BMW XM 2023 รุ่น Label Red เปิดตัวในไทย สุดลิมิเต็ด 500 คันทั่วโลก รับจองแต่ยังไม่เผยราคา

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 28 ก.ย 2566
แชร์ 0

บีเอ็มดับเบิลยู XM 2023 รุ่นลิมิเต็ด Label Red ที่หรูหราและดูสปอร์ตเข้ม BMW XM 2023 รุ่น Label Red เปิดตัวในไทย สุดลิมิเต็ด 500 คันทั่วโลก เปิดรับจองแล้วบนเว็บไซต์ของ BMW แต่ยังไม่เผยราคา

BMW XM 2023 ที่เปิดจำหน่ายแล้วในไทย 3 รุ่น

  • BMW XM ราคา 14,899,000 บาท
  • BMW XM 50e เตรียมเปิดตัวและราคา (ขึ้นไลน์ผลิตในไทย คาดกราณ์ราคา 7 ล้านบาท)
  • BMW XM Label Red รุ่นลิมิเต็ด

BMW XM Label Red

BMW XM Label Red 2023 โดยผลิตมาในจำนวนจำกัดทั่วโลกเพียง 500 คัน ซึ่งภายในตัวรถจะมีเลขระบุ 1/500 อยู่บริเวณด้านล่างของจอ Control Display

อ่านเพิ่มเติม - BMW XM 50e ปี 2023 รุ่นย่อยใหม่ ประกาศเปิดตัวในไทย

BMW XM Label Red 2023 ไฮไลท์ที่โดดเด่นคือสีตัวถังภายนอกสีดำ BMW Individual Frozen Carbon Black Metallic กระจังหน้าทรงไตคู่ตามแบบฉบับ BMW M พร้อมขอบสองชั้นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่ด้านหน้ามาในรูปทรงแนวนอน

BMW XM Label Red

ขอบด้านนอกของกระจังหน้าทรงไตคู่แต่ละข้างยังตกแต่งด้วยสีแดง Toronto Red metallic ขอบด้านในมากับไฟรูปทรงโค้งมนเป็นวงแหวนไฟที่ให้แสงอย่างคมชัดและต่อเนื่อง แถบเน้นสีมันวาวตัดกับพื้นผิวสีแบบด้านซึ่งส่องแสงระยิบระยับ

BMW XM Label Red 2023  เครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo อันล้ำสมัย และระบบขับเคลื่อน M HYBRID ซึ่งให้กําลังรวมสูงสุด 550 กิโลวัตต์/ 748 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร

เครื่องยนต์สันดาปกำลังเครื่องยนต์สูงสุด 430 กิโลวัตต์/585 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 750 รอบต่อนาที ที่ 1,800 – 5,400 รอบต่อนาที

ระบบไฟฟ้าให้กำลังมอเตอร์สูงสุดที่ 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 280 นิวตันเมตร นอกเหนือจากการจ่ายกำลังไฟฟ้าในระหว่างการเร่งความเร็วแล้ว มอเตอร์ไฟฟ้ายังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์สันดาป

BMW XM Label Red 2023 สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลา 3.8 วินาที

BMW XM Label Red

ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive ช่วยถ่ายทอดกำลังที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าไปที่ล้อทั้งสี่ได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และตรงตามความต้องการใช้งานตลอดเวลา ระบบเฟืองท้าย M Sport ยังช่วยเสริมสมรรถนะของรถด้วยการกระจายกำลังขับเคลื่อนระหว่างล้อหลัง ช่วยให้ตัวรถยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเสริมเสถียรภาพการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ

ช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension Professional มอบการควบคุมแบบสปอร์ตโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายของผู้ขับขี่

ระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional ยังมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความเร็วของรถในระดับที่ต้องการและคงระยะห่างจากรถคันหน้าให้สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถยนต์อยู่ในเส้นทางอย่างคงที่ด้วยระบบบังคับพวงมาลัย เพื่อความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ยังช่วยให้การจอดรถและการบังคับรถทำได้ง่ายขึ้น

BMW XM Label Red

โทนสีดำและแดง แบบสปอร์ตในห้องโดยสารของ BMW XM Label Red 2023 ตราสัญลักษณ์ XM สีแดงสุดโดดเด่นบริเวณใต้หน้าจอ Control display ควบคู่ไปกับแถบตกแต่งภายในคาร์บอนไฟเบอร์แบบซาติน ประดับด้วยด้ายเน้นสีแดงและสีน้ำเงิน

พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M มีส่วนประกอบตกแต่งในสีดำโครเมียม พร้อมด้วยปุ่ม M และแป้นเปลี่ยนเกียร์คาร์บอนซึ่งมีสัญลักษณ์บวกและลบเป็นสีแดง พร้อมทั้งคุณสมบัติพิเศษเฉพาะของ BMW XM Label Red 2023 จากตราสัญลักษณ์ที่ระบุโหมดการขับขี่แบบ Boost Mode บนแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านซ้าย ส่วนห้องโดยสารด้านท้ายแบบ M Lounge สุดพิเศษ

ผ้าบุหลังคายังเป็นเสมือนงานประติมากรรม 3 มิติ ลวดลายแบบปริซึมและเมื่อเปิดหลังคาก็จะพบกับหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวงบนหลังคาที่ส่องสว่างอย่างงดงามยามค่ำคืน คอนโซลด้านบนยังบุด้วยหนังแบบ BMW Individual ทำให้การตกแต่งภายในสะดุดตาและหรูหราไปอีกขั้น นอกจากนี้ ยังมีชุดไฟตกแต่งภายใน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ระบบระบายอากาศ ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bowers & Wilkins Diamond surround sound system พร้อมด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยอีกมากมาย

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ