเคลื่อนล้อหลัง โดยเกียร์ Direct Shift ทั้งสองแบบนี้จะช่วยให้ลดการสูญเสียพลังงานและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
TNGA-based Powertrain Units - FF 8-speed Automatic Transmission
ทั้งนี้ผิวหน้าของเฟืองขับจะใช้เทคนิคใหม่ที่ทำให้เกิดแรงเสียดทานต่ำ รวมถึงภายในชุดคลัตช์ออกแบบให้สามารถลดแรงเสียดทานเพื่อลดการสูญเสียแรงบิดขณะหมุน ได้ดีขึ้นประมาณ 50% (เมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบปกติ)
TNGA-based Powertrain Units - FR 10-speed Automatic Transmission
นอกจากนี้แล้วเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift ใหม่ ยังมีขนาดกะทัดรัดและเบากว่าซึ่งทำให้สามารถวางในตำแหน่งที่ต่ำกว่า ส่งผลให้รถมีการบังคับควบคุมมั่นคงขึ้นทั้งทางตรงและขณะแล่นเข้าโค้ง สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยลง แล้วยังมีการตอบสนองที่ว่องไวแต่มีความนุ่มนวลอีกด้วย
TNGA-based Powertrain Units - Inline 4 Cylinder 2.5L Direct Injection Gasoline Engine / New Transaxle
TNGA-based Powertrain Units - Lithium-ion Battery
ในส่วน ของเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift 10 สปีด เมื่อเทียบกับ Direct Shift 8 สปีด จำนวนเกียร์ที่เพิ่มขึ้นมานั้นจะทำให้มีความกว้างของอัตราทดในแต่ละเกียร์น้อยลง โดยเฉพาะในช่วงความเร็วต่ำไปจนถึงปานกลาง ซึ่งจะส่งผลให้การเปลี่ยนจังหวะของเกียร์ทำได้รวดเร็วและราบรื่น ที่ Toyota ตั้งใจทำไว้ใช้กับรถขับเคลื่อนล้อหลังในระดับ "พรีเมียม" โดยเฉพาะ
ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา
ที่นี่
ต้องการซื้อรถ Toyota มือสอง ตรวจสอบราคารถ Toyota มือสอง
เชิญที่นี่