E-Charging lane ถนนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
ตลาดรถยนต์ในประเทศ |
17 ก.ย 2564
ในอนาคตผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องจอดรถเวลาแบตเตอรี่หมดอีกต่อไป เพราะได้มีการพัฒนาถนนเทคโนโลยีระบบชาร์จแบบไร้สาย ที่จะทำให้คุณสามารถขับรถได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะทางไกลได้ การสร้างถนนที่สามารถขับรถไปพร้อมๆ กับการชาร์จไฟฟ้าไปในตัวได้นั้น เรียกว่าตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยการไม่ต้องจอดชาร์จเป็นเวลานานนั่นเอง
ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายบริษัทพยายามแข่งขันกันพัฒนาการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ ขึ้นมา เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต แม้ว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งบนถนนได้จริง หรือมีสถานีเติมไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแล้วก็ตาม แต่ปัญหาสำคัญในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ายังคงเป็นการจอดรถเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ที่หมดเร็วนั่นเอง ซึ่งการจอดชาร์จแต่ละครั้งก็ใช้เวลานาน จึงทำให้ความนิยมสำหรับการจะก้าวเข้าไปสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้านั้นยังคงล่าช้า
ในปัจจุบันรัฐบาลของประเทศอังกฤษได้อนุมัติเกี่ยวกับการทดสอบถนนชาร์จพลังงานไฟฟ้ารถยนต์แบบไร้สายบทถนนหลวง เรียกว่า“Electric Highways” หรือ ทางหลวงไฟฟ้า โดยแนวคิดการฝังเทคโนโลยีการชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ไว้ใต้ถนนนั้นมาจากระบบรถขนส่งสาธารณะ (รถบัสพลังงานไฟฟ้า) ในเมืองกูมิ ประเทศเกาหลีใต้ ที่มีการติดตั้งระบบชาร์จไฟไว้ใต้ถนนเป็นระยะทางกว่า 12 กิโลเมตร ซึ่งแนวคิดนี้เป็นการกระตุ้นให้คนหันมานิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น การทำงานของระบบชาร์จไฟฟ้าแบบไร้สายนั้น เป็นการทำงานโดยจะสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้ารูปแบบคล้ายกับที่ใช้ในการชาร์จไฟฟ้าแบบไร้สายในโทรศัพท์มือถือ โดยใช้อุปกรณ์ฝังไว้ใต้พื้นถนน และอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ภายในรถยนต์จะทำหน้าที่ดึงเอาพลังงานเหล่านั้นเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าไปเก็บยังแบตเตอรี่เพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนต่างๆ ของรถยนต์ต่อไป โดยที่ไม่ต้องหยุดรถยนต์เสียบสายชาร์จตามจุดชาร์จให้เสียเวลา
การพัฒนาถนนที่สามารถชาร์จไฟฟ้าได้นั้น แม้จะถูกมองว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล เมื่อเทียบกับว่าในอนาคตอาจจะมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ สามารถคิดค้นแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถทำให้รถวิ่งได้ระยะทางไกลและวิ่งได้นานแล้วก็เป็นได้แต่อย่างไรก็ตาม จุดเด่นที่สุดที่มองว่าเป็นข้อดีที่แบตเตอรี่ยังให้ไม่ได้นั่นก็คือ การไม่ต้องจอดชาร์จ เพราะถึงแม้ว่าในอนาคตแบตเตอรี่อาจจะใช้ได้นานหรือมีการผลิตแบตเตอรี่สำรอง แต่การไม่ต้องจอดชาร์จย่อมดีกว่าแน่นอน ในอนาคตข้างหน้าการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมันในรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพที่พร้อมใช้งานได้จริงจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรอย่างน้ำมันที่มีอยู่อย่างจำกัด และลดการปล่อยมลพิษทำลายชั้นบรรยากาศของโลกด้วย
www.chobrod.com