4 รถยอดนิยม พาเหรดเตรียมเปิดตัวใหม่ ยืนยันแล้วมาแน่หลังกลางปี 2018

4 รถยอดนิยม พาเหรดเตรียมเปิดตัวใหม่ ยืนยันแล้วมาแน่หลังกลางปี 2018

ซึ่ง 4 รุ่นที่ว่านี้ได้แก่ MG3 ไมเนอร์เชนจ์ 2018, Ford Everest ไมเนอร์เชนจ์ 2018, Honda HR-V ไมเนอร์เชนจ์ 2018 และ New Mitsubishi Xpander ที่แต่ละรุ่นไม่มีซ้ำตลาดกันเลย ส่วนรายละเอียดจะเป็นวันไหน ช่วงไหนบ้าง Chobrod ขออาสาพาทุกคนไปดูพร้อมๆ กัน

MG3 ไมเนอร์เชนจ์ 2018

ทำตลาดมานานพอสมควรสำหรับรถในประเภท B-Segment รุ่นบุกเบิกตลาดเมืองไทยของ MG อย่าง MG3 ที่หลังจาก MG ZS สร้างกระแสความนิยมรถขายดีให้กับค่าย ภายใต้นิยามการออกแบบ บริท ไดนามิค (Brit Dynamic) MG ก็ได้นำการออกแบบเดียวกันนี้มาใช้กับ MG3 ด้วยเพื่อกระตุ้นตลาดจากโฉมปัจจุบันที่ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 และก็มีการเปิดตัวรุ่นปรับปรุงมานิดๆ หน่อย ไม่แตกต่างจากเดิมนัก แต่คราวนี้ถือว่าเปลี่ยนหน้าไปเยอะพอสมควร

ปรับหน้าตาใหม่ดูคล้าย MG ZS ตามนิยามการออกแบบใหม่ของ MG

และการเปลี่ยนในแบบไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ของ MG3 เด่นที่สุดที่เปลี่ยนไปมากคือภายนอก ที่ส่วนด้านหน้า หน้าตาจะเป็นโฉมเดียวกับที่เปิดตัวในประเทศจีนเมื่อไม่นาน คอนเซ็ปต์เดียวกับ MG ZS และภายในที่คาดว่าจะมากับแผงคอนโซลดีไซน์ใหม่ ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ที่ใช้จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน VTI-TECH ขนาด 1.5L ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 106 แรงม้า เช่นเดิม เพิ่มเติมคือระบบเกียร์ที่คาดว่าจะเปลี่ยนมาใช้เป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 Speed แทนจากเดิมที่ใช้เป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 Speed Sele Metic

แผงแดชบอร์ดใหม่ของเวอร์ชั่นขายที่จีนสำหรับ MG3

ในเรื่องอุปกรณ์สุดล้ำที่สร้างชื่อให้กับ MG ZS ก็ต้องรอลุ้นว่า MG จะให้มากับการไมเนอร์เชนจ์ใหม่ครั้งนี้ของ MG3 ด้วยหรือไม่ นั่นคือระบบ i-SMART สั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ยังไงต้องรอติดตามรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงในรอบนี้ พร้อมทั้งราคาอีกครั้งในวันเปิดตัวที่ระบุออกมาแล้ว เป็นวันที่ 21 มิถุนายน 2018 ที่จะถึงนี้

>> รีวิว NEW MG ZS 2018 SMART SUV

Ford Everest ไมเนอร์เชนจ์ 2018

ค่าย Ford สร้างความตื่นเต้นในตลาดรถเมืองไทยไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี ด้วยการเปิดตลาดใหม่กับกระบะพรีเมี่ยม สมรรถนะสูงครั้งแรก ที่ราคาแตะ 1.7 ล้านบาท มาตอนนี้ Ford ยังไม่หยุดที่จะกระหน่ำวงการ ด้วยการเตรียมเปิดตัวโฉมไมเนอร์ของรถ PPV ในค่ายอย่าง Ford Everest

ภายนอกเปลี่ยนนิดหน่อยสำหรับด้านหน้า ที่ส่วนกระจังและกันชน

ซึ่งหลายฝ่ายทั้งสื่อในสื่อนอกต่างชี้เป็นเสียงเดียวกันว่า การไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ที่แม้จะดูเปลี่ยนไปไม่มากนักที่ภายนอก แต่เรื่องของขุมกำลัง คือไฮไลท์สำคัญที่จะมีการนำเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับที่ใช้ใน Ranger Raptor เข้ามาอยู่ใน Everest ไมเนอร์เชนจ์นี้ เป็นเครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue 2.0L Bi-Turbo พละกำลัง 213 แรงม้า (หรือน้อยกว่านั้น) พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 Speed ที่ใช้อยู่ใน F-150, Mustang ที่สำคัญกับปุ่มสตาร์ท และกุญแจ Keyless Entry ที่ทุกคนรอคอย ก็จะถูกเพิ่มเข้ามาในการไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

ต้องรอดูสำหรับ Everest ไมเนอร์เชนจ์นี้จะมากับเครื่องยนต์กี่แรงม้า

ไม่เพียงเท่านั้น ในเรื่องระบบความปลอดภัย Everest ไมเนอร์เชนจ์นี้จะมีการนำเทคโนโลยีใหม่เป็นระบบช่วยเบรกอัตโนมัติตรวจจับรถ และคนเดินถนน(Autonomous Emergency Braking) เข้ามา ซึ่งวันเปิดตัวก็ระบุออกมาแล้วเช่นกัน เป็นวันที่ 10 กรกฎาคม 2018 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้าน Ranger ไมเนอร์เชนจ์ยังไม่มีการออกมายืนยันจากทาง Ford ว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ Everest ครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ยังไงต้องรอติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดอีกที

Honda HR-V ไมเนอร์เชนจ์ 2018

ทำตลาดพร้อมกับโกยยอดขายเด่นมาตั้งแต่เริ่มเปิดตัวปี 2015 แต่พักหลังๆ แรงเริ่มตกจากการมาของคู่แข่งอันดับหนึ่งอย่าง Toyota C-HR และน้องใหม่ราคาเร้า อย่าง MG ZS จนโดนแซงยอดขาย ทำให้ทาง Honda น่าจะคิดได้แล้วว่า ควรแก่เวลาที่การไมเนอร์เชนจ์ใน Honda HR-V จะมาได้สักที

รีเฟรชให้น่าซื้อยิ่งขึ้นสำหรับ Honda HR-V

ซึ่งการไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ จะตามติดที่เพิ่งเปิดตัวในญี่ปุ่นไปเมื่อไม่นานมานี้ (Vezel) กับหน้าตาที่ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แค่เป็นการอัพเดท ให้รุ่นนี้ดูเฟรชน่าซื้อขึ้น กับเรื่องรายละเอียดตามจุดต่างๆ ตั้งแต่กระจังดีไซน์ใหม่แนวยาว “Flying Wing Grille”  ที่เพิ่มเส้นโครเมี่ยมเข้ามานิดหน่อย พร้อมไฟหน้าแบบ inline LED headlights ทรงยาวในโคมใหม่ นอกนั้นแล้วภาพรวมของดีไซน์ตัวรถยังคงไว้ที่ทรงเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก

ภายนอกเปลี่ยนไปที่ด้านหน้า เพิ่มเติมคือระบบความปลอดภัย

แต่ที่น่าสนใจกว่าในการไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ของ Honda HR-V คือ การมาของระบบความปลอดภัยที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะที่รถเปลี่ยนเลน (Honda Lanewatch), ระบบช่วยเตือนและเบรคที่ความเร็วต่ำ (City Brake Active System), และระบบล๊อครถอัตโนมัติ เมื่อตัวกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) เรียกได้ว่าในเรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัยที่อัพเพิ่มมาใหม่นี้ ไม่น้อยหน้าเหล่ารุ่นใหม่คู่แข่งที่เพิ่งเปิดตัวเลย และคาดว่าอาจจะมีการปล่อยรุ่นสปอร์ต RS เพิ่มมาอีกหนึ่งรุ่นด้วย ซึ่งยังไงต้องรอติดตาม โดยในรุ่นปรับโฉมของ HR-V ไมเนอร์เชนจ์นี้ยังไม่มีการยืนยันระบุวันออกมาแต่อย่างใด แต่คาดว่าจะเป็นช่วงเดือน มิถุนายนถึงสิงหาคมปีนี้ แฟนๆ รอเก็บตังกันได้เลยสำหรับสาวกครอสโอเวอร์ของค่าย “H” ใหญ่

>> Compact ยกสูง Toyota C-HR กับ Honda HR-V ควรจะเลือกคันไหน ?

New Mitsubishi Xpander

MiniMPV ที่จะเข้ามาเขย่าตลาดเมืองไทย หลังจากสร้างกระแสความนิยมมาแล้วทั่วอาเซียน ขายดิบขายดจนทำให้แผนเปิดตัวในไทยต้องเลื่อนออกไป กับ Mitsubishi Xpander ที่ทาง Chobrod เคยนำเสนอทั้งข้อมูลของรุ่นนี้ รวมไปถึงการเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Honda BR-V ที่ล่าสุดทาง Mitsubishi ประเทศไทยก็ได้มีการยืนยันออกมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย ว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการทางช่วงเดือนสิงหาคม 2018 ที่จะถึงนี้ ภายในงาน Big Motor Sales 2018 ช่วงวันที่ 18 - 27 สิงหาคม 2018

Xpander สร้างยอดขายถล่ม ยอดจองทลาย ให้ประเทศเพื่อนบ้านไทยมาแล้ว

>> รีวิว Mitsubishi Xpander 2018 รถ MiniMPV 7 ทึ่นั่ง

โดย Mitsubishi Xpander เป็นรถ MiniMPV แบบเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่รูปแบบดีไซน์ทาง Mitsubishi ตั้งใจไว้ว่าจะต้องโดนใจคนทั่วโลก และไม่ให้ดูน่าเบื่อเกินไปอย่าง MiniMPV รุ่นอื่นๆ แต่จะใส่อารมณ์ของความเป็น SUV ผสมเข้ามา ด้วยเส้นสายที่ดูบึกบึนกว่า และหน้าตาล้ำๆ ที่ถอดแบบมาจากรถต้นแบบ XM Concept ครอสโอเวอร์

ขุมกำลังจะใช้เป็น เครื่องยนต์เบนซินรหัส 4A91 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วาล์วแปรผัน MIVEC ขนาด 1.5L ให้กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 104 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 141 Nm ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่การทำงานด้วยเกียร์สองทางเลือกทั้งแบบธรรมดา 5 Speed และเกียร์อัตโนมัติ 4 Speed ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก ส่วนด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก

ดีไซน์ของ MPV ผสม SUV น่าจะทำให้ Xpander เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของใครหลายๆ คน

ส่วนในเรื่องระบบความปลอดภัย เมื่ออิงจากเวอร์ชั่นของประเทศที่รุ่นนี้มีจำหน่ายอยู่ เมื่อมาถึงตัวที่ขายบ้านเราก็คงต้องลุ้นกันหน่อยว่าทางค่ายจะตัดฟีเจอร์อะไรออกไปบ้างหรือเปล่า แต่คาดว่าจะไม่ตัดอะไรออกไปเพราะแต่ละอย่างที่ให้มา ค่อนข้างเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่รถยุคนี้ “ต้องมี” จากคะแนนการทดสอบระดับความปลอดภัยในเรื่องการชนของ Xpander ได้สูงระดับ 4 ดาวจากเต็ม 5 ของ ASEAN NCAP และระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจของ Xpander(เวอร์ชั่นจำหน่ายในฟิลิปปินส์) มีอยู่ดังต่อไปนี้

ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)

ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)

ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)

ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)

ไฟเบรคกระพริบฉุกเฉิน Emergency Stop Signal (ESS)

ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)

กล้องมองหลัง

Mitsubishi  Xpander รุ่นนี้ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย น่าจะดึงผู้ซื้อทั้งตลาดรถ 7 เบาะสำหรับครอบครัวได้ รวมไปถึงผู้ซื้อของตลาดครอสโอเวอร์ก็น่าจะมีคนสนใจ ยังไงต้องรอดูตัวเลขราคาที่ Mitsubishi เปิดมาว่าจะอยู่ที่ราคาเท่าไร ถ้าราคาเร้าใจเท่าเรื่องดีไซน์ ก็ไม่ยากที่ Xpander จะอยู่ทำตลาดในเมืองไทยได้ยาวๆ ไม่อันตรธานหายไปเหมือนรถ 7 ที่นั่งรุ่นพี่อย่าง Mitsubishi Space Wagon ที่ราคาสูงเกินไปจนคนไทยส่ายหน้า

ทั้งหมดนี้คือ 4 รุ่นที่ชัดเจนแล้วว่าเตรียมจะเปิดตัวขายในไทยช่วงครึ่งปีหลัง 2018 ใครที่กำลังสนใจในรถประเภทไหน รุ่นไหนอยู่ เตรียมตัวให้พร้อมรอชมรอดูตัวจริงกันได้เลย และสำหรับรุ่นที่ยังไม่ได้กำหนดวันเปิดตัวมา รอติดตามอัพเดทข่าวแบบฉับไวได้ที่นี่ Chobrod.com

ดูเพิ่มเติม

>> 5 รถยอดนิยมราคาเบาๆ ที่สาวออฟฟิศ มีขับไว้ ไม่ตกเทรนด์

>> 8 รุ่นแม็กซ์สวย ยอดนิยมในเมืองไทย ทั้งแต่งซิ่งแต่งสวย ก็ต้องโดน