ฮอนด้าเผยโฉม
Honda City รุ่นปรับโฉมใหม่ ด้วยการประหยัดเชื้อเพลิง ให้ความสะดวกขณะขับ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
ราคาจำหน่าย
Honda City SV+ เกียร์ CVT ราคา 751,000 บาท
Honda City SV เกียร์ CVT ราคา 736,000 บาท
Honda City V+ เกียร์ CVT ราคา 689,000 บาท
Honda City V เกียร์ CVT ราคา 649,000 บาท
Honda City S เกียร์ CVT ราคา 589,000 บาท
Honda City S เกียร์ธรรมดา ราคา 550,000 บาท
ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เผยว่า จากการเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นใหม่หลายรุ่นในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ฮอนด้าสามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
ไม่เพียงเท่านั้นในปี 2017 นี้ ฮอนด้าจะยังคงนำเสนอยนตรกรรมอีกหลายรุ่น เริ่มต้นด้วยการปรับโฉมฮอนด้า ซิตี้ ซึ่งเป็นยนตรกรรมซับคอมแพคท์ยอดนิยมที่มียอดขายสูงที่สุดในเซกเมนต์ซับคอมแพคท์ฮอนด้า ซิตี้ โฉมใหม่ได้มีการยกระดับความหรูหรา และความสปอร์ตยิ่งขึ้น ทั้งดีไซน์ ภายในและภายนอก รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ทันสมัยมากขึ้น และมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน เพื่อช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับชีวิตยิ่งขึ้น
มาพร้อมกับชุดไฟหน้า LED ในรุ่น SV+ และ SV ในขณะที่ไฟ LED day time จะเป็นครั้งแรกในกลุ่มซับคอมแพคท์ ที่มีการติดตั้งมาให้ทุกรุ่นย่อย ส่วนไฟตัดหมอกแบบ LED ใช้การสะท้อนแสงด้วย Reflector ภายในโคม ช่วยลดการใช้พลังงาน กันชนหน้า-หลังออกแบบใหม่และตกแต่งเพิ่มเติมด้วยกรอบโครเมียม ล้ออัลลอยลายใหม่รุ่น V และ V+ เป็นขนาด 15 นิ้ว ส่วนรุน SV และ SV+ จะเป็นขนาด16 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารมีการปรับปรุงใหม่ ภายใต้แนวคิด Rich & Sophisticated คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยวัสดุที่มีพื้นผิวต่างกัน แผงคอนโซลกลางทรง T สีเมทัลลิคเข้ม แผงมาตรวัดพื้นผิวสีดำและพื้นที่ส่วนบนของแผงมาตรวัดออกแบบใหม่ให้ดูแบนเรียบ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับ มาตรวัด ช่องแอร์ และกรอบคันเกียร์ ตกแต่งด้วยแหวนสีเงิน มาตรวัดเรืองแสงแบบ 3 วงออกแบบใหม่ให้ดูมีมิติขึ้น มีไฟเรืองแสงสีขาวขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ เบาะสไตล์สปอร์ตเดินด้าย 2 แถว รุ่น SV+ มีไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า LED และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED
ด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็มีความแตกต่างกัน อาทิ รุ่น SV SV+ V+ มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส ส่วนรุ่น SV+ ชุดเบาะหลังปรับพับได้ 60:40 สำหรับทุกรุ่นจะมีช่องจ่ายไฟสำรองด้านหน้า 1 ตำแหน่ง ส่วนรุ่น SV และ SV+ ติดตั้งลำโพง 8 มีช่องจ่ายไฟสำรองสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
พละกำลังยังคงมาจากเครื่องยนต์เบนซิน SOHC i-VTEC ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 14.8 กก.-ม. ระบบส่งกำลังเลือกได้ระหว่างอัตโนมัติ CVT หรือธรรมดา 5 จังหวะ รุ่น CVT มีจุดเด่นคือ การรองรับการใช้เชื้อเพลิง E85 พร้อมเสริมความประหยัดด้วยฟังก์ชั่น E-CON หรือ Ecological-Drive Assist System ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองโดยอัตโนมัติ
รุ่น V V+ SV และ SV+ ติดตั้งมาตรวัดเรืองแสงสีขาวพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับ MID นอกจากนี้รุ่น V+ SV และ SV+ ยังมีระบบอินโฟเทนเม้นท์ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้งฝั่ง Android และ iOS โดยรองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่านพอร์ท HDMI ไม่เพียงเท่านั้นรุ่น SV และ SV+ ยังเพิ่มระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 จังหวะ มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ โดยรุ่น V V+ SV และ SV+ มีระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ ส่วนรุ่น V+ SV และ SV+ มีสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย
ด้านระบบความปลอดภัย ระบบความปลอดภัยพื้นฐานได้แก่ ระบบควบคุมการทรงตัว VSA ระบบเบรค ABS ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA ระบบกระจายแรงเบรค EBD และระบบส่งสัญญาณเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS ทำงานโดยอัตโนมัติระหว่างเบรคและไฟฉุกเฉิน โดยไฟเลี้ยวจะกระพริบขึ้นอัตโนมัติ ส่วนระบบความปลอดภัยActive Safety และ Passive Safety ประกอบด้วยเทคโนโลยี G-CON ลดอาการบาดเจ็บด้วยการควบคุมแรงกระแทกที่เกิดจากการชน รุ่น V+ SV และ SV+ สะดวกด้วยกล้องหลังสำหรับช่วยจอด ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ แสดงผลผ่านจอกลาง นอกจากนั้น รุ่น SV+ ติดตั้งเพิ่มถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
new 2017 Honda Cityมีสีภายนอก 6 สี ประกอบด้วย สีดำคริสตัล (โดยสีมุก เพิ่มเงิน 6,000 บาท) สีขาวออร์คิด (โดยสีมุก เพิ่มเงิน 10,000 บาท) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิค) สีขาวทาฟเฟต้า สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิค) และสีน้ำเงินคอสมิค (เมทัลลิค) ส่วนห้องโดยสารเป็นสีดำ
>>> ดูเพิ่มเติม ราคา honda city 2020
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญ
ที่นี่