“Honda HR-V” Crossover SUV ที่น่าใช้ที่สุด กับช่วงเวลาที่กอบโกยขึ้นเป็นเจ้าตลาดและความท้าทายจากคู่ปรับที่กำลังเข้ามา!!

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 28 ส.ค 2560
แชร์ 0

คงปฎิเสธไม่ได้กับรถประเภท Crossover SUV ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดรถเมืองไทย โดยเฉพาะ Honda จ้าวตลาดรถเก๋งของเมืองไทยกับรุ่น HR-V ที่สร้างความฮือฮารวมไปถึงยอดขายที่ยังยั่งยืนยงเป็นอันดับหนึ่งอยู่ ของรถประเภทนี้ในปี 2017

HR-V Crossover SUV
HR-V Crossover SUV ที่ออกมาปฎิวัติวงการรถเมืองไทยอีกหนึ่งรุ่น

ด้วยปัจจัยที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถ

องค์ประกอบที่คนจะซื้อรถใหม่ป้ายแดงสักคันมีมากมายหลายสิ่ง ความแปลกใหม่ที่รถประเภทนี้ Crossover SUV มอบให้กับผู้ซื้อคือสิ่งแรก ที่การใช้งานได้ดีไม่แตกต่างกับรถประเภทเก๋ง

ซีดาน แต่รูปลักษณะภายนอกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง รวมกับโลโก้ “H” ที่ติดอยู่ด้านหน้าของรถ ที่สามารถช่วยมอบความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อได้ในระดับหนึ่งในเรื่องของคุณภาพตัวรถ ศูนย์บริการ อะไหล่ ที่มีมาตฐานและกระจายอยู่ทั่วประเทศ สิ่งเหล่านี้คือคำตอบว่าทำไม HR-V ถึงขายดีเป็นอันดับหนึ่ง เป็นทางเลือกที่สำคัญของสำหรับคนที่หน่ายจะขับรถ Sedan ธรรมดาทั่วไป

เรื่องราคาขายก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ HR-V ผงาดยืนตะหง่านยืดตำแหน่งสูงสุดเหนือคู่แข่งทั้งในค่ายและต่างค่าย กับราคาเริ่มต้นที่ 890,000 บาท ไม่ดูมากไปหรือน้อยไปเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mazda CX-3 ที่ราคาเริ่มต้นที่ 835,000 บาท

>> Mazda CX-3 ปี 2017 ใหม่ เน้นเทคโนโลยีที่ทันสมัย ราคาเริ่ม 835,000 บาท

>> Mazda MX-5 RF ปี 2017 ใหม่ เปิดตัวเรียบร้อยแล้วในไทย เคาะราคาจำหน่าย 2.8 ล้านบาท

Honda HR-V 2017
ยิ่งตอนกำลังวิ่ง ยิ่งสวยลงตัวทุกมุมมอง

ผู้ซื้ออาจจะลำบากใจอยู่ไม่น้อยถ้าจะเทียบ Mazda CX-3 กับการรูปลักษณ์แบบสุดโต่งของความสปอร์ตปราดเปรียว แต่ HR-V กลับมาในแบบเรียบง่าย ไม่ดูล้ำมากเกินไปนัก อยู่ในระดับกลางๆ ที่รับได้ทั้งผู้ใช้รถทั้งวัยกลางคน แต่เมื่อวัยรุ่นขับ แล้วเดินลงมาก็ไม่อายใครเขา

แต่เหตุผลหลักจริงๆ น่าจะเป็นเพราะความเป็น Honda ที่ลูกค้าต่างมอบความไว้วางใจให้มากกว่าค่ายคู่แข่งเพราะนอกจาก HR-V ที่ยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในรถประเภทนี้เป็นผู้นำโด่งไปแล้ว ยังมี BR-V ที่คอยขวางยอดขายคู่แข่งอีกรุ่น สำหรับรองรับผู้ใช้รถที่ต้องการรถประเภทนี้แต่ไม่อยากจ่ายแพง เครื่องแรงน้อยกว่าแต่การใช้งานเทียบเท่า ดีไซน์อาจจะล้ำไม่เท่า HR-V แต่ก็ยังมีความเป็น Honda รับรองให้ แค่ BR-V , CX-3 ยังทำยอดขายแซงขึ้นมาไม่ได้เลย

ความเป็น Honda
เพราะความเป็น Honda ยิ่งทำให้รุ่นนี้ขายดีแบบไม่ทิ้งฝุ่นค่ายคู่แข่ง

และนั่นคือเหตุผลที่ Honda สร้างรถยนต์ที่ดี มีคุณภาพพร้อมทั้งความน่าเชื่อถือ จนกลายเป็นผลดีต่อยอดขาย

ออพชั่นที่สร้างมาตฐานให้กับรถยุคใหม่

การออกแบบภายนอกที่ดึงดูดสายตาให้ต้องมอง HR-V ยังมีสารพัดออพชั่นที่รถยุคนี้ “ควรมี”มาแบบครบๆ ไม่กั๊ก ไม่หวงว่าจำเป็นต้องมีอยู่ในรถซีดานรุ่นพี่ D-Segment ก่อนแล้วค่อยยอมปล่อยส่งต่อให้รถรุ่นเล็กๆ ภายในค่ายตอนไมเนอร์เชนจ์

ระบบเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Brake Hold เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ในเมือง ระบบกระจายแรงเบรกและช่วยควบคุมการทรงตัว ถุงลมนิรภัย กุญแจนิรภัย Immobilizer อุปกรณ์พวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเทคโนโลยีที่รถยุคนี้ต้องมีอยู่เป็นมาตฐานกันหมดแล้วตั้งแต่รุ่นราคาเริ่มต้นแล้ว และ HR-V ก็มีมาให้ด้วย

แล้วตัวไมเนอร์เชนจ์ของรุ่นนี้ซึ่งคาดว่าจะมาในช่วงปีหน้า เพื่อปรับตัวเตรียมสู้รบกับคู่แข่งสำคัญที่กำลังจะเข้ามาในช่วงสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้าอย่าง Toyota C-HR ที่กวาดยอดขายมาอย่างถล่มทลายแล้วทั่วโลก น่าจะเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อหน่อยแบบที่เรียกว่า “มวยถูกคู่” ส่วนช่วงเวลาที่รอ C-HR เปิดตัว HR-V ก็ยังคงมีเวลากอบโกยยอดขายไปได้อย่างสบายใจ

Honda HR-V
ส่วน Toyota ก็เตรียงัดไม้ตายเพื่อจะมาแย่งยอดขายจาก HR-V แต่ก็ต้องมาลุ้นอีกทีว่า “พี่ต้า” จะส่งเครื่องยนต์แบบไหนลงสนาม

แล้วเหตุผลอะไรที่จะไม่ซื้อ HR-V

กับรถยนต์ที่ไซต์ขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่ ไม่เล็กเกินไป แต่ลงตัวด้วยความกระทัดรัด เครื่องยนต์มีอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 15 กิโลเมตรต่อลิตรทั้งที่เป็นเครื่องยนต์ 1.8L ความประหยัดกลับพอๆ รถเครื่องยนต์ 1.5L ซะด้วยซ้ำ

และยังรองรับความต้องการของผู้ใช้ในเวลาที่ต้องการซิ่ง เหยียบแล้วมา ซึ่งตอบสนองได้ดีกับตัวถังที่เบากว่า ไม่เป็นอุปสรรคต่อเครื่อง 1.8L ที่จะพาพุ่งทะยานไปได้แบบสบายๆ

เครื่องยนต์ 1.8L Honda HR-V
เครื่องยนต์ 1.8L กับบอดี้ตัวถังพอๆ กับ Jazz คิดดูว่าจะแรงแค่ไหน

คงจะมีแค่ช่วงล่างและการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารเท่านั้นที่รถรุ่นนี้ ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งน่าจะมาในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นพร้อมกับสีและหน้าตาใหม่เล็กๆ มาแต่งองค์ทรงเครื่องเพิ่ม ซึ่งน่าจะเปิดตัวช่วงไล่เลี่ยกับตอนที่ Toyota แนะนำ C-HR

เทียบกับคู่แข่งอย่าง Juke, CX-3 หรือ Ford Ecosport คงจะมีแค่ช่วงล่างเท่านั้นที่เวลาขับขี่ เข้าโค้ง ฮอนด้า เฮชอาร์วีอาจจะยังไม่หนึบ เกาะถนนเท่า แต่ถ้าเทียบกันโดยรวมทั้งหน้าตาภายนอกและภายในที่ดู “เฟรช” ใหม่ดูล้ำ สวยลงตัว ที่พร้อมออพชั่นอุปกรณ์แบบครบๆ ก็แทบจะหา

เหตุผลไม่เจอเลยว่าทำไมผู้ซื้อจะไม่เลือก HR-V ซึ่งข้อสันนิษฐานเหล่านี้ก็น่าจะอยู่ในใจผู้ซื้อที่ตัดสินใจซื้อรุ่นนี้ไปด้วยเช่นกัน จนกระทั้งทำให้ Honda HR-V เป็นผู้นำส่วนของยอดขายในรถ Segment นี้

ออฟชั่นการขับขี่ และความหรูหรา
ออฟชั่นการขับขี่ และความหรูหรา ทำมาได้แทบจะเทียบเท่ารถหรูฝั่งยุโรป

ตอบง่ายๆ แบบไม่ต้องคิดเลยว่า ถ้าใครที่เป็นสาวก Honda หรือต้องการรถที่มอบความมั่นใจทุกองค์ประกอบโดยรวม  เมื่อหาค่าเฉลี่ยความพึงพอใจออกมาแล้ว คนที่อยากได้รถที่ดูมีความภูมิฐาน ไม่วัยรุ่นเกินไปเหมือน Jazz แต่ CR-V ก็ดูเทอะทะใหญ่เกินสำหรับคุณผู้หญิงเวลาใช้งาน แต่ซีดานอย่าง Honda Civic ก็ดูธรรมดาเกินไปใครเขาก็ขับกันเลือก ฮอนด้า เฮชอาร์วี คงเป็นการตอบโจทย์ทุกมุมมองความต้องการได้อย่างลงตัวทุกข้อจำกัด ตามชื่อประเภทรถก็บอกอยู่แล้วว่า “Cossover SUV”

>> 2017 Honda Jazz รุ่นปรับโฉม เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ RS ราคาเริ่มต้น 555,000 บาท

>> Honda Civic Type R 2017 ใหม่ ขุมพลังเทอร์โบ 2.0 ลิตร

HR-V มือสองราคาเริ่มที่ 5 แสนเท่านั้น
HR-V มือสองราคาเริ่มที่ 5 แสนเท่านั้น เลือกคันที่สภาพดี รับรองคุ้ม!!

มาสำรวจที่ตลาดรถมือสองของรถรุ่นนี้ รถเพิ่งเปิดตัวมาไม่นาน ปีไม่เก่ามาก ถือว่าเป็นมือสองที่น่าคบหาไม่น้อยเลยทีเดียว ราคา HR-V มือสองเริ่มต้นอยู่ที่ 5 แสนต้นๆ เท่านั้น ซึ่งคุณอาจจะได้รุ่นตัวท็อปที่ตอนออกป้ายแดงราคาแตะล้านเลยก็ได้ รถเปิดตัวไม่นานสภาพรถไม่น่าจะโทรมเท่าไร ถ้าเจ้าของรถเก่าไม่ตะบี้ตะบันใช้จริงๆ ซึ่งคุณก็สามารถเลือกได้ ถ้าวิ่งมาเยอะ สภาพโทรม เหมือนเคยชนมาก็อย่าซื้อ หาคันใหม่ดีกว่ามีให้เลือกอีกมาใน Chobrod.com

>>> ดูเพิ่มเติม รถ hrv ราคา

แท็ก Crossover SUV