Honda e:N1 ปี 2024 SUV ไฟฟ้า เคลม 500 กม./ชาร์จ เปิดตัวในไทยให้เช่าระยะยาว เดือนละ 29,000 บาท

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 27 มี.ค 2567
แชร์ 6

26 มีนาคม 2024 ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Honda e:N1 ปี 2024 ผลิตในประเทศไทย กำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) เคลมระยะวิ่ง 500 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC เปิดในรูปแบบธุรกิจให้เช่าผ่านตัวแทน เช่าระยะยาว 5 ปี เบื้องต้นค่าเช่าประมาณเดือนละ 29,500 บาท ข้อมูลจาก orix

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 มีให้เลือก1 รุ่นย่อย มาพร้อม สีภายนอก 1 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) เปิดบริการผ่านบริษัทรถเช่า 

  • บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน)
  • บริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ออโต้ ลิสซิ่ง แอนด์ เซอร์วิส (ไทยแลนด์) จำกัด
  • บริษัท ไทย วี.พี.คอร์ปอเรชั่น จำกัด
  • บริษัท ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จำกัด
  • บริษัท พารากอน คาร์ เรนทัล จำกัด
  • บริษัท ไพร์ม คาร์เร้นท์ จำกัด
  • บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
  • บริษัท มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล จำกัด
  • บริษัท เวิลด์คลาส เรนท์ อะ คาร์ จำกัด
  • บริษัท เวิลด์เบสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
  • บริษัท เอแอลดี เอ็มเอชซี โมบิลิตี้ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด 
  • บริษัท ช.พัฒนาคาร์เรนท์ จำกัด

การเช่า Honda e:N1 จะให้บริการสำหรับลูกค้าองค์กรเท่านั้น เป็นเงื่อนไขเช่าระยะยาว 5 ปี ราคาเช่าเบื้องต้น 29,500 บาทต่อเดือนข้อมูลจาก ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จำกัด

Honda e:N1 ปี 2024

ฮอนด้า อี:เอ็น 1 (Honda e:N1) เอสยูวีไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ผลิตในประเทศไทย มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 (Motor, Power Drive Unit และ Gearbox)

อ่านเพิ่มเติม - ฮอนด้า ขึ้นไลน์ประกอบ Honda e:N1 เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% ในไทย

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 พัฒนาภายใต้แนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (Human-centered Development) โดยมุ่งเน้นการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานอันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า มาพร้อม แพลตฟอร์ม e:N Architecture F แพลตฟอร์มที่รองรับการขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าที่มีประสิทธิภาพสูงจากฮอนด้า 

กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ที่ผสานการทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ส่งผลให้สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

จุดชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้าอยู่บริเวณกระจังหน้าของตัวรถใต้โลโก้ H Mark จะมีปุ่มสีดำด้านหน้าเพื่อกดเปิดจุดชาร์จ ซึ่งสามารถรองรับหัวชาร์จ แบบ DC CCS 2 และแบบ AC Type 2 มาพร้อมไฟสีต่าง ๆ แสดงสถานะการชาร์จ

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

ขณะกำลังชาร์จไฟ แถบไฟแนวนอนจะกะพริบเบา ๆ จากซ้ายไปขวาอย่างมีชีวิตชีวา และเมื่อชาร์จเสร็จ แถบชาร์จจะสว่างอยู่ตลอดเพื่อให้รู้ว่า แบตเตอรี่ชาร์จเต็มแล้ว นอกจากนี้ หากเกิดข้อผิดพลาดในการชาร์จ จะมีไฟสีแดงกะพริบ เมื่อชาร์จเสร็จและถอดสายไฟออก รถจะส่งสัญญาณไฟกะพริบเพื่อแสดงสถานะว่าได้ถอดสายชาร์จออกแล้ว 

Drive Mode มีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่

  • โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) ที่ช่วยปรับการทำงานของมอเตอร์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น มอบประสบการณ์ที่ตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้น 
  • โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) โดยระบบจะขับเคลื่อนโดยมอบอัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลังให้ประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหมาะสมและมอบความสะดวกสบายในห้องโดยสาร
  • โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode) พร้อมปรับการทำงานของมอเตอร์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดพลังงานมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่

โลโก้ H Mark ใหม่ สไตล์พรีเมียมมินิมอล ที่จะเป็นสัญลักษณ์ของยนตรกรรมไฟฟ้าของฮอนด้า ที่มาพร้อมกับคำว่า Honda ภายใต้ฟอนต์ใหม่ที่ด้านหลังของตัวรถ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke

ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ และระบบปัดน้ำฝนด้านหลังแบบหน่วงเวลา สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสาอากาศครีบฉลาม ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว 

การตกแต่งภายในระดับพรีเมียมมินิมอล ไฟสร้างบรรยากาศภายในสีฟ้า การพับเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบ 60:40 ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้วแบบ Advanced Touch ที่รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

Honda e:N1 ปี 2024

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) อีกทั้งเทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information – BSI) ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor – CTM) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) เซนเซอร์กะระยะ 8 จุด (8-position Parking Sensors) ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold 

ฮอนด้า อี:เอ็น 1 (Honda e:N1) เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และฟีเจอร์ความปลอดภัย

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือรถยนต์ด้านหน้า
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information - BSI)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor - CTM)
  • เซนเซอร์กะระยะ 8 จุด (หน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด)
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง 
  • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
  • ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (AHA)
  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
  • ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) บนพื้นถนนที่ลื่น
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA)
  • เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS)
  • ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (TPMS)
  • ชุดซ่อมยางชั่วคราว (TPRK)

สามารถเชื่อมต่อ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ประกอบด้วย 9 ฟังก์ชันหลัก ได้แก่ 

  • My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
  • Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่
  • WiFi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์
  • Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน  
  • Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และแจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย 
  • Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ทรถยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์
  • Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้
  • Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์
  • Charging Status สามารถติดตามสถานะ หรือปรับตั้งค่าการชาร์จแบตเตอรี่ของ Honda e:N1 ได้  โดยมี 3 ระดับให้เลือก ตั้งแต่ LOW ซึ่งจํากัดกำลังไฟฟ้าไว้ที่ 6 แอมป์ ไปจนถึง HIGH ที่รองรับกระแสไฟสูงสุดจากเครื่องชาร์จได้เท่ากับกำลังสูงสุดที่แบตเตอรี่จะรับได้ 

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ