MG3 ซิตี้คาร์
วันนี้เราจะพาไปดูกันถึงข้อดีของรถรุ่นนี้กันบ้างดีกว่า ว่ารถยนต์จากค่ายน้องใหม่ในประเทศไทยรุ่นนี้มีข้อดีอะไรบ้าง เผื่อใครที่กำลังสนใจรถรุ่นนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่งป้ายแดงหรือมือสองสภาพดีจะได้นำไปช่วยตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยเห็นรุ่นนี้กันมาบ้างแล้วตามท้องถนน ด้วยจำนวนยอดขายก็ใช่ว่าจะขี้เหร่ แต่ก็มีบ้างที่มีเสียงจากปัญหาของผู้ใช้ต่างๆ นานาทั้งเรื่องเกียร์แบบ SeleMatic ไม่เหมือนชาวบ้านทำให้มีเสียงบ่นเรื่องการใช้งานของผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับเกียร์ประเภทนี้ การบริโภคน้ำมันมากกว่าจะเป็นเพราะเครื่องยนต์สิ้นเปลืองหรือเพราะว่าน้ำหนักของตัวรถที่หนักกว่ารุ่นอื่นๆ
หรือจะเรื่องดราม่าต่างๆ ทั้งการรออะไหล่หรือศูนย์บริการ แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ถ้าเป็นจากค่ายดังก็คงโดนด่าสักพักแล้วเงียบไปครับ แต่ด้วย MG เป็นค่ายใหม่จึงเป็นที่จดจำกันได้มากกว่า ใครๆ ก็ยังไม่รักมากเท่าไร ยังต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะครับ ถ้าพัฒนาอยู่เสมอก็อยู่ได้แต่ถ้าไม่ปรับปรุงก็พับหมอนเก็บเสื่อกลับกันไปหลายค่ายแล้ว มีกันให้เห็นเยอะในอดีต
เราไปดูกันดีกว่าว่า
MG3 รุ่นนี้มีดีอะไรที่น่าใช้บ้าง
เป็นแบรนด์ยุโรป (แม้เจ้าของใหม่จะเป็นจีนไปแล้ว)
MG ค่ายรถของอังกฤษแต่ถูกทางจีนซื้อไป และกลุ่มทุนยักใหญ่จากไทยอย่าง CP ก็ได้จับมือกับทางค่ายเพื่อนำรถรุ่นนี้มาผลิตและจัดจำหน่ายในไทย แม้จะมีหลายคนแย้งว่า MG ก็แค่รถจีนไปแล้วคุณภาพก็คงไม่ต่างกับของจีนที่เราๆ ต่างกัน แต่อย่าลืมครับว่าแม้จะถูกซื้อไปแต่ว่าการควบคุณภาพต่างๆ ก็ยังคงต้องเป็นไปตามมาตฐานของค่ายอยู่ ไม่อย่างนั้นรถ Volvo คุณภาพก็คง ตกต่ำเหมือนกันหรือ ? เพราะก็ถูกกลุ่มทุนจากจีนซื้อไปเช่นกันแต่ Volvo กลับยิ่งพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ และเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลกมากขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งตัดสินครับว่ารถที่ถูกซื้อไปจากไหน แล้วตัวตนของค่ายนั้นจะต้องเปลี่ยนไปเสมอ
แม้จะเปลี่ยนเจ้าของแต่การควบคุมคุณภาพยังอยู่ภายใต้ความเป็น MG
ราคาน่าสนใจ ยิ่งมือสองยิ่งน่าซื้อ
เครื่องยนต์และขนาดตัวของ MG3 ได้ถูกวางไว้เพื่อสู้ศึกกับรถขนาด B-Segment แต่จุดเด่นของรถรุ่นนี้คือเรื่อง “ราคา” ที่ทาง MG ประเทศไทยทำมาถูกกว่าคู่แข่งซิตี้คาร์หลายๆ ค่ายทั้งที่เป็นแบรน์จากยุโรป เหมือนเป็นการแนะนำให้รุ้จักรถในค่ายนี้ด้วยการดึงดูดด้วย “ราคา” ทำให้หลายๆ คนที่กำลังตัดสินใจซื้อต้องคิดถึง MG3 สักนิดก่อนตัดสินใจซื้อรุ่นอื่น ยิ่งถ้ามองรถในแบบมือสอง รถรุ่นนี้ก็ยิ่งเข้าข่ายน่าซื้ออีกรุ่นทั้งยังไม่เก่ามาก ทั้งราคาถูกกว่าป้ายแดงจากการสำรวจราคาใน
Chobrod.com ของรุ่น MG3 มือสองจะเริ่มต้นที่ประมาณ 3 แสนต้นๆ เท่านั้น ได้รถปีไม่เก่ามาก ลองเลือกคันที่สภาพดีๆ รับรองว่าประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะครับ
MG3 มือสองสภาพน่าใช้ราคาเริ่มต้นที่ 3 แสนต้นๆ เท่านั้น
ออฟชั่นแน่น
กับราคารุ่นท็อปหรือรองท็อป MG3 ที่แทบจะเท่ากับราคารุ่นตัวโลว์หรือราคาเริ่มต้นของรถจากค่ายๆ ใหญ่ๆ อย่าง
Honda Jazz หรือ
Mazda 2 อุปกรณ์ต่างๆ เช่น Sunroof แอร์ดิจิตอล กุญแจนิภัยแบบ Immobilizer เบาะหนัง อาจไม่มีในตัวโลว์ของบางรุ่นแต่
MG3 มีมาให้ครบ
งานออกแบบที่ใครๆ ไม่เข้าใจ
เรื่องนี้อาจจะอยู่ที่แต่ละคนจะมอง ว่าชอบหรือไม่ มีหลายเสียงที่ชื่นชมภายนอกการออกแบบของรถรุ่นนี้ที่ดู “ตะมุตะมิ” น่ารักแต่พอเข้าข้างในห้องโดยสารกลับดึงอารมณ์ให้ต้อง “เซ็ง” ด้วยการออกแบบที่ดูเรียบ “เกินไป” ซึ่งก็ต้องแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน แต่อย่าลืมว่า MG3 นี้เป็นรถจากค่ายอังกฤษ ที่ไม่ได้ขึ้นชื่อด้านการออกแบบรถที่ทันสมัยอะไรมากนัก และรุ่นนี้ก็จำหน่ายในอังกฤษด้วยเช่นกันซึ่งผมมองว่าบ้านเมืองเขาเน้นการออกแบบภายในให้ดูเรียบๆ มากกว่า เมื่อนำมาขายที่ไทย ที่รถรุ่นต่างๆ แข่งขันด้านการออกแบบให้ทันสมัยหรูหรา หลายคนก็เลยเอาไปเปรียบเทียบกับหลายๆ รุ่นที่ขายอยู่ในบ้านเรา
ภายในดูเรียบๆ อาจยังไม่โดนใจแต่ใช่ว่าจะขี่เหร่ แถมออฟชั่นก็จัดเต็มในราคาที่คุ้มกว่า
ช่วงล่างแน่นหนึบ
ช่วงล่างของ MG3 เป็นซิตี้คาร์ขนาด B-Segment ที่สามารถนำไปขับออกต่างจังหวัดได้แบบสบายๆ ไม่ต้องกลัวแกว่งยามที่รถบรรทุกขับผ่านหรือสวนทางมา ด้วยช่วงล่างที่แน่นหนึบและนุ่มนวล จนสามารถเทียบชั้นกับรถขนาด C-Segment เลยก็ว่าได้ การเข้าโค้งในความเร็วสูงรถยังนิ่ง ไม่มีแถ พวงมาลัยทำงานด้วยระบบไฮดรอลิกจะหนืดๆ กว่าแบบไฟฟ้าแต่จะมีประโยชน์เมื่อรถใช้ความเร็วสูง พวงมาลัยของคุณก็จะไม่เบาหวิวเกินไปจนอาจทำให้เกิดอันตรายได้
ตัวแข่ง MG3 ใน MG3 TROPHY CHAMPIONSHIP CONCEPT ที่อังกฤษ
ทั้งหมดนี้คือข้อดีน่าใช้ของ MG3 ที่คัดมาแบบเนื้อๆ ให้เห็นกันส่วนใครจะนำไปหักลบกับข้อด้อยต่างๆ ของรุ่นนี้เพื่อให้ได้ผลออกมาว่า รถรุ่นนี้คุ้มกับการที่ต้องเสียเงินซื้อรถสักคันมาใช้งานตรงความต้องการของคุณหรือไม่ ไม่ว่าจะมือหนึ่งและมือสอง ถ้าข้อดีของรุ่นนี้โดนใจคุณทุกข้อและข้อด้อยคุณยอมรับได้ รถรุ่นนี้ก็อาจจะเป็นรถคันต่อไปของคุณก็ได้ ใครจะไปรู้ ลองตัดสินใจเลือกดูครับ