ด้านรูปลักษณ์ปละการออกแบบภายนอก ในส่วนของด้านหน้า คงรูปทรงสปอร์ต สวยงามตามแบบรุ่นซีดาน เพิ่มเติมช่วงท้ายที่เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ได้รับการออกแบบโดย Ian Callum ผู้ที่เคยวาดแอสตัน มาร์ติน และ จาร์กัวร์ ออกมาแล้วหลายรุ่นด้วยกัน
Jaguar XF Sportbrake
Jaguar XF Sportbrake มาพร้อมแนวหลังคาตั้งตรงสำหรับสัมภาระทรงสูง ออกแบบให้กระจกท้ายลาดเอียงลง และเปลี่ยนไฟท้าย มีหยักล่างเล็กน้อยแบบรถสปอร์ตรุ่น
F-type เพื่อคงความสปอร์ตที่ลงตัว
Jaguar XF Sportbrake
เรียกได้ว่า เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของนักออกแบบผู้นี้ และแม้ว่า ตัวถังเป็นแวกอนที่เพิ่มชิ้นส่วนท้ายมากขึ้น แต่ยังคงรักษาการถ่ายเทน้ำหนักหน้าหลังแบบ 50:50 ได้อย่างสมดุลย์และสุดยอดเช่นเดียวกับรุ่นซีดานเลยทีเดียว
>> เลือกซื้อ Jaguar มือสองได้ที่นี่
>> เลือกซื้อ Jaguar XF มือสองได้ที่นี่
ภายในห้องโดยสาร Jaguar XF Sportbrake พร้อมออฟชั่นสุดล้ำ
Jaguar XF Sportbrake ภายในใช้คอนโซลทรงเดิมกับรุ่นซีดาน มีการปรับปรุงโทนสีใหม่ โดยมีให้เลือกระหว่างสีเบจ และสีดำสลับน้ำตาลเข้ม มาพร้อมออฟชั่นสุดล้ำ ไม่ว่าจะเป็น
- จุดเด่นหลัก คือ กุญแจแบบสั่งสตาร์ทได้ ซึ่งมีความเบา เพื่อให้สามารถคล้องข้อมือได้
- ระบบอินโฟนฯกับหน้าจอ 10 นิ้ว ที่สามารถนำมือถือมาเชื่อมและเล่นผ่านทางจอนี้ได้เลย
- เครื่องเสียงชั้นดีจาก Meridian
- ประตูท้ายมีเซนเซอร์เปิดและปิดอัตโนมัติ
- ระบบช่วยขับขี่รักษาอยู่ในเลน
- เบรคอัตโนมัติ พร้อมเตือนจุดบอดเมื่อเปลี่ยนเลน
- กล้องรอบคัน 360 องศา เตือนเมื่อมีสิ่งกีดขวางตัดท้าย
- ระบบช่วยหมุนพวงมาลัยเข้าจอดได้เองอีกด้วย
Jaguar XF Sportbrake
ด้านเครื่องยนต์ ยังคงมาตรฐานเดิมแบบรุ่นซีดาน
-เริ่มต้นด้วยดีเซล 2.0 ลิตร ที่มีความแรงให้เลือก ระหว่าง 163, 180 และ 240 แรงม้า
-ดีเซล V6 3.0 ลิตร ให้กำลัง 300 แรงม้า
-รุ่นเบนซิน เริ่มต้นด้วย 4 สูบ 2.0 ลิตร 250 แรงม้า รวมถึงในตลาดอเมริกา ที่กำลังจะมีเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร ให้กำลัง 380 แรงม้าให้เลือกด้วย
Jaguar XF Sportbrake
Jaguar XF Sportbrake พร้อมทำตลาดแล้วอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มจากยุโรปและประเทศอังกฤษ ส่วนจะไปทำตลาดต่อที่ประเทศไหน คงต้องติดตามกันต่อไป
>> ดูเพิ่มเติม:
All-New Jaguar I-Pace รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย ออกจำหน่ายปี 2018 นี้แน่นอน
Jaguar Land Rover บันทึกสถิติใหม่ ยอดขายทั่วโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์