โรลส์-รอยซ์ เปิดตัวยนตรกรรม Rolls-Royce Cullinan Black Badge 2020 จากก่อนหน้านี้เปิดตัว เรธ (Wraith) และ โกสต์ (Ghost) ช่วงปี 2559 ตามด้วย ดอว์น (Dwan) ช่วงปี 2560 และคราวนี้เป็น Rolls-Royce Cullinan Black Badge 2020 มาพร้อมภาพลักษณ์เคร่งขรึม และสุขุมลุ่มลึกที่สุดในประวัติศาสตร์
Rolls-Royce Cullinan Black Badge 2020 (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน แบล็ก แบดจ์ 2020) นิยามรสนิยมของคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบความหรูหรา ความท้าทาย และกล้าฉีกทุกกฎเกณฑ์ ขุมกำลังคือเครื่องยนต์เบนซิน V12 สูบ 6.75 ลิตร 592 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร คอลเลกชันสั่งผลิตพิเศษตกแต่งด้วยหนังแท้สีเหลือง ฟอร์จ เยลโลว (Forge Yellow) พร้อมแผงวีเนียร์เทคนิคัลคาร์บอน ล้อแม็ก Bespoke ลายใหม่ ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ และสัญลักษณ์อินฟินิตี ไร้ขีดจำกัด ถ่ายทอดตัวตนที่สุขุมลุ่มลึกของโรลส์-รอยซ์
"วงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในไทยกำลังเปลี่ยนไป นอกจากลูกค้าประจำที่อยู่กับเรามานาน วันนี้เรายังได้ให้บริการลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่เป็นคนหนุ่มสาวและรักการผจญภัยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ เราจึงนำ แบล็ก แบดจ์ คัลลิแนน มาให้ลูกค้าในไทย ได้สัมผัสยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่หรูหราที่สุดในโลก ขอเชิญแวะเข้ามาชมตัวจริงกันได้ที่งาน MGC-ASIA AUTO FEST 2020 ระหว่างวันที่ 18-28 มิถุนายน ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน"
กฤษฎา สวามิภักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก
Rolls-Royce Cullinan Black Badge 2020 (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน แบล็ก แบดจ์ 2020) : ราชันย์แห่งรัตติกาล (The King of the Night)
โรลส์-รอยซ์ มีสีตัวถังให้ลูกค้าเลือกกว่า 44,000 เฉด หรือจะสั่งผลิตสีพิเศษตามต้องการก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ดี ลูกค้ามักเลือกสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของ แบล็ค แบดจ์ ที่ผ่านการพ่นอย่างประณีตหลายชั้น และขัดด้วยมือถึง 10 รอบ ณ Home of Rolls-Royce ในกู๊ดวูด เวสต์ซัสเซ็กซ์ ความลุ่มลึกและเคร่งขรึมของสีตัวถัง เปรียบดังผืนผ้าใบที่รองรับการวาดเส้น Coachline ด้วยมือ โดยใช้สีที่ตัดกัน เพิ่มความโดดเด่นแบบเดียวกับงานศิลปะ
ด้านหน้าเป็นจุดที่อัตลักษณ์คือ สัญลักษณ์ spirit of ecstasy (สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี) ซึ่งครั้งนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยโครเมียมรมดำเคลือบผิวไฮกลอส และเป็นครั้งแรกที่ฐานของนางฟ้าก็ใช้วัสดุเดียวกัน รวมไปถึงส่วนอื่น ๆ
โลโก้ "RR" รอบคัน ที่ถูกเปลี่ยนเป็นลายเส้นสีเงินบนพื้นดำ ขณะที่กรอบกระจังหน้า กรอบหน้าต่าง มือจับประตูและฝาท้าย กรอบช่องดักอากาศด้านล่าง รวมถึงท่อไอเสียถูกพ่นสีเข้ม ส่วนกระจังหน้ารถแม้จะเป็นสีดำ แต่ยังคงความเงางาม ทำให้เด่นชัดขึ้นด้วยกรอบสีดำโดยรอบ เพิ่มความเด่นชัดของการเคลื่อนไหว ที่บ่งบอกเป็นนัยถึงเจตคติอันทรงพลัง
ห้องโดยสารแห่งความสะดวกสบาย มาพร้อมดีไซน์อันห้าวหาญ ผู้เชี่ยวชาญในทีม Colour and Trim บรรจงคัดสรรองค์ประกอบทางวิศวกรรมของ แบล็ก แบดจ์ มานำเสนอ โดยผสมผสานความสะดวกสบายขั้นสูงสุด สุนทรียภาพ วัสดุที่ล้ำสมัย เข้ากับงานฝีมืออันวิจิตรบรรจง
แนวคิดนี้ถูกนำมาปรับใช้อย่างลงตัวกับแผงวีเนียร์เทคนิคัลคาร์บอน ที่ทำตามหลักปรัชญาของเซอร์ เฮนรี รอยซ์ ที่ว่า "หากสิ่งใดไม่มีอยู่ จงออกแบบมันขึ้นมา" ความร่วมมือระหว่างทีมนักออกแบบ วิศวกร และช่างฝีมือ ก่อให้เกิดชิ้นงานใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงบันดาลใจจากผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ โดยถักทอคาร์บอนไฟเบอร์ให้เป็นลวดลายเรขาคณิต ก่อเกิดพื้นผิว 3 มิติ อันทรงพลัง
เทคนิคัลคาร์บอน 23 ชิ้น เคลือบแลกเกอร์ 6 ชั้น ก่อนถูกพักไว้ 72 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำมาขัดด้วยมือ จนเรียบเนียนเหมือนกระจก ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลา 21 วัน และผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยเหล่าช่างฝีมือ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความเงางามสม่ำเสมอกันทั้งชิ้น
เพดาน Starlight Headliner ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ด้วยแสงเรืองรองที่ส่องลงบนเบาะหนังสุดหรู เพดานที่ผลิตด้วยหนังแท้สีดำคุณภาพสูง ประกอบด้วยแสงสว่างจากเส้นไยไฟเบอร์ออฟติกที่ร้อยด้วยมือจำนวน 1,344 จุด สะท้อนบรรยากาศท้องฟ้ายามราตรี และมีลูกเล่นดาวตกสีขาวจำนวน 8 ดวง ที่พุ่งผ่านเพดานหลากทิศทาง รวมถึงบริเวณเพดานเหนือที่นั่งด้านหน้า สะท้อนถึงเสน่ห์ของยนตรกรรม ที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับได้เป็นอย่างดี
แบล็ก แบดจ์ คัลลิแนน มอบทางเลือกสำหรับการตกแต่งห้องโดยสารแบบไร้ขีดจำกัด โดยรถคันนี้ใช้หนังแท้สีเหลืองสด ฟอร์จ เยลโลว (Forge Yellow) ซึ่งสามารถนำไปใช้ตามจุดต่าง ๆ ของห้องโดยสารได้ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็น ที่นั่งชมวิว (Viewing Suite) หรือบริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระ Recreation Module ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
องค์ประกอบสุดท้ายที่เติมเต็มห้องโดยสาร ได้แก่ สัญลักษณ์อินฟินิตี ที่ปักลงบนที่พักแขนแบบพับได้บริเวณเบาะหลัง สัญลักษณ์อันเรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้ ยังถูกใช้สลักบนแผ่นโลหะเรืองแสง และบนกรอบโลหะสีเข้มของนาฬิกา ซึ่งปลายเข็มนาฬิกาสีแดงและหน้าปัด ล้วนสะท้อนถึงพลังอันน่าเกรงขาม
Rolls-Royce Cullinan Black Badge 2020 (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน แบล็ก แบดจ์ 2020) : สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา
สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) ด้วยโครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมของ โรลส์-รอยซ์ ที่เปิดตัวพร้อม แฟนธอม เจเนอเรชัน ล่าสุด จุดเด่นคือ ความแข็งแกร่งแต่ยืดหยุ่น รองรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และเลี้ยว 4 ล้อ พร้อมปรับแต่งใหม่ เพื่อให้ แบล็ก แบดจ์ คัลลิแนน มีสมรรถนะไร้เทียมทาน
สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา ถูกออกแบบให้ลงตัวกับรถหลากขนาดและหลายระบบขับเคลื่อน เมื่อผู้ขับกดปุ่ม ‘Low’ บริเวณคันเกียร์ ก็จะสามารถสัมผัสเทคโนโลยีของ แบล็ก แบดจ์ คัลลิแนน ได้อย่างเต็มรูปแบบ
ศักยภาพของเครื่องยนต์เบนซิน ทวินเทอร์โบ V12 สูบ 6.75 ลิตร ผ่านการปรับแต่งเพิ่มกำลังจากรุ่นปกติ 29 แรงม้า รวมเป็น 592 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร พร้อมติดตั้งระบบไอเสียแบบใหม่ ป่าวประกาศการมาถึงของ แบล็ก แบดจ์ คัลลิแนน ด้วยเสียงคำรามหนักแน่นและทรงพลัง ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ควบคุมผ่านดาวเทียม (Satellite Aided Transmission) พร้อมช่วงล่างถุงลมที่นุ่มนวลดุจพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) และมีการทรงตัวที่ดี ในทุกสภาพเส้นทาง และแน่นอนว่าความสมบูรณ์แบบย่อมมีราคาของมัน
Rolls-Royce Cullinan Black Badge 2020 (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน แบล็ก แบดจ์ 2020) จึงมีราคาเริ่มต้น 37.8 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาผู้ครอบครองรถ RR มักเลือกจ่ายเพื่อสั่งตกแต่งเพิ่มเติมในแบบที่ต้องการแทบทั้งสิ้น
ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ ๆ ได้ที่นี่