Koenigsegg (เคอนิกเส็กก์) สุดยอดแบรนด์รถไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงสัญชาติสวีเดนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย ส่งรถ 2 รุ่น เข้าทำตลาด Koenigsegg Jesko Absolut และ Koenigsegg Gemera เผยราคานำเข้าแบบ CBU เป็นค่าเงินยูโรที่ 2.998 ล้านยูโร
Koenigsegg (เคอนิกเส็กก์ แบรนด์รถไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงสัญชาติสวีเดน ร่วมกับ บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) นำโดย อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ และ ศักดิ์ นานา กรรมการ จัดงาน “Koenigsegg Bangkok: The Ultimate Performance” เปิดบ้านในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
นาย กีกี้ ศักดิ์ นานา กรรมการ บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด
เฉลิมฉลองกับอีกก้าวประวัติศาสตร์ของ เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) เมื่อ Koenigsegg Automotive AB (เคอนิกเส็กก์ ออโตโมทีฟ เอบี) ประกาศแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายไฮเปอร์คาร์ เคอนิกเส็กก์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เผยโฉมที่สุดแห่งนวัตกรรมไฮเปอร์คาร์ 2 รุ่น มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท อย่าง Koenigsegg Gemera Mega-GT สี่ที่นั่งคันแรกของโลก (The World’s First Mega-GT and Koenigsegg’s First For Four) และ Koenigsegg Jesko Absolut ไฮเปอร์คาร์ที่เร็วและแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Koenigsegg (The Fastest Koenigsegg Ever - Forever)
มร.คริสเตียน ฟอน เคอนิกเส็กก์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Koenigsegg Automotive AB กล่าวว่า “รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย เข้าสู่ครอบครัว “Koenigsegg” อย่างเป็นทางการ – สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญของรถยนต์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่แบรนด์ระดับท็อปของโลกต่างให้ความสนใจ ประกอบกับศักยภาพของ เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย และบริษัทในเครือภายใต้การบริหารของ อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ที่สั่งสมประสบการณ์ในแวดวงยานยนต์มาอย่างยาวนาน ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงทำให้ผมเชื่อมั่นอย่างมากว่า “Koenigsegg” สามารถเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ได้อย่างมั่นคงและมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นทั้งในตลาดเมืองไทยและในภูมิภาค”
นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด
อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย ที่พิสูจน์ตัวเองถึงความเป็นโปรเฟสชั่นแนลในอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ขณะที่ “Koenigsegg” เองก็เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนทั่วโลกมาโดยตลอดในเรื่องการสร้างไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูง ผมจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับแต่งตั้งจาก Koenigsegg Automotive AB ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายไฮเปอร์คาร์ เคอนิกเส็กก์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย(Koenigsegg Bangkok) เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ยากจะมีใครได้สัมผัสให้แก่ลูกค้าแบบรอบด้าน เสมือนไปเยือนบ้านของ “Koenigsegg” ที่เมือง Ängelholm ประเทศสวีเดน ด้วยตนเอง”
ภายในงานยังได้ดื่มด่ำกับที่สุดแห่งนวัตกรรมไฮเปอร์คาร์หาชมยาก ! ถึง 2 รุ่น ที่เดินทางข้ามทวีปมาสร้างความตื่นเต้นให้กับคุณถึงกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรก
Koenigsegg Gemera (เคอนิกเส็กก์ เกเมร่า)
สามารถรองรับสรีระของผู้ใหญ่ได้ถึง 4 ที่นั่งและยังสามารถเก็บกระเป๋าสัมภาระได้ถึง 4 ใบ ทั้งยังมาพร้อมที่วางแก้วถึง 8 จุด จอแสดงผลข้อมูลต่าง ๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จุดชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบ Apple CarPlay ลำโพง 11 จุด และระบบเบาะปรับด้วยไฟฟ้าซึ่งช่วยให้ทุกการเดินทางเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย
ขุมกำลังของ Koenigsegg Gemera คือเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีชื่อเรียกว่า “Tiny Friendly Giant (TFG)” มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 มอเตอร์ มอบพละกำลังสูงสุด 1,700 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดที่ 3,500 นิวตันเมตร ช่วยให้ Gemera ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.9 วินาทีเท่านั้น
ด้านเทคโนโลยีช่วยเหลือในการขับขี่ของ Gemera นั้นได้ติดตั้งทั้งระบบเลี้ยวล้อหลังและระบบกระจายแรงบิดเพื่อมอบการควบคุมที่ฉับไวและมั่นใจยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้ขับขี่พร้อมเผชิญทุกสภาพถนน นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เร้าใจแล้ว Koenigsegg Gemera ยังสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวด้วยความเร็วสูงสุดถึง 300 กม./ชม. และระยะเดินทางสูงสุด 50 กม. เมื่อต้องการเดินทางโดยปราศจากมลพิษหรือสามารถขับเคลื่อนในรูปแบบไฮบริด การเติมน้ำมันถูกออกแบบมาให้รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ได้หากต้องใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน เพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุดและมีพิสัยเดินทางไกลสุดถึง 950 กม.
Koenigsegg Gemera นั้นถูกออกแบบด้วยแนวคิดการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งการใช้ในเมืองด้วยความเร็วต่ำและขับขี่บนทางหลวงด้วยความเร็วสูง ด้วยระบบความปลอดภัยตั้งแต่โครงสร้างตัวถังแบบ Carbon Fiber Monocoque ถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบช่วยเหลือการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบเบรก ABS และระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS 2.5 ยิ่งไปกว่านั้นยังมีจุดยึด ISOFIX สำหรับเบาะหลังทั้ง 2 ที่นั่งอีกด้วย
Koenigsegg Gemera (เคอนิกเส็กก์ เกเมร่า) Mega-GT สี่ที่นั่งคันแรกของโลก
ดีไซน์ภายนอกของ Gemera ได้รับการออกแบบประตูใหม่ที่เรียกว่า “Koenigsegg Automated Twisted Synchrohelix Actuation Doors (KATSAD)” ซึ่งสามารถเปิดได้กว้างพอที่ผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลังสามารถเข้ารถไปได้พร้อมกันเลยในเวลาเดียวกันทั้งยังคงรูปลักษณ์แบบรถสปอร์ต 2 ประตู
บริเวณด้านบนประตูนั้นติดตั้งกล้องที่แสดงภาพของรถด้านหลังซึ่งเป็นครั้งแรกของ Koenigsegg ที่นำมาใช้บนรถแทนกระจกมองข้างทั่วไป ล้อขนาด 20 และ 21 นิ้วของ Koenigsegg Gemera ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ล้วน ซึ่งมีน้ำหนักไม่ถึง 9 กิโลกรัมต่อล้อ
ด้านท้ายของ Koenigsegg Gemera ติดตั้งท่อไอเสียจาก Akrapovic ที่เพิ่มความดุดันทั้งด้านรูปลักษณ์และซุ้มเสียงของเครื่องยนต์ที่คำรามพร้อมจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
ภายในของ Gemera อำนวยความสะดวกสบายด้วยเบาะปรับไฟฟ้าแบบ 4 ทิศทางในด้านหน้าแลถูกเสริมด้วยเมมโมรี่โฟมเพื่อรองรับสรีระผู้โดยสารให้สบายยิ่งขึ้นทั้ง 4 ที่นั่ง ผู้โดยสารทั้ง 4 ที่นั่งสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียงความบันเทิงและระบบปรับอากาศได้ด้วยตัวเองพร้อมทั้งยังมีช่องเก็บสัมภาระของแต่ล่ะที่นั่งเพื่อเป็นสัดส่วนอีกด้วย
Koenigsegg Gemera
สำหรับ Koenigsegg Gemera นี้ มีเพียงแค่ 300 คันทั่วโลกเท่านั้น ในประเทศไทยเป็นการสั่งนำเข้าทั้งคันแบบ CBU ตามออเดอร์และคิดราคาจำหน่ายไว้ที่ 2.998 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินบาท ณ วันเปิดตัวที่ 110,370,000 บาท (1 euro / 36.82 บาท)
Koenigsegg Jesko Absolut
และจะไม่ผลิตรถคันไหนที่เร็วและแรงกว่า Koenigsegg Jesko Absolut อีกแล้วในอนาคต ทุกส่วนประกอบของ Koenigsegg Jesko Absolut ถูกออกแบบมาเพื่อลดค่าสัมประสิทธิ์การต้านลมของตัวถังและยังเพิ่มความนิ่งของตัวรถเมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้นอีกด้วย Koenigsegg Jesko Absolut มีค่าสัมประสิทธิ์แรงฉุดของอากาศเพียง 0.278 ด้วยเส้นสายและการออกแบบของตัวรถที่มีความปราดเปรียวและดุดันมากยิ่งขึ้นด้วยครีบฉลามคู่ด้านท้ายที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ F-15
ขุมกำลัง V8 เทอร์โบคู่ ซึ่งสามารถสร้างกำลังสูงสุดได้ที่ 1,600 แรงม้า Koenigsegg Jesko Absolut
ซึ่งตัวครีบฉลามคู่นั้นทำหน้าที่คอยรีดอากาศด้านหลังให้ไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดแรงเฉี่อยจากลมเมื่อต้องวิ่งด้วยความเร็วสูง ดีไซน์ด้านหน้าของ Koenigsegg Jesko Absolut ถูกปรับแต่งให้สามารถเก็บหลังคาได้เพื่อความสะดวกในการใช้งานและจัดเก็บเมื่อต้องการเปิดประทุน
ช่วงล่างของ Koenigsegg Jesko Absolut ถูกปรับแต่งให้มีความนุ่มมากขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สนุกเมื่อขับขี่ในสนามแข่งและยังคงสะดวกสบายเมื่อใช้งานบนถนนสาธารณะ
เครื่องยนต์ของ Koenigsegg Jesko Absolut เป็นเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ ซึ่งสามารถสร้างกำลังสูงสุดได้ที่ 1,600 แรงม้า (เมื่อใช้เชื้อเพลิง E85) และยังสามารถลากรอบได้ถึง 8500 รอบต่อนาที ตัวเครื่องยนต์ถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบส่งกำลังแบบใหม่ที่ถูกพัฒนาและผลิตโดย Koenigsegg เอง
ระบบส่งกำลังของ Koenigsegg Jesko Absolut เป็นแบบ 9 จังหวะที่เรียกว่า “Light Speed Transmission (LST)” ซึ่งมาพร้อมกับระบบ “Ultimate Power On Demand (UPOD)” ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์สามารถตอบสนองได้ใกล้เคียงความเร็วของแสงพร้อมทั้งยังมีขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบาเพียง 90 กิโลกรัมเท่านั้น
สำหรับราคาจำหน่าย Koenigsegg Jesko Absolut จะเปิดเผยในภายหลัง
Koenigsegg ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 จากปณิธานอันแน่วแน่ของเด็กหนุ่มวัย 22 ปี ที่ต้องการสร้างรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบโดยไร้ขีดจำกัด อย่าง Christian von Koenigsegg (มร.คริสเตียน ฟอน เคอนิกเส็กก์) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Koenigsegg Automotive AB โดยทุกรายละเอียดองค์ประกอบของรถจะต้องทำงานร่วมกันอย่างลงตัวเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด (Ultimate performance)
ทุกขั้นตอนตั้งแต่การผลิตโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ไปจนถึงการตกแต่งภายในของ “Koenigsegg” ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยมือ รถทุกคันจึงเปรียบดั่งงานศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ สร้างขึ้นตามมาตรฐานสูงสุดของแบรนด์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกรายละเอียด ขณะที่ความล้ำสมัยทางนวัตกรรมก็เป็นที่ขึ้นชื่อ โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมาแบรนด์เดินหน้าเปิดตัวและจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะได้เห็นการทำลายสถิติโลกอย่างต่อเนื่องในรถหลากหลายรุ่น
ตรวจเช็ก ราคารถยนต์มือสอง หาที่ถูกใจได้ง่าย มีให้เลือกเพียบ