LEXUS UX 250h ปี 2022 ไมเนอร์เชนจ์ เพิ่มสีใหม่ ปรับอุปกรณ์ ราคาเริ่ม 2,540,000 บาท

LEXUS UX 250h ปี 2022 ไมเนอร์เชนจ์มี 3 รุ่นย่อย 

• LEXUS UX 250h Luxury 2,540,000 บาท
• LEXUS UX 250h Grand Luxury 2,740,000 บาท
• LEXYS UX 250h F SPORT AWD 3,670,000 บาท

โดยราคาจำหน่ายในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ เพิ่มขึ้นจากราคาเดิม 5 หมื่นบาทในทุกรุ่นย่อย

อ่านเพิ่มเติม - Nissan Almera Sportech-X 2022 รุ่นลิมิเต็ด 300 คัน ราคา 695,000 บาท

LEXUS UX 250h ปี 2022 ไมเนอร์เชนจ์ 12 สีตัวถัง 3 ภายใน

• Sonic Iridium (สีใหม่)
• Sonic Titanium
• Sonic Chrome
• Black
• Graphite Black Glass Flake
• Madder Red
• Blazing Carnelian Contrast Layering
• Terrane Khaki Mica Metallic
• Celestial Blue Glass Flake
• White Nova Glass Flake (เฉพาะรุ่น F SPORT)
• Heat Blue Contrast Layering (เฉพาะรุ่น F SPORT)
• Sonic Quartz (เฉพาะรุ่น Luxury และรุ่น Grand Luxury)

สีภายใน                        

• Black                                
• ใหม่สี Hazel (เฉพาะรุ่น Luxury และรุ่น Grand Luxury)        
• Flare Red (เฉพาะรุ่น F SPORT)                    

LEXUS UX 250h ปี 2022 ไมเนอร์เชนจ์ อุปกรณ์เพิ่มขึ้น

สำหรับ LEXUS UX 250h เป็นรถในกลุ่ม B-SUV แบบ 5 ที่นั่ง ตัวรถนำเข้าทั้งคัน CBU มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เฉียบคม การออกแบบที่สะท้อน "ความปราณีต และความพิถีพิถัน" หรือ "Takumi Craftsmanship" ผสานความงดงามแห่งศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่น กับเทคโนโลยีการผลิต ละเมียดละไมในทุกรายละเอียด

วัสดุบริเวณแผงคอนโซลหน้าที่เรียกว่า Washi ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากงานกระดาษซึ่งเคยใช้ในบ้านญี่ปุ่นสมัยโบราณ ลายเบาะใหม่ที่ถูกถักทอแบบ Sashiko ที่ได้แรงบันดาลใจจากความแข็งแกร่งของเสื้อยูโด การออกแบบภายในยังให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นจุดศูนย์กลาง สอดคล้องตามหลักสรีศาสตร์ ทำให้ทุกการควบคุมเป็นไปได้อย่างง่ายดาย

ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ มีสีภายนอกใหม่ Sonic Iridium และปรับปรุงอุปกรณ์หน้าจอ Touch Screen ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ที่รองรับระบบ Apple Car Play แบบไร้สาย และช่องเสียบ USB-C 2 จุดบริเวณด้านหน้า

ขุมกำลังของ LEXUS UX 250h เครื่องยนต์ระบบไฮบริด 2.0 ลิตร กำลัง 146 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตันเมตร ที่ 4,400-5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet กำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

สถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-C (Global Architecture-Compact Platform) ที่มีการใช้ Aluminum เข้ามาเป็นองค์ประกอบของตัวรถ ส่งผลให้ได้ตัวถังที่มีน้ำหนักเบา และแข็งแกร่ง จุดศูนย์ถ่วงต่ำ มีการทรงตัวดีเยี่ยม

ในการผลิตใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อตัวถังด้วยระบบเลเซอร์อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ LEXUS โดยในรุ่นปรับปรุงใหม่นี้ได้มีการเพิ่มจุดเชื่อมให้มากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้มีเสถียรภาพ และความนุ่มนวลในการขับขี่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม มอบความสะดวกสบาย และเพลิดเพลินในการขับขี่ได้อย่างเต็มที่ เทคโนโลยีความปลอดภัย LEXUS Safety System Plus

ในรุ่น F SPORT ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA จาก Sport Supercar อย่าง LEXUS LFA โดดเด่นด้วยชุดแต่งรอบคัน และเบาะนั่งดีไซน์เฉพาะของ F SPORT ให้ความรู้สึกโอบกระชับ รองรับทุกสรีระ

มีฟังก์ชันระบบ Active Sound Control และระบบกันสะเทือนแบบแปรผัน (Adaptive Variable Suspension) ที่ช่วยควบคุมการดูดซับแรงของโช้คอัพทั้งสี่ล้อ ตอบสนองต่อการควบคุมของผู้ขับขี่และสภาพพื้นผิวถนนได้เหมาะสม

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า 

“ภายใต้ปรัชญาการให้บริการของ LEXUS ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด และต้องการที่จะส่งมอบบริการที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า LEXUS ได้คำนึงถึงความปลอดภัย และความสะดวกสบายของลูกค้าทุกท่านมาเป็นอันดับแรก จึงขอมอบบริการ LEXUS AT HOME SERVICE ที่พร้อมดูแลคุณถึงที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งรถทดลองขับ บริการรับ-ส่งรถเข้าศูนย์ และบริการส่งมอบรถยนต์ใหม่ถึงบ้านลูกค้าอีกด้วย”

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ