Ford Everest 2022 เจเนอเรชันใหม่ เปิดตัว 4 รุ่นย่อยได้แก่ 2.0 Turbo Trend, 2.0 Turbo Sport, 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 2WD และ 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4WD โดยแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร เรามีคำตอบ
Ford Everest 2022 เจเนอเรชันใหม่
Ford Everest 2022 เจเนอเรชันใหม่ เปิดตัว 4 รุ่นย่อย โดยจะมีรถให้ทดลองขับและสัมผัสรถจริงได้ที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมนี้
สำหรับ 4 รุ่นย่อยของ Ford Everest 2022 ประกอบด้วย รุ่นเทรนด์, รุ่นสปอร์ต, รุ่นไทเทเนียมพลัส 4x2 และรุ่นไทเทเนียมพลัส 4x4 โดยแต่ละรุ่นมีราคาจำหน่ายดังนี้
Ford Everest 2.0 Turbo Trend ราคา 1,334,000 บาท
Ford Everest 2.0 Turbo Sport ราคา 1,464,000 บาท
Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 2WD ราคา 1,704,000 บาท
Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4WD ราคา 1,854,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม - Ford เปิดราคาจำหน่ายรถเจเนอชั่นใหม่ครบ ๆ Ford Ranger 2022, Ford Everest 2022 และ Ford Ranger Raptor 2022
Ford Everest 2022 รุ่น 2.0 Turbo Trend
สำหรับรุ่นเริ่มต้น มาในราคาที่เข้าถึงได้ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิด 405 นิวตันเมตร
มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง และโหมดทางลื่น ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและออฟโรด
เบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ภายในมาพร้อมคอนโซลด้านหน้าที่วางเต็มพื้นที่ มาพร้อมแผงหน้าปัดรถยนต์แบบดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว และจอสีระบบสัมผัส 10.1 นิ้วที่ลูกค้าสามารถใช้งานระบบ SYNC4A รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
Ford Everest 2022 รุ่น 2.0 Turbo Sport
เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิด 405 นิวตันเมตร
ตกแต่งแนวสปอร์ตด้วยรายละเอียดสีดำเงาบริเวณมือจับประตู และโลโก้ EVEREST บนฝากระโปรงหน้า ไฟท้าย LED ที่เป็นเอกลักษณ์ของเอเวอเรสต์ ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี
ห้องโดยสารภาย ตกแต่งด้วยเบาะนั่งสีดำลายสปอร์ตที่ปรับได้ 8 ทิศทางทั้งเบาะคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า รุ่นสปอร์ตยังมาพร้อมช่องต่อ USB ที่กระจกมองหลังสำหรับติดกล้อง และอีก 4 ตำแหน่งบริเวณคอนโซลหน้า และเบาะแถวที่ 2
Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 2WD
ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดแบบ SelectShift กำลังสูงสุด 210 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร
ภายนอกตกแต่งแบบพรีเมียม ด้วยราวหลังคาและมือจับประตูโครเมียมสีเงิน บันไดข้างสีดำพร้อมชุดตกแต่งสีเงิน ไปจนถึงหลังคา Panoramic Moonroof มีไฟส่องสว่างข้างตัวรถช่วยให้ทราบตำแหน่งที่จอดรถในยามค่ำคืน
ภายในบริเวณคอนโซลประกอบไปด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลได้แก่ จอสีขนาด 12.4 นิ้ว และจอสัมผัสขนาด 12 นิ้วพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC4A ห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาให้หรูหราไปอีกขั้น ด้วยไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารเพื่อบรรยากาศอันสุนทรีย์ โดยเบาะนั่งแถวที่ 3 พับไฟฟ้าได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ ลูกค้าชาร์จอุปกรณ์สื่อสารได้ที่ช่องต่อไฟ 230V ที่คอนโซลกลาง
เพิ่มระบบ Electric Brake Booster ที่รองรับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control รวมถึงอุปกรณ์ปกป้องความปลอดภัยอีกมากมาย ได้แก่
Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4WD
เป็นรุ่นที่มาพร้อมความสมบุกสมบัน และความสะดวกสบายเหนือชั้นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter 10 สปีด เสริมด้วยระบบ Terrain Management System ที่มอบตัวเลือกการขับขี่ 6 โหมด คือ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง โหมดทางลื่น โหมดโคลน และโหมดทราย พร้อมระบบดิฟล็อคหลังแบบไฟฟ้า
ไฟหน้า Matrix LED พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันไฟรบกวนสายตา มาพร้อมความปลอดภัยอัจฉริยะทั้งระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (Hill Descent Control) และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 (Fully Automated Active Park Assist)
สีขาว สโนว์เฟลค ไวท์ เพิร์ล
สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก
สีดำ แอบโซลูท แบล็ก (เฉพาะรุ่น Trend และ Sport)
สีดำ อีโบนี (เฉพาะรุ่น Titanium+)
สีเทา เมทิออร์ เกรย์
สีน้ำตาล อีควิน็อกซ์ บรอนซ์
สีส้ม เซโดนา ออเรนจ์
สีน้ำเงิน บลู ไลท์นิ่ง (เฉพาะรุ่น Sport)
ห้องโดยสารภายเป็นสีดำ มีเพิ่มตัวเลือกพิเศษสีครีมพราลีน เฉพาะรุ่น Titanium+ เท่านั้น
Ford Everest 2022 เจเนอเรชันใหม่ ผลิตที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) ในจังหวัดระยอง เพื่อจำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปยังตลาดสำคัญทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ
นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า
“เราตั้งใจนำเสนอฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ให้เป็นรถที่พร้อมพาคุณไปทุกที่ และมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกการเดินทาง โดยฟอร์ดได้นำเสนอรุ่นย่อยที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหารถที่ใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ โดดเด่นด้วยสมรรถนะ และมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง”
“ฟอร์ดยังมุ่งมั่นการให้บริการลูกค้าแบบ ‘พร้อมเสมอ’ ผ่านนวัตกรรมที่ล้ำสมัยในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยคำมั่นสัญญาในการดูแลลูกค้าของเราเสมือนคนในครอบครัว”
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ