Mercedes Benz GLC 2023 เจเนอเรชั่นใหม่ ประเดิมขุมพลังปลั๊กอิน 350e 4MATIC AMG Dynamic ราคา 4.18 ล้านบาท

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 11 ส.ค 2566
แชร์ 1

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ทำการเปิดตัวและประกาศราคาจำหน่าย Mercedes Benz GLC เจเนอเรชั่น 3 ใหม่ รหัสตัวถัง X254 เปิดจำหน่ายในไทยรุ่นแรก Mercedes Benz GLC 350e 4MATIC AMG Dynamic ปี 2023 ขุมพลังปลั๊กอิน ที่มาพร้อมสมรรถนะพร้อมลุยออฟโร้ดในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน Mercedes Benz GLC 350e 4MATIC AMG Dynamic ตั้งราคาจำหน่าย 4,180,000 บาท

Mercedes Benz GLC 350e 4MATIC AMG Dynamic

Mercedes Benz GLC 2023 เจเนอเรชั่น 3 รหัสตัวถัง X254 เปิดจำหน่ายในไทยรุ่นเดียว

Mercedes Benz GLC 350e 4 MATIC AMG Dynamic ราคา 4,180,000 บาท

Mercedes Benz GLC 350e 4 MATIC AMG Dynamic มีให้เลือก 6 สี

  • สีขาว (Polar White)
  • สีน้ำเงิน (Nautic Blue)
  • สีเทา (Graphite Grey)
  • สีเงิน (Mojave Silver)
  • สีเงิน (High-tech Silver)
  • สีดำ (Obsidian Black)

Mercedes Benz GLC 350e 4MATIC AMG Dynamic

Mercedes Benz GLC 350e 4 MATIC AMG Dynamic ปลั๊กอินไฮบริด ที่ลุยออฟโร้ดสุดกว่าที่เคย

 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยเผยโฉม The new GLC เอสยูวียอดนิยมของแบรนด์ที่เดินทางมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวรุ่นปลั๊กอินไฮบริด GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic ขึ้นไลน์ผลิตในประเทศแบบ Local production นำเสนอคอนเซ็ปต์ READY FOR IT

Mercedes Benz GLC 350e 4MATIC AMG Dynamic

Mercedes Benz GLC 350e 4 MATIC AMG Dynamic โดดเด่นด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่มีสมรรถนะดีและสามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้ามากถึง 120 กิโลเมตร พร้อมออกแบบมาใช้งานและการขับขี่ทั้งในรูปแบบ On-Road และ Off-Road

Mercedes Benz GLC 350e 4MATIC AMG Dynamic

Mercedes Benz GLC 350e 4 MATIC AMG Dynamic มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า มอบกำลังรวม 313 แรงม้าและแรงบิด 550 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.7 วินาที ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกล 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

Mercedes Benz GLC 350e 4MATIC AMG Dynamic

รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 60 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10 – 80% เพียง 20 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที คือจุดเด่นมาก ๆ ทำให้เสียบชาร์จเพียงครู่เดียวก็ไปต่อได้

Mercedes Benz GLC 350e 4MATIC AMG Dynamic

GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงมากมาย เช่น ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE, ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light), ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) พร้อมระบบแจ้งเตือนก่อนออกจากรถแบบ exit warning, ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ, ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร, ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system) และระบบ OFF-ROAD Engineering Package

Mercedes Benz GLC 350e 4 MATIC AMG Dynamic รับประกันคุณภาพของแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery)เวลา 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง (Unlimited mileage 10-year warranty for HV Battery)

มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2023 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำยอดขายรวมทั้งสิ้น 1,019,200 คันทั่วโลก มีอัตราการเติบโตที่ 5% โดยส่วนหนึ่งคือยอดขายในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำตัวเลขสูงถึง 102,600 คัน เติบโตกว่า 121% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และสำหรับยอดขายในประเทศไทย มีการเติบโตกว่า 6% ปิดยอดจดทะเบียนครึ่งปีแรกได้กว่า 7,700 คัน เป็นผลมาจากการนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ลงตลาดอย่างต่อเนื่อง

โดยในปีนี้นับเป็นก้าวสำคัญของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการเดินหน้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าด้วยการเติมเต็ม EV Portfolio ในประเทศไทย ต่อเนื่องจาก 2 รุ่นแรกอย่าง EQS และ EQB เรามีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมกัน 2 รุ่น ในอีก 6 สัปดาห์นับจากนี้ และในปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดให้เครือข่ายผู้จำหน่ายฯ สามารถจำหน่ายและให้บริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ครอบคลุมมากกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ ยกระดับความสะดวกสบายให้ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของและเข้ารับบริการแบบครบวงจรได้ในทุกพื้นที่

The new GLC เป็นอีกขั้นของยนตรกรรมเอสยูวีที่สืบทอดดีเอ็นเอมาจาก Mercedes-Benz GLK ที่เปิดตัว ในปี 2008 ซึ่งถือเป็นเจเนอเรชั่นแรกของรถเอสยูวีขนาดกลางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก่อนที่จะต่อยอดมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ในปี 2015 ภายใต้ชื่อ Mercedes-Benz GLC เอสยูวีที่ถูกพัฒนาและปรับโฉมให้มีทั้งความหรูหรา ความสปอร์ตและดีไซน์ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยที่ยังคงจุดแข็งในด้านของการเป็นรถเอสยูวีที่เหมาะกับการขับขี่ทั้งในรูปแบบ On-Road และ Off-Road ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย จนทำให้ GLC ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายรวมกว่า 2,600,000 คันทั่วโลกขึ้นแท่นเป็นโมเดลที่ขายดีที่สุดตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และในปีนี้ The new GLC เจเนอเรชั่นที่ 3 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ด้วยขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริด โดยขึ้นไลน์ผลิตในชื่อรุ่น GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic

มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

The new GLC โมเดลปี 2023 เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ในตระกูลเอสยูวีขนาดกลางของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “READY FOR IT” วางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล ที่มองหารถเอสยูวีระดับลักชัวรี่ พร้อมนำเสนอยนตรกรรมที่มีความเพียบพร้อมและสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในชีวิตประจำวันหรือการขับขี่ระยะทางไกล ครอบคลุมทั้งรูปแบบ On-Road และ Off-Road

โดยเปิดตัวในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ตามปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity ผสานความสปอร์ตและความหรูหราอย่างลงตัว ติดตั้งเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 ที่ยกระดับการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้มีสมรรถนะที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้แบตเตอรี่แรงดันสูงที่มีความจุ 31.2 kWh ซึ่งสามารถมอบระยะทางการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้มากถึง 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP

เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเจเนเรชั่นล่าสุดจะรองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าทั้งแบบ DC Charge สูงสุด 60 kWh และ AC Charge สูงสุด 11 kWh นอกจากนี้ GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic ยังเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยทั้งในด้านของฟังก์ชันอำนวยความสะดวก ระบบการเชื่อมต่อและการสื่อสารที่เหนือระดับ ระบบความปลอดภัยขั้นสูง ที่ถูกติดตั้งมาอย่างครบครัน พร้อมให้ทุกคนเป็นเจ้าของหนึ่งในยนตรกรรมเอสยูวีที่ดีที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ”

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ