“ดีเจเก่ง” ที่ถูกโพสต์คลิปฉาวถอยรถชนคู่กรณีเล่นงานในสื่อสังคมออนไลน์ ถูกส่ง ตัวฟ้องศาล กลับคำให้การขอสู้คดีในชั้นศาล พร้อมจัดหาทนายความเอง หลังโร่เข้ามอบตัวรับสารภาพอ้างถูกรถปาดหน้าก่อน และยกมือไหว้สำนึกผิด ศาลนัดพร้อมคู่ความอีกครั้ง วันที่ 7 มี.ค. เวลา 09.00 น.
“ดีเจเก่ง” ที่ถูกโพสต์คลิปฉาวถอยรถชนคู่กรณีเล่นงานในสื่อสังคมออนไลน์ ถูกส่ง ตัวฟ้องศาล กลับคำให้การขอสู้คดีในชั้นศาล พร้อมจัดหาทนายความเอง หลังโร่เข้ามอบตัวรับสารภาพอ้างถูกรถปาดหน้าก่อน และยกมือไหว้สำนึกผิด ศาลนัดพร้อมคู่ความอีกครั้ง วันที่ 7 มี.ค. เวลา 09.00 น.
กรณีปรากฏคลิปภาพในสังคมออนไลน์ ขณะนายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือดีเจเก่ง อายุ 35 ปี อดีตดีเจคลื่นวิทยุสวีทเอฟเอ็ม 89.5 ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน ฌล 9645 กรุงเทพมหานคร ถอยหลังชนรถโตโยต้า ยาริส สีแดง ทะเบียน กษ 8399 ขอนแก่น ของนายกวินกาญจน์ ศรีฤาชา อายุ 32 ปี ถึง 3 ครั้ง บนถนนมิตรไมตรี จนรถคู่กรณีเสียหายยับเยิน แต่ครั้งแรกนายภัทรศักดิ์ปฏิเสธ อ้างว่าคู่กรณีขับรถชนท้ายรถตัวเอง แต่หลังจากมีผู้ถ่ายคลิปขณะเกิดเหตุมาเผยแพร่ จึงออกมายอมรับสารภาพ อ้างว่าถูกคู่กรณีขับรถปาดก่อน ถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์อย่างหนักจนถูกต้นสังกัดประกาศไล่ออกจากการเป็นดีเจ และถูกพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง แจ้งข้อหาหนักหลายข้อหาและสั่งยึดใบขับขี่ 60 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเป็นคดีความอื้อฉาวนายภัทรศักดิ์ หรือดีเจเก่ง เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ต่อมา วันที่ 11 ม.ค.พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายภัทรศักดิ์ ส่งให้พนักงานอัยการเพื่อฟ้องศาล แต่อัยการมีความเห็นให้สอบสวนเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนจึงยื่นคำร้องผัดฟ้องฝากขังนายภัทรศักดิ์ที่ศาลแขวงพระนครเหนือในวันเดียวกัน โดยวันดังกล่าวนายภัทรศักดิ์ให้สัมภาษณ์พร้อมยกมือไหว้ว่า “วันนี้ตนมารับโทษที่ได้กระทำผิดไปและอยากจะบอกกับทุกคนว่าสำนึกผิด ต่อไปถ้ามีโอกาสได้ขับรถจะระมัดระวัง จะไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน” กระทั่งครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการยื่นฟ้องตามกำหนด ศาลนัดสอบคำให้การวันเดียวกันนี้
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือดีเจเก่ง ได้เดินทางไปยังศาลแขวงพระนครเหนือ ถนนรัชดาภิเษก เพื่อให้การในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องใน 3 ข้อหาประกอบด้วย ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น, ทำร้ายร่างกายไม่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายทางร่างกายและจิตใจ และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ จากกรณีที่ขับรถกระบะถอยหลังชนรถเก๋งโตโยต้า ยาริส ที่เป็นข่าวดังเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา
โดยศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อหา ศาลจึงนัดพร้อมคู่ความทั้งสองฝ่าย ในวันที่ 7 มีนาคมนี้ เวลา 09.00 น.