MG eHS 2021 ปลั๊ก-อิน ไฮบริด พร้อมเปิดตัวในไทยปลายปีนี้ ไม่เน้นยอดขาย ขอแค่เข้าไปนั่งอยู่ในใจคนรุ่นใหม่ได้ก็พอ ส่วนใครพอใจกับของเดิม ๆ บนความไม่เสี่ยงไม่ว่ากัน
เกียมตัวเลย...ชัวร์แล้วนะจ้ะ MG eHS 2021 รถ SUV ปลั๊ก-อิน ไฮบริด เตรียมเปิดตัวปลายปี 2563 โดย MG ประเทศไทย เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ว่า “ไม่หวังยอดขาย” กับรถรุ่นนี้มากมายอะไรนักหรอกนะ จริง ๆ ก็คงแค่อยากเอามาเสริมภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ ที่มักนำเสนอเทคโนโลยีและฟีเจอร์เอาใจลูกค้าเจเนอเรชั่นใหม่เพื่อขอเข้าไปนั่งในใจก็พอ เพราะอะไรน่ะเหรอ...เพราะรู้ว่าเจ้าของตลาดเดิมเค้าชอบหวงของ หวงเทคโนโลยียังไงล่ะ
ถ้าพวกเธอหวง...ฉันก็จะให้ และไม่ว่าเบอร์ใหญ่ค่ายญี่ปุ่นจะมีเทคโนโลยี PHEV เหนือชั้นมากแค่ไหน แต่จะมีประโยชน์อะไรหากไม่มีโอกาสได้ใช้ ซึ่งทันทีที่ MG eHS 2021 เปิดตัว น่าจะกลายเป็นรถ SUV ปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นแรกที่ไม่ใช่แบรนด์พรีเมียม (เช่น BMW, Mercedes-Benz หรือ Volvo) และมีราคาต่ำสุดในไทยให้คนจดจำ
เพราะ MG eHS ของจีนมีราคาเริ่มต้น (หลังหักเงินสนับสนุนจากภาครัฐฯ แล้ว) เพียง 189,800 หยวน (ประมาณ 8.66 แสนบาท) ขณะที่ MG HS เกียร์อัตโนมัติ เริ่มต้นที่ 119,800 หยวน (ประมาณ 5.47 แสนบาท) ส่วน MG HS ไทย ราคาเริ่มต้น 919,000 บาท ดังนั้น MG eHS น่าจะเปิดราคาในไทยแถว ๆ 1.29 ล้านบาท
ราคา MG eHS PHEV ในจีน เริ่มต้น 8.66 แสนบาท
MG HS ในไทยตอนนี้ รุ่นท็อปตั้งไว้ที่ 1.119 ล้านบาท
MG eHS Plug-in Hybrid
MG HS รุ่นปกติที่จำหน่ายในไทย
แม้ดีไซน์ภายนอก-ภายใน แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกัน แต่บางจุดของ MG eHS (จีน) ก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่น ล้ออัลลอยลาย Y-Spoke ขนาด 18 นิ้ว ส่วนสีตัวถังภายนอกมีให้เลือกเพียง 3 สี ได้แก่
ขณะที่ภายในห้องโดยสาร ลดความร้อนแรงของโทนสี มีให้เลือก 2 แบบ สกิมสีต่างกัน คือ
จุดขายของ MG eHS ไม่ใช่เพียงแค่การเป็นรถ SUV ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่มีราคาพอให้มนุษย์ธรรมดาเอื้อมถึงได้ แต่เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ขนาด 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง พร้อมเกียร์ไฟฟ้า (EDU) ที่ส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากจะให้กำลังสูงสุดถึง 291 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ช่วง 1,700-4,300 รอบ/นาที แล้ว
ขุมพลังไฮบริด MG เคลมไว้ 291 แรงม้า 480 นิวตันเมตร แต่ประหยัดมาก
เกียร์ไฟฟ้า 10 สปีด พร้อมเทคโนโลยี Kinetic Energy Recovery System (KERS)
MG eHS ยังสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลสูงสุดถึง 75 กม. มีระบบ KERS ช่วยแปลงพลังงานจากการเบรกเพื่อชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ได้ และเคลมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงไว้ว่า เติมน้ำมัน 1 ลิตร วิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตร (ไม่รู้ทดสอบด้วยมาตรฐานไหน รอ EcoSticker ของไทยอีกทีแล้วกัน)
แบตเตอรี่ลิเธียม ขนาด 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
>> ลองดูประกาศ ขายรถ Toyota Fortuner
ถึงใครจะมองว่า MG เป็นรถจีน ยังมีปัญหาให้ต้องแก้และมีความน่าเชื่อถือให้ต้องสร้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า MG ทำให้เบอร์ใหญ่สะเทือนได้ไม่น้อย เพราะเบอร์ใหญ่มาก่อน มีก่อนแต่ไม่ให้ พยายามตีกรอบทางเลือกผู้บริโภคว่าไม่จำเป็น เจอ MG เข้าไปต้องรีบคายออกมาแทบไม่ทัน
หลังคา Panoramic Glass Roof ให้มาใช้ก่อนเจ้าตลาด ในราคาเบา ๆ เป็นอะไรที่คนรุ่นใหม่ชอบ
ฟีเจอร์ไฮเทครองรับทุกการเชื่อมต่อ "ของมันต้องมี" แม้จะติด ๆ ขัด ๆ บ้าง แต่ก็มีแหละนะ
ไม่ว่าจะมูนรูฟ/กลาสรูฟก็ดี i-Smart ก็ดี ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าก็ดี ของเหล่านี้ค่ายรถเบอร์ใหญ่เคยมองว่า รถราคาต่ำไม่ควรได้ ไม่ต้องใช้ ไม่จำเป็น ความพอใจของผู้บริโภคยุคเดิมคือการไม่ต้องเสี่ยง (แต่หลัง ๆ ก็เห็นเริ่มให้มาได้เหมือนกันแล้วนี่) แต่กับคนรุ่นใหม่ Gen Z จนถึง Gen Alpha ซึ่งกล้าลอง ลองแล้วไม่ดีลองใหม่ กล้าได้กล้าเสีย
เช่นเดียวกับ MG ที่ไม่ได้คิดตามตำรา (เก่า) พร้อมมอบทุกความหวือหวา สิ่งที่คนรุ่นใหม่ถามหาและไม่ได้จากเจ้าตลาด สิ่งเหล่านั้นเองทำให้เรารู้สึกว่ารถจีนน่ากลัว ใช่รถจีนยังไม่เพอร์เฟกต์ตอนนี้หรอกเราไม่เถียง แต่รู้ใจ อยากได้อะไรไม่ขัดใจก็แล้วกัน...โอเคนะ
อ่าน Toyota Yaris Ativ/ Yaris ใหม่ พร้อมสวยด้วยชุดแต่ง ผ่อนเพิ่มแค่หลักร้อย
ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตาม รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตาม ราคารถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่